แต่ยังสามารถทำได้อย่างปลอดภัย หากนักบินและระบบปฏิบัติตามมาตรฐานที่ถูกต้อง โดยสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ปลอดภัย ได้แก่
---
✅ หลักการบินในฝนให้ปลอดภัย
1. การวางแผนก่อนบิน (Pre-flight Planning)
ตรวจสอบรายงานสภาพอากาศ (METAR/TAF) และเรดาร์อากาศ
เลือกเส้นทางที่เลี่ยงพายุฝนฟ้าคะนองหรือกลุ่มเมฆ Cumulonimbus (CB)
เตรียมสนามบินสำรอง (Alternate Airport) เผื่อฉุกเฉิน
2. การใช้เครื่องมือช่วยบิน (Instrument Flight Rules – IFR)
พึ่งพาเครื่องมือนำร่อง (เช่น ILS, GPS, VOR) เพราะทัศนวิสัยลดลง
อาศัยระบบ Autopilot และ Weather Radar ของเครื่องบินเพื่อตรวจสอบฝนและความหนาแน่นของเมฆ
3. การจัดการความเร็วและระยะทาง
ลดความเร็วตามมาตรฐาน (Turbulence penetration speed) เพื่อควบคุมเครื่องในสภาพลมแรงหรือกระแทกจากฝน
รักษาระยะห่างจากเครื่องบินลำหน้าเพิ่มขึ้น เพราะการเบรกบนรันเวย์เปียกใช้ระยะทางมากขึ้น
4. การหลีกเลี่ยงพายุฝนฟ้าคะนอง (Thunderstorm Avoidance)
ไม่บินทะลุเมฆ CB หรือก้อนฝนที่มีฟ้าผ่า
เลี่ยงออกห่างอย่างน้อย 20 กิโลเมตรจากพายุฝนใหญ่
5. การสื่อสารกับหอบังคับการบิน (ATC)
รายงานสภาพจริงที่พบ เช่น ฝนหนัก ความปั่นป่วน (Turbulence)
ขอเปลี่ยนเส้นทางหรือวิถีร่อนลง หากสภาพไม่ปลอดภัย
6. ขั้นตอนการร่อนลงและลงจอด (Approach & Landing)
ใช้ระบบ ILS/NDB/GPS Approach เพื่อลงจอดแม้ทัศนวิสัยต่ำ
เพิ่มความระมัดระวังเรื่อง Hydroplaning (การลื่นไถลบนรันเวย์เปียก) โดยใช้ Reverser และ Spoiler ช่วยหยุดเครื่อง
หากทัศนวิสัยต่ำกว่า Minimum → นักบินต้อง Go Around (บินวนใหม่)
---
🚀 สรุป
การบินในฝนทำได้ ปลอดภัย ถ้ามีการเตรียมการและใช้เครื่องมือบินตามมาตรฐาน
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุดคือ พายุฝนฟ้าคะนองและเมฆ CB
ปัจจุบัน เทคโนโลยีช่วยบิน เช่น เรดาร์อากาศ, ILS และ Autopilot ทำให้การบินในฝนเป็นเรื่องปกติของสายการบิน ✨
ขอบคุณภาพการบิน จากครูฑูลครับ และข้อมูลจาก Chat GPT มากครับ