Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Physioupskill
•
ติดตาม
16 ก.ย. เวลา 11:00 • การศึกษา
## Episode135: Kinesiology of Knee joint#7
Collateral ligaments##
"Collateral ligament" เป็นเอ็นที่อยู่ด้านข้างของข้อเข่าทั้ง 2 ด้าน มีหน้าที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับข้อเข่าในแนว frontal plane ป้องกันการเกิด varus-valgus stress มากเกินไป ประกอบด้วยเอ็น 2 เส้นคือ medial collateral ligament(MCL) และ lateral collateral ligament(LCL) ครับ
MCL หรือชื่อเต็มคือ tibial(Medial) collateral ligament เป็นเอ็นที่อยู่ด้านในของข้อเข่า มีลักษณะแบนและกว้าง เกาะจาก medial epicondyle ของ femur ลงมาที่ medial surface ของ tibia โดยเส้นใยบางส่วนจะเชื่อมต่อกับ medial meniscus ด้วย เราจึงเรียกเส้นใยส่วนนี้ว่า meniscofemoral และ meniscotibial ligament
MCL จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ superficial และ deep portion โดย superficial portion จะเป็นส่วนที่ยาวและอยู่ตื้นกว่า ส่วน deep portion จะสั้นและอยู่ลึกกว่า เชื่อมต่อกับ joint capsule ครับ
ส่วน LCL หรือชื่อเต็มคือ fibular collateral ligament เป็นเอ็นที่อยู่ด้านนอกของข้อเข่า มีลักษณะเป็นเส้นกลมๆ เกาะจาก lateral epicondyle ของ femur ลงไปที่ head of fibula โดย LCL จะแยกออกจาก joint capsule อย่างชัดเจน และไม่มีการเชื่อมต่อกับ lateral meniscus
ความแตกต่างนี้ทำให้ lateral meniscus เคลื่อนไหวได้มากกว่า medial meniscus ซึ่งถูกยึดติดกับ MCL ครับ
หน้าที่หลักของ collateral ligament คือการป้องกันการเกิด varus-valgus stress มากเกินไป โดย MCL จะต้านแรง valgus stress ที่พยายามดันให้เข่าโก่งออกด้านใน ในขณะที่ LCL จะต้านแรง varus stress ที่พยายามดันให้เข่าโก่งออกด้านนอก
นอกจากนี้ collateral ligament ยังมีส่วนช่วยในการควบคุมการหมุนของข้อเข่าด้วย โดย MCL จะช่วยป้องกันการเกิด external rotation มากเกินไป ส่วน LCL จะช่วยป้องกันการเกิด internal rotation มากเกินไปครับ
ความตึงตัวของ collateral ligament จะแตกต่างกันในแต่ละองศาของการเคลื่อนไหว โดย collateral ligament ทั้ง 2 เส้นจะตึงมากที่สุด เมื่อเข่างอ 25° ligament จะเริ่มหย่อนลง และจะหย่อนมากที่สุดเมื่อเข่างอ 90°
การที่ ligament หย่อนลงในท่าที่เข่างอ ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในแนว rotation ได้มากขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงสามารถหมุนเข่าได้มากขึ้นในท่าที่เข่างอครับ
การบาดเจ็บของ collateral ligament โดยเฉพาะ MCL พบได้บ่อยในนักกีฬา มักเกิดจากการได้รับแรงกระแทกที่ด้านนอกของเข่า ทำให้เกิด valgus stress มากเกินไป หรือการเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วที่ทำให้เกิดแรงบิดที่มากเกินไปที่ข้อเข่า
ส่วนการบาดเจ็บของ LCL จะพบได้น้อยกว่า เพราะมักจะมีขาอีกข้างช่วยป้องกันการเกิด varus stress และยังมี iliotibial band ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับด้านนอกของเข่าด้วยครับ
การตรวจร่างกายเพื่อประเมินความมั่นคงของ collateral ligament ทำได้โดยการทำ varus-valgus stress test ทั้งในท่าที่เข่าเหยียดตรงและงอเข่า 25-30° เพื่อแยกการบาดเจ็บของ collateral ligament ออกจากโครงสร้างอื่นๆ เช่น cruciate ligament หรือ joint capsule ครับ
โดยการทำ stress test ในท่าที่เข่าเหยียดตรง ถ้าพบว่ามีการเปิดของข้อมากกว่าปกติ อาจจะบ่งบอกถึงการบาดเจ็บของทั้ง collateral ligament และโครงสร้างอื่นๆร่วมด้วย แต่ถ้าทำ stress test ในท่าที่งอเข่า 25-30° แล้วพบว่ามีการเปิดของข้อมากกว่าปกติ จะบ่งบอกถึงการบาดเจ็บของ collateral ligament เพียงอย่างเดียวครับ
ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ผมฝากกด like กดแชร์ กดติดตามเพจphysioupskillด้วยนะครับ ส่วนถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรก็commentไว้ด้านล่างได้เลยครับ
_PhysioUpskill_
#Physioupskill
⭐สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถอ่านบทความอื่นๆได้ที่
https://physioupskill.com/บทความ/
หรือดูรายละเอียดคอร์สเรียนของเพจได้ที่
https://physioupskill.com/คอร์สเรียน/
ได้เลยครับ
Ref.
Neumann, D. A. (2017). Kinesiology of the musculoskeletal system: Foundations for Rehabilitation. Mosby.
Kapandji, I. A. (2011). The physiology of the joints: Volume 2 Lower Limb. Churchill Livingstone.
Moore, K. L., Dalley, A. F., & Agur, A. M. R. (2018). Clinically Oriented Anatomy. Wolters Kluwer.
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย