○ Static NAT (แบบคงที่) เป็นการจับคู่แบบหนึ่งต่อหนึ่งระหว่าง Private IP และ Public IP ซึ่งปกติจะใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการให้เข้าถึงจากภายนอกได้ (เช่น เว็บไซต์, เซิร์ฟเวอร์อีเมล)
○ Dynamic NAT (แบบไดนามิก): เป็นการจับคู่แบบชั่วคราว โดยจะจัดสรร Public IP จากชุด Public IP ที่มีอยู่ให้กับอุปกรณ์เมื่อมีการใช้งาน และ จะคืน Public IP นั้นกลับไปเมื่อการเชื่อมต่อสิ้นสุดลง
○ PAT (Port Address Translation) หรือ NAT Overload: นี่คือประเภทที่พบได้บ่อยที่สุดในบ้าน และ สำนักงานทั่วไป โดยจะอนุญาตให้อุปกรณ์หลายตัวใช้ Public IP Address อันเดียวกันได้ แต่ใช้หมายเลขพอร์ต เป็นตัวแยกแยะการเชื่อมต่อแต่ละอัน จึงมักถูกเรียกว่า "NAT แบบหนึ่งต่อหลายๆ อัน"
★
ประโยชน์ของ NAT
✅️ ประหยัด IP Address สาธารณะ: ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลน IP Address ของ IPv4 ทำให้หลายอุปกรณ์สามารถใช้ IP สาธารณะเพียงอันเดียวได้
✅️ เพิ่มความปลอดภัย: ซ่อนโครงสร้างเครือข่ายภายในจากโลกภายนอก เพราะอุปกรณ์ภายนอกจะไม่สามารถมองเห็น Private IP ของอุปกรณ์ภายในได้โดยตรง ทำให้เป็นเหมือน Firewall ขั้นพื้นฐาน
✅️ ความยืดหยุ่น: การจัดการเครือข่ายภายในทำได้ง่าย สามารถเปลี่ยน Private IP ของอุปกรณ์ได้โดยไม่กระทบกับการเชื่อมต่อภายนอก
○ การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์จากภายนอก: การใช้ Static NAT เพื่อส่งต่อคำขอจาก Public IP และ พอร์ตที่เจาะจง ไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายใน (เช่น การส่งต่อคำขอจาก Public IP:80 ไปยัง Web Server ภายใน)