31 ส.ค. เวลา 01:00 • ประวัติศาสตร์

จอห์น สโนว์ กับแผนที่คนตาย

เช้าวันที่ 31 สิงหาคม ปีค.ศ. 1854 ย่าน Soho กรุงลอนดอน
เป็นเช้าที่ดูปกติเหมือนวันอื่นๆ ทั่วไป
ถ้าจะมีอะไรที่พิเศษบ้างก็คงเป็นเด็กชายวัย 5 เดือนคนหนึ่งชื่อ ฟรานเซส ลูอิส ที่ป่วยด้วยอาการถ่ายเหลวอย่างรุนแรง จนสุดท้ายเสียชีวิตและจากโลกนี้ไป
แต่วันรุ่งขึ้น ความไม่ปกติก็เริ่มเป็นที่รับรู้ได้ทั่วไป ชาวบ้านในย่าน Soho เริ่มท้องเสียรุนแรง และเสียชีวิตไปทีละคนสองคน ความเร็วและรุนแรงของการระบาดค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อถึงวันที่ 3 กย. ก็มีคนเสียชีวิตไปมากถึง 127 คน พอครบสัปดาห์จำนวนคนตายจากโรคอหิวาต์ที่ระบาดก็พุ่งขึ้นไปถึง 500 คน
1
ย่านโซโหของกรุงลอนดอนยุคนั้น เป็นพื้นที่แออัดของคนยากจน ในพื้นที่แค่ไม่กี่ตารางไมล์มีผู้คนอาศัยอยู่รวมกันมากกว่า 15,000 คน ยุคนั้นยังไม่มีระบบประปา ผู้คนต้องพึ่งน้ำจืดจากบ่อน้ำที่กระจายอยู่หลายๆ แห่ง ใครอยากใช้น้ำก็ต้องไปโยกคันโยกเพื่อปั๊มให้น้ำไหลออกมา ถ้าอยากเอากลับไปกินดื่ม หรือใช้ที่บ้านก็ต้องนำภาชนะมาใส่กลับไป ส้วมแบบปัจจุบันก็ไม่มี แต่จะเป็นส้วมหลุมที่เรียกว่า cesspits
1
ความจริงการระบาดของโรคอหิวาต์ไม่ใช่เรื่องใหม่ กรุงลอนดอนเคยมีการระบาดของโรคนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่การระบาดในครั้งนั้นถือได้ว่า รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ ถึงขนาดว่าเมื่อผ่านไปประมาณสัปดาห์นึง มีคนประมาณ 8 พันคนย้ายหนีออกจากพื้นที่เพราะกลัวโรคที่กำลังระบาด
3
ยุคนั้นหมอและนักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้จักเชื้อโรค ถ้าถามพวกเขาว่าโรคระบาดนี้เกิดจากอะไร คำตอบที่จะได้คือ อากาศเป็นพิษที่เรียกว่า มิแอสมา (miasma) ซึ่งก็รวมไปถึงกลิ่นเหม็นต่างๆ ด้วย
แต่หมอวิสัญญีแพทย์วัย 41 ปีคนหนึ่งที่ชื่อ จอห์น สโนว์ (John Snow) คิดต่างไป
ด้วยความที่เขาเคยศึกษาเกี่ยวกับการระบาดของโรคอหิวาต์มาก่อน เขาจึงเห็นว่า การระบาดกับการแหล่งน้ำมีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน จนเหมือนว่า การระบาดของโรคเกิดขึ้นผ่านแหล่งน้ำที่คนใช้
1
เมื่อเกิดการระบาดของโรคอหิวาต์อีกครั้งเขาจึงมองว่า นี่เป็นโอกาสที่จะพิสูจน์สิ่งที่เขาเชื่อ วิธีการที่เขาใช้เพื่อพิสูจน์ก็เป็นวิธีที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน นั่นก็คือ การลงพื้นที่แล้วเก็บข้อมูลอย่างละเอียด
1
เขาเริ่มต้นด้วยการเดินไปตามบ้านต่างๆ เพื่อสัมภาษณ์ญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ที่รอดชีวิต โดยถามหาข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการดื่มน้ำของแต่ละครอบครัว เขาต้องการรู้ว่าผู้คนได้น้ำดื่มมาจากปั๊มไหน และมีพฤติกรรมการใช้น้ำอย่างไร
1
จากข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ ดร.สโนว์ได้สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน นั่นคือ "แผนที่การระบาด" โดยเขานำข้อมูลว่าแต่ละคนดื่มน้ำจากบ่อน้ำไหน แล้วมาจุดลงในแผนที่ของย่านโซโห จากนั้น ก็จุดคนที่เสียชีวิตลงไปในแผนที่ว่า บ้านไหน มีคนเสียชีวิตกี่คนบ้าง
1
ยิ่งจุดมากขึ้น แบบแผนบางอย่างก็เห็นได้ชัดขึ้นเรื่อยๆ คือ ตำแหน่งของคนที่เสียชีวิตมากๆ จะใกล้กับตำแหน่งของบ่อน้ำแห่งหนึ่ง นั่นคือ บ่อน้ำที่อยู่บนถนนชื่อว่า บรอด (Broad street) การค้นพบนี้ทำให้เขาเริ่มเชื่อมากขึ้นว่าน้ำจากปั๊มนี้คือต้นตอของปัญหา
2
นอกจากนี้เขายังพบว่ามีกรณียกเว้นหลายกรณีที่ยิ่งทำให้สมมติฐานของเขาเป็นไปได้มากขึ้น เช่น
1
มีโรงเบียร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่ระบาด ซึ่งบ้านใกล้เรือนเคียงมีคนตายมากมาย แต่พนักงาน 70 กว่าคนของโรงเบียร์แห่งนี้กลับไม่มีใครป่วยหรือตายจากโรคระบาดแม้แต่คนเดียว เมื่อศึกษาในรายละเอียดก็พบว่า คนงานเหล่านี้ ได้สิทธิพิเศษที่จะดื่มเบียร์ฟรีระหว่างการทำงาน คนเหล่านี้จึงไม่ไปดื่มน้ำจากบ่อสาธารณะ
ไม่ห่างจากโรงเบียร์มากนัก ก็มีคอนแวนต์แม่ชีอยู่อีกแห่ง ซึ่งไม่มีใครป่วยตายเลย เมื่อตรวจสอบรายละเอียดก็พบว่า ภายในคอนแวนต์มีบ่อน้ำบาดาลเป็นของตัวเอง จึงไม่ต้องอาศัยน้ำจากบ่อสาธารณะ
2
และกรณีพิเศษที่สุดคือ กรณีของหญิงสูงอายุชื่อ ซูซานน่า อีลี่ ซึ่งอาศัยอยู่ในย่านแฮมป์สเตดที่ ห่างไกลจากย่านโซโหมาก แต่ป่วยตายจากโรคอหิวาต์ ความแปลกคือ แถวย่านแฮมป์สเตดมีเธอคนเดียวที่ป่วยด้วยโรคนี้ แต่เมื่อตรวจสอบรายละเอียดก็พบว่า แต่เดิมเธอเคยอาศัยอยูในย่านโซโหและชื่นชอบรสชาติของน้ำจากปั๊มถนนบรอดเป็นพิเศษ จึงขอให้ลูกชายเดินทางไปตักน้ำจากปั๊มนั้นมาส่งให้เป็นประจำทุกสัปดาห์ กรณีนี้จึงเป็นหลักฐานที่ชัดที่สุดซึ่งชี้ให้เห็นว่า โรคระบาดมาจากน้ำในบ่อที่ถนนบรอด
2
ในวันที่ 7 กันยายน หมอสโนว์ ก็นำข้อมูลที่เขารวบรวมได้ไปเสนอกับคณะกรรมการสาธารณสุขท้องถิ่นเผื่อให้แก้ปัญหาที่บ่อน้ำ แต่ด้วยความที่คนยุคนั้นเชื่อในทฤษฏีอากาศพิษ จึงไม่สนใจสิ่งที่หมอสโนว์เสนอมากนัก สุดท้ายหมอสโนว์เลยตัดสินใจที่ไปถอดปั๊มคันโยกของบ่อน้ำที่ถนนบรอดออก
3
หลังจากนั้นไม่นาน โรคระบาดก็สงบลง
1
ในเวลาต่อมา จึงมีการค้นพบข้อมูลที่สำคัญเพิ่มขึ้นว่า บ่อส้วมของบ้านเลขที่ 40 ถนนบรอด ซึ่งเป็นที่อยู่ของครอบครัวลูอิส นั้นห่างไปจากบ่อน้ำบาดาลที่เป็นแหล่งน้ำของบ่อถนนบรอดแค่ 3 ฟุตเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นมีการพบว่า บ่อส้วมมีการรั่วซึมเพราะอิฐที่ใช้ก่อส้วมเสื่อมสภาพ ทำให้น้ำจากของเสียสามารถซึมไปปนเปื้อนกับบ่อน้ำบาดาลที่เป็นแหล่งน้ำของบ่อสาธารณะได้
3
การระบาดครั้งใหญ่ในย่านโซโหครั้งนั้น จึงสรุปได้ว่าเริ่มต้นมาจากทารกวัย 5 เดือนที่เสียชีวิตในวันที่ 31 สค. เมื่อ 171 ปีที่แล้ว
1
โฆษณา