2 ก.ย. เวลา 04:30 • ข่าวรอบโลก

คดีพลิก? กลายเป็นเรื่องคนละพ่อ อย่าเพิ่งด่วนสรุป

ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ 1 กันยายนที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรปยืนยันว่าเครื่องบินของ “อัวร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน” ประสบปัญหาสัญญาณรบกวนระบบ GPS ระหว่างเครื่องเดินทางออกจากกรุงวอร์ซอของโปแลนด์ไปยังบัลแกเรีย ทำให้ต้องใช้วิธีนำทางเครื่องด้วยแผนที่กระดาษและรีบนำเครื่องลงจอดที่สนามบินพลอฟดิฟในบัลแกเรียได้อย่างทุลักทุเล
และมีการระบุว่า รัสเซียเป็นผู้รับผิดชอบและต้นเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเครื่องบินลำดังกล่าวถูกโจมตีด้วยการรบกวนระบบนำทางโดยเจตนาหรือไม่ เนื่องจากการแจมสัญญาณ GPS ดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้งในภูมิภาคใกล้กับสนามรบในยูเครน คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวเสริมตามรายงานข่าวของสำนักข่าวตะวันตก
เครดิตภาพ: The US Sun
เครมลินปฏิเสธทันทีว่า รัสเซียไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
“สิ่งที่มอสโกปฏิเสธหรือไม่ปฏิเสธนั้นไม่เกี่ยวข้องกัน เห็นได้จากการที่มอสโกปฏิเสธการมีทหารรัสเซียอยู่ในไครเมีย” ดาเนียล มิทอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศบัลแกเรียกล่าวตอบโต้ เขากล่าวเสริมว่านี่ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์ และย้ำว่านับตั้งแต่สงครามในยูเครนเริ่มต้นขึ้น “การรบกวนระบบ GPS ในบางภูมิภาคที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ขัดแย้งได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ไฟแนนเชียลไทมส์เป็นหนึ่งในสื่อแรกๆ ที่รายงานเกี่ยวกับสัญญาณรบกวนที่เครื่องบินของประธานคณะกรรมการยุโรปประสบเหตุ หลังจากนั้นไม่นาน คาร์สเทน บรอยเออร์ ผู้ตรวจการประจำกองทัพบกเยอรมันได้รายงานเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันในประวัติการปฏิบัติงานของเขา เขาเล่าว่าครั้งหนึ่งเขาเคยพบสัญญาณรบกวนระบบ GPS ระหว่างการบินเหนือทะเลบอลติก และอีกครั้งหนึ่งระหว่างการฝึกซ้อมที่ลิทัวเนีย เขาไม่ได้ระบุว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อใด
บลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ แกรนท์ แชปส์ เคยประสบปัญหาสัญญาณ GPS ถูกรบกวนขณะเดินทางกลับจากการฝึกซ้อมร่วมนาโตในโปแลนด์เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ขณะบินใกล้คาลินินกราดของรัสเซีย
ฟอน เดอ เลเยน เดินทางด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เนื่องจากผู้นำสหภาพยุโรปไม่มีเครื่องบินประจำการอย่างเป็นทางการ เหตุการณ์นี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเส้นทางที่เธอได้วางแผนไว้
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาผู้นำสหภาพยุโรปได้เดินทางไปเยือนเมืองโซพอต ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใหญ่ที่สุดของบัลแกเรีย การเดินทางครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่ติดกับรัสเซียและเบลารุส เพื่อแสดงความสามัคคีและส่งเสริมแผนงบประมาณ 8 แสนล้านยูโรของสหภาพยุโรปในการเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม
“เราต้องรักษาจังหวะของความรู้สึกเร่งด่วนเอาไว้” เธอกล่าวระหว่างการเยือน ขณะกล่าวกับโรเซน เซเลียซคอฟ นายกรัฐมนตรีบัลแกเรีย “ปูตินไม่เคยเปลี่ยนแปลง และเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง เขาคือนักล่า เขาจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ด้วยการป้องปรามอย่างเข้มแข็งเท่านั้น”
1
เครดิตภาพ: X @vonderleyen
อย่างไรก็ตาม Flightradar24 ได้แสดงความคิดเห็นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2025 เกี่ยวกับรายงานการรบกวนสัญญาณ GPS ที่สนามบินพลอฟดิฟในประเทศบัลแกเรีย เมื่อเครื่องบินของ “อัวร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เดินทางมาถึงสนามบินดังกล่าว
“เราได้รับรายงานจากสื่อต่างๆ เกี่ยวกับสัญญาณรบกวน GPS ที่ส่งผลกระทบต่อเครื่องบินที่ประธานคณะกรรมธิการยุโรปโดยสารไปยังพลอฟดิฟ… ทางเราตรวจสอบพบว่าเครื่องส่งสัญญาณของเครื่องบินลำดังกล่าวยังรายงานคุณภาพระดับสัญญาณ GPS ที่ดีตั้งแต่ขึ้นบินจนถึงลงจอด” Flightradar24 กล่าวในแถลงการณ์… จบข่าว
เครดิตภาพ: Flightradar24
หลายประเทศที่อยู่ติดกับรัสเซีย ได้แก่ ลัตเวีย ลิทัวเนีย เอสโตเนีย และโปแลนด์ เคยรายงานก่อนหน้านี้ว่าถูกรบกวนสัญญาณ GPS อย่างหนัก ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมเจ้าหน้าที่เอสโตเนียระบุว่าเที่ยวบินในน่านฟ้าของประเทศมากถึง 85% ประสบปัญหาขัดข้อง ขณะที่ลิทัวเนียรายงานว่าปัญหาดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบ 25% ในช่วงปีที่ผ่านมา
1
รายงานของบลูมเบิร์กระบุว่า การรบกวนสัญญาณ GPS ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการจราจรทางอากาศและทางทะเลเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความถี่ที่ใช้กับโทรศัพท์มือถืออีกด้วย
อย่างไรก็ตามสนามบินพลอฟดิฟที่เครื่องบินตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนใน ห่างจากทะเลดำมากกว่า 200 กิโลเมตร และห่างจากชายฝั่งไครเมียที่ถูกรัสเซียยึดครองประมาณ 750 กิโลเมตร
เรียบเรียงโดย Right Style
2nd Sep 2025
  • อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Euronews>
โฆษณา