3 ก.ย. เวลา 14:54 • ปรัชญา

ใบไม้ที่พลิ้วไหว

เช้าตรู่ ลมพัดผ่านกิ่งไม้ เสียงกรอบแกรบแผ่วเบาของใบไม้สะท้อนกับความเงียบสงัดรอบกาย ฉันยืนมองภาพนั้นด้วยความสงบ เห็นใบไม้พลิ้วไหวไปตามแรงลมโดยไม่มีการขัดขืน ไม่มีการเลือกทิศทาง มันเพียงแค่ตอบสนองต่อสิ่งที่มากระทบอย่างตรงไปตรงมา
ขณะนั้นเอง ฉันฉุกคิดได้ว่า ใบไม้นั้นไม่ต่างอะไรจากจิตใจของเราในทุกวัน เมื่อโลกภายนอกพัดพาเหตุการณ์และอารมณ์เข้ามา กระแสเหล่านั้นก็ทำให้ใจสั่นไหว โอนเอนไปมา คล้ายกับใบไม้ที่ปลิวตามลม หากเรามองผิวเผิน อาจรู้สึกว่าใจเราผันแปรไม่หยุดนิ่ง แต่แท้จริงแล้ว แก่นของใจยังคงอยู่ เพียงแต่กำลังเคลื่อนไปตามธรรมชาติของเงื่อนไขรอบตัว
ปรัชญาที่ใบไม้กำลังบอกเราคือ การไหวตามลมมิใช่ความอ่อนแอ แต่คือการยืนยันความจริงว่า ทุกสิ่งล้วนสัมพันธ์และพึ่งพากัน ไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่อย่างโดดเดี่ยว ลมมีหน้าที่พัด ใบไม้มีหน้าที่พลิ้ว การยอมรับเช่นนี้ทำให้ทั้งสองดำเนินไปอย่างกลมกลืน
หากเรามองใจตนเองในทำนองเดียวกัน ก็จะเห็นว่าความสั่นไหวไม่ใช่ปัญหาที่ต้องกำจัด แต่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เพียงเกิดขึ้นและดับไป การพยายามกดข่มหรือฝืนไม่ให้ไหว อาจยิ่งเพิ่มแรงต้านและสร้างความทุกข์ ทว่าเมื่อยอมให้ใจไหวอย่างใบไม้ เราจะค้นพบความเบาสบายที่ไม่ต้องแสวงหาจากที่ใด
ดังนั้น การมองใบไม้ที่พลิ้วไปตามลม จึงไม่ใช่เพียงการชมภาพงดงามของธรรมชาติ แต่เป็นการมองเห็นกระจกสะท้อนสภาวะของชีวิต ที่สอนเราว่า ความจริงมิได้อยู่ที่การหยุดนิ่ง หากแต่อยู่ที่การเข้าใจและยอมรับความเปลี่ยนแปลงในทุกขณะ
โฆษณา