5 ก.ย. เวลา 11:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

หุ้นไทยยังสดใสแม้การเมืองผันผวน นักลงทุนจับตานโยบายรัฐบาลใหม่

หุ้นไทยยังสดใส แม้การเมืองผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตานโยบายรัฐบาลใหม่ ขับเคลื่อนตลาดทุน-สนับสนุนการลงทุนระยะยาว
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและโครงการกลยุทธ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เปิดเผยภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เดือนสิงหาคม 2568 ว่า ข้อมูลหลายด้านเริ่มมีความชัดเจนขึ้น จากมาตรการภาษีของสหรัฐ ที่กำหนดอัตราภาษีของไทยอยู่ที่ 19% ซึ่งใกล้เคียงกับคู่แข่ง แม้ต้องมีการปรับตัว แต่ตลาดยังสามารถแข่งขันได้
ส่วนปัจจัยเศรษฐกิจโลก การประชุมเฟดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 73,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาด
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ว่าจะเพิ่มเป็นระดับ 1 แสนตำแหน่ง ซึ่งถือว่าไม่ดี ขณะเดียวกันเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่เฟดควบคุมได้ ทำให้มีแนวโน้มว่าเฟดอาจพิจารณาลดดอกเบี้ยครั้งแรกในวันที่ 17 กันยายน โดยคาดว่าระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายกลางอยู่ที่ 4.25%
ด้านเศรษฐกิจไทย ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ 2.8% เทียบกับ 3.2% ของไตรมาสแรก แม้ลดลง แต่ยังสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ และเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส (Q2/Q1) GDP ขยายตัวเล็กน้อย 0.6% แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังเติบโต แม้ภาคส่งออกมีผลกระทบน้อยแต่ยังเป็นปัจจัยบวก
ด้านผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2 พบว่าหลายบริษัทมีกำไรเกินคาด โดยส่วนหนึ่งมาจากรายการพิเศษ (extraordinary items) เมื่อนับจำนวนบริษัท พบว่า
  • บริษัทที่ผลประกอบการดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด มีประมาณครึ่งหนึ่ง
  • บริษัทที่ผลประกอบการตามคาด มีประมาณ 20%
  • บริษัทที่ผลประกอบการต่ำกว่าคาด มีประมาณ 30%
โดยรายงาน Volume การซื้อขายเฉลี่ยเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความคึกคักของตลาด แม้ภายหลังช่วงต้นเดือนจะลดลง
การเมือง-งบประมาณภาครัฐ ปัจจัยสำคัญครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม สำหรับครึ่งปีหลัง ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาคือการเมืองและงบประมาณภาครัฐ นายศรพล ระบุว่า พ.ร.บ.งบประมาณผ่านแล้ว ทำให้เครื่องมือทางการคลังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจและสร้างสภาพคล่อง
อย่างไรก็ดี ในด้านหุ้นและกลุ่มอุตสาหกรรมเด่น ดร.ศรพล ระบุว่า หุ้นกลุ่มพลังงานและน้ำมันได้รับอานิสงส์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะเดียวกัน IPO เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น แต่เป็นเหตุการณ์เฉพาะ รวมถึงตลาดยังให้ความสนใจการลงทุนในดิจิทัล, สุขภาพ (รวมถึงเซลล์บำบัดและยีนขั้นสูง), และธนาคารเสมือน (Virtual Bank)
ทั้งนี้ นายศรพล ระบุว่า ข้อมูลทั้งภายนอกและภายในตลาดเริ่มชัดเจนขึ้น การติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ ตลาดหุ้น และปัจจัยภาครัฐอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้บริษัทและนักลงทุนสามารถวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม
ขณะที่ นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ SET เปิดเผยว่า นักลงทุนโดยพื้นฐานไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ชอบความแน่นอน เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงในระดับประเทศชาติหรือในการบริหารประเทศ ความไม่แน่นอนก็สร้างความผันผวนในระดับหนึ่ง
นายอัสสเดช บอกด้วยว่า นักลงทุนต่างชาติคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยมา 10-20 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงที่กระทันหันบ้าง แต่โดยรวม นักลงทุนมองว่ารัฐบาลที่เข้ามา ไม่ว่าจะสั้นหรือยาวก็ยังสนับสนุนให้เศรษฐกิจเดินต่อและภาคเอกชนดำเนินการได้ ความกังวลถือว่าน้อย
สำหรับผลกระทบต่อหุ้นไทย หากมีการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้น มองว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะนักลงทุนคุ้นเคยกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ รวมถึงบริษัทจดทะเบียนในตลาดก็ยังคงดำเนินการต่อ และผลิตภัณฑ์ยังขายได้ตามปกติ
นอกจากนี้ นายอัสสเดช เน้นย้ำถึงความสำคัญของนโยบายรัฐบาลใหม่ ว่านักลงทุนต้องการเห็น การขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เติบโตระยะยาว ไม่ใช่แค่ระยะสั้น และอยากเห็นการผลักดัน New Economy หรือ New S Curve เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในตลาดทุน
เมื่อถามถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอนาคต นายอัสสเดช บอกว่า หากเป็นผู้ที่เข้าใจตลาดทุน จะมีการสื่อสารและดำเนินนโยบายต่อเนื่องได้ง่ายขึ้น รวมถึงโครงการใหญ่ เช่น G-Token และ Mega Project อย่าง Land Bridge ซึ่งเคยโปรโมทต่อนักลงทุน แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล อาจทำให้โครงการเหล่านี้ชะลอหรือไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
ส่วนเรื่องมาตรการกระตุ้นปลายปี เช่น การลดหย่อนภาษี ในส่วนของตลาดทุนยังได้รับการสนับสนุน เช่น การลงทุนใน Thai ESG เพื่อสิทธิประโยชน์ด้านภาษียังคงมีอยู่ และนักลงทุนยังสามารถลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีสำหรับปีถัดไปได้
สิ่งที่นักลงทุนต้องการคือรัฐบาลที่มี เสถียรภาพ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อเนื่อง สนับสนุนตลาดทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืน และนโยบายที่จะเข้ามาในอนาคตต้องสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนว่าโครงการสำคัญจะเกิดขึ้นจริง
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา