6 ก.ย. เวลา 06:00 • ไลฟ์สไตล์

“ดัชนีมวลกาย” คือค่าที่ใช่กว่าตัวเลขในตาชั่ง

สวัสดีค่ะทุกคน! มีโอวา🐾 เข้าใจดีเลยค่ะว่าหลายๆ คนมักจะกังวลกับ "ตัวเลขบนตาชั่ง" 😿 แต่คุณรู้ไหมคะว่า น้ำหนักเท่ากัน แต่หุ่นและรูปร่างอาจจะแตกต่างกันได้นะ!
นี่คือเหตุผลว่าทำไมตัวเลขบนเครื่องชั่งจึงไม่สำคัญเท่าไหร่ 🙅‍♀️
น้ำหนักในแต่ละวันไม่เท่ากัน ⚖️: การชั่งตอนเช้ากับตอนเย็นก็ต่างกันแล้ว หรือแม้แต่ชั่งเวลาเดียวกันในแต่ละวัน ตัวเลขก็มีเหวี่ยงขึ้นลงได้ตามปกติค่ะ!
ตัวเลขคือภาพรวมของทั้งร่างกาย 🤖: ตัวเลขบนตาชั่งจะบอกแค่น้ำหนักรวม แต่ไม่ได้บอกว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมัน การดูที่มวลไขมันและมวลกล้ามเนื้อจึงสำคัญกว่าค่ะ!
ความอ้วนไม่ใช่แค่ตัวเลขที่โชว์บนตาชั่งนะเมี๊ยววว! 😼 แต่มันคือภาวะที่ร่างกายเรามีไขมันสะสมอยู่เยอะเกินไป ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้นะ การวัดความอ้วนก็ทำได้หลายวิธีค่ะ
ถ้าอยากรู้ให้แน่ใจว่ารูปร่างของเราอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือยัง การเทียบกับค่า BMI (Body Mass Index) หรือ ดัชนีมวลกาย จะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนกว่าค่ะ!
ไม่ต้องกดเครื่องคิดเลขให้ยุ่งยาก แค่ดูจากตารางก็รู้ผลเลย! ✨
ค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index - BMI):
เป็นค่าประเมินว่าน้ำหนักตัวของเราสมดุลกับส่วนสูงแค่ไหน สูตรคำนวณก็คือ...
BMI = น้ำหนัก(kg) / ( ส่วนสูง(m) x ส่วนสูง(m) )
ค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index - BMI):
ยกตัวอย่างง่ายๆ:
ถ้าหนัก 60 กก. และสูง 1.65 ม.
BMI = 60 กก. / (1.65 ม. × 1.65 ม.) = 22.04 → อยู่ในเกณฑ์ปกติ เยี่ยมเลย!
ตารางเทียบค่า BMI (ดัชนีมวลกาย) ที่นิยมใช้กัน (มาตรฐาน WHO/เอเชียตะวันออกเฉียงใต้):
ระดับ BMI ค่า BMI (กก./ม.²) การแปลผลสุขภาพ
น้ำหนักน้อย (ผอม) < 18.5 เสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร หรือภูมิคุ้มกันต่ำ
ปกติ (สุขภาพดี) 18.5 – 22.9 อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม
น้ำหนักเกิน (ท้วม) 23.0 – 24.9 เริ่มมีความเสี่ยงต่อโรค NCDs (เบาหวาน, ความดัน, หัวใจ)
อ้วน ระดับ 1 25.0 – 29.9 เสี่ยงสูงต่อโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หลอดเลือด
อ้วน ระดับ 2 ≥ 30.0 เสี่ยงสูงมากต่อโรคหัวใจ เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง
📌 หมายเหตุ
สูตรคำนวณ BMI คือ น้ำหนัก (กก.) ÷ ส่วนสูง² (เมตร)
มาตรฐานนี้ใช้กับผู้ใหญ่ทั่วไป อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เด็กและวัยรุ่นมีเกณฑ์การประเมินต่างหากค่ะ
โฆษณา