ลุ้นราคาทองเด้งทะลุ 54,000 บาท กูรูชี้ 3 ปัจจัยหลักสหรัฐฯ จุดชนวน
- ●นักวิเคราะห์คาดการณ์ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 54,000 บาท โดยมีปัจจัยหนุนหลัก 3 ประการจากสหรัฐอเมริกา
- ●3 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ได้แก่ ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า, ความวุ่นวายภายในธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และตัวเลขการจ้างงานที่ชะลอตัว
- ●ปัจจัยเสี่ยงในสหรัฐฯ เหล่านี้กดดันค่าเงินดอลลาร์และตลาดหุ้น ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะพุ่งขึ้นต่อและผันผวนสูง จากความไม่แน่นอนรอบด้าน โดยมี 3 ปัจจัยหลักล่าสุด ที่ส่งผลกระทบและนักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดการเงินและแนวโน้มของทองคำ ประกอบด้วย
1. ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า : โดยศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ มีคำตัดสินว่า มาตรการเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกของประธานาธิบดีสหรัฐฯ 'โดนัลด์ ทรัมป์' ที่ส่วนใหญ่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากใช้อำนาจเกินขอบเขต แต่ยังอนุญาตให้บังคับใช้ต่อไปชั่วคราว พร้อมส่งเรื่องกลับไปศาลชั้นต้นเพื่อพิจารณาเพิ่มเติม
ดังนั้นจึงคาดว่า 'โดนัลด์ ทรัมป์' จะอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดภายใน 14 ตุลาคม 2568 ทำให้อนาคตนโยบายการค้ายังคงไม่แน่นอน โดยความเสี่ยงดังกล่าวจะกดดันตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่ทองคำจะได้แรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหากสถานการณ์ยืดเยื้อ
2. ความปั่นป่วนภายในเฟด : จากกรณี 'นางลิซา คุก' กรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ถูก 'ทรัมป์' สั่งปลดจากตำแหน่งและกำลังต่อสู้คดีในศาล สร้างความกังวลว่าการทำงานของเฟดอาจถูกแทรกแซงทางการเมือง ล่าสุดศาลยังไม่ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ทำให้ตำแหน่งของ ลิซา คุก ยังแขวนอยู่บนเส้นด้าย
และด้วยความไม่แน่นอนนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของนโยบายการเงินสหรัฐฯ และอาจเป็นแรงหนุนเชิงจิตวิทยาที่ทำให้ทองคำได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น
3. ตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัว : โดยตลาดจับตาการประกาศตัวเลขการจ้างงานเดือนสิงหาคมในช่วงท้ายสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มเพียง 75,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานอาจขยับขึ้นแตะ 4.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นอีกแรงที่ช่วยสะท้อนถึงเศรษฐกิจที่อ่อนแรง ถึงแม้ว่าเฟดยังคงกังวลเรื่องเงินเฟ้อ แต่ตลาดมองว่า ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มถดถอย ส่งผลให้เฟดอาจต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินในระยะต่อไป ซึ่งถือเป็นบวกต่อราคาทองคำ
จากประเด็นดังกล่าว ฝ่ายวิจัยจึงแนะนำกลยุทธ์ 'รอย่อตัวเข้าซื้อ' ที่แนวรับ 3,445 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 3,415 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากภาพรวมราคาทองคำปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก หลังจากสามารถเบรกกรอบสามเหลี่ยมด้านบน
โดยมีแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 3,445 / 3,415 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยอาจอยู่ประมาณ 52,800 / 52,500 บาท โดยการเข้าซื้อในรอบนี้มีจุดเฝ้าระวังคือราคาไม่ควรหลุด 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราคาทองคำไทยประมาณ 52,300 บาท) เพราะหากย่อแล้วหลุดถือเป็นการเบรกหลอก
ขณะที่แนวต้านสำหรับทำกำไรอยู่ที่ 3,500 / 3,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยจะอยู่ประมาณ 53,500 / 53,800 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับทิศทางค่าเงินบาท หากปัจจัยการเมืองในประเทศที่กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าในระยะสั้น อาจเห็นราคาทองคำไทยขยับขึ้นไปใกล้ระดับ 54,000 บาท ได้เช่นกัน
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
