สุญญากาศการเมืองกดดันเศรษฐกิจ SME ต้องปรับตัว-สิ่งแวดล้อมต้องเดินหน้า
สุญญากาศการเมืองกดดันเศรษฐกิจไทย ผู้ประกอบการชี้ SME ต้องปรับตัว เเม้ฝ่ายไหนจะเป็นรัฐบาลก็ตาม ขณะที่เทรนด์สิ่งแวดล้อมเป็นโจทย์ใหญ่ของโลก รัฐบาลต้องเดินหน้าต่อ ทุกธุรกิจก็เลี่ยงไม่ได้
ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี และส่งผลให้คณะรัฐมนตรีสิ้นสุดลงทั้งคณะ ความไม่แน่นอนทางการเมืองได้สร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวอยู่แล้วให้ตึงเครียดยิ่งขึ้น
ท่ามกลางภาวะดังกล่าว นายวีรวุฒิ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนดี้ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและผลิตเสื้อผ้าสำหรับลูกค้าองค์กร ได้ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และภาคธุรกิจจำเป็นต้องมุ่งปรับตัวรับมือ
เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนตลอดเวลา สถานการณ์ที่เป็นอยู่อาจจะกดดันเศรษฐกิจ เเต่คำถามคือเราจะปรับตัวอย่างไร SME ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาก็ต้องสนับสนุน เพราะ SME คือกลไกสำคัญของเศรษฐกิจไทย
ขณะเดียวกันเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่สิ่งที่ภาคเอกชนทำได้คือ การสำรวจ วิเคราะห์สถานการณ์ภายนอก และวางแผนเชิงรุก ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ละเลยสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นวาระสำคัญของโลก
เราต้องกลับมามองตัวเองว่าควรปรับตัวอย่างไร ทำไมต้องขยับ ต้องศึกษาและสร้างสินค้าใหม่ๆ ทุกอุตสาหกรรมล้วนต้องปรับตัว
สำหรับสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เขามองว่า หากทำได้เร็วจะยิ่งเป็นผลดีต่อประเทศ ในฐานะผู้ประกอบการ SME โดยฝากข้อคิดว่า
ผมทำธุรกิจและรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย ทุกคนต่างมีหน้าที่ของตนเอง สิ่งสำคัญคือการทำให้เต็มที่ และลงมือทำจริง ไม่ว่าจะมีใครเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ตาม เช่นเดียวกันไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนดี้ อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวต่อว่า เทรนด์โลกด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนต้องเดินหน้าต่อ เนื่องจากประเทศไทยมีเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 ดังที่ได้ประกาศไว้บนเวทีโลก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
