Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฐานเศรษฐกิจ_Thansettakij
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
6 ก.ย. เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
แก้หนี้ ความท้าทายรัฐบาลใหม่ กับดักการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย
วัดฝีมือ แก้หนี้ครัวเรือน รัฐบาลเผชิญกับแรงกดดันจากหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง ความท้าทาย กับดักการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย
ประเทศไทยเผชิญกับ “กับดักหนี้ครัวเรือน” อย่างชัดเจน หนี้ครัวเรือนสูงถึงราว 90 % ของ GDP และแม้ในช่วงหลายปีปัจจุบันจะมีมาตรการพักชำระหรือขึ้นเพดานหนี้เพื่อช่วยระยะสั้น แต่การปล่อยให้หนี้คงอยู่ในระดับสูงเป็นอุปสรรคต่อการบริโภคในอนาคต นำไปสู่ลดขีดความสามารถในการเติบโตคู่ขนานกับภาระหนี้ครัวเรือน
รัฐบาลยังเผชิญกับแรงกดดันจากหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง (ปัจจุบันอยู่ราว 63 % ของ GDP และมีกรอบเพดานที่ 70 %) ยิ่งหากมีการขาดดุลงบประมาณสูง ส่งผลให้พื้นที่ทางการคลัง (fiscal space) ถูกบีบ และลดความสามารถในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ผลลัพธ์ของโครงสร้างนี้คือ การขยายตัวเศรษฐกิจอ่อนแอ (GDP เติบโตต่ำกว่า 2–3 %) รัฐบาลจึงมักหันไปใช้มาตรการระยะสั้น เช่น แจกเงิน เยียวยา แต่ไม่ช่วยให้ระบบปรับตัว (นโยบายมองสั้น) หลายมาตรการสร้างความเสี่ยง “เกิดภาระใหม่” หรือ “moral hazard” เช่น พักชำระหนี้แต่หนี้กลับเพิ่ม หรือการทุ่มงบประมาณใต้แรงกดดันทางการเมืองก็ไม่ได้แก้ปัญหารากลึกจริงจัง
ปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ฉุดการเติบโตยั่งยืนสังคมสูงวัยและแรงงานลดลงประชากรวัยทำงานลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 เสี่ยงต่อการขาดกำลังแรงงาน ทำให้ศักยภาพเศรษฐกิจลดลง ท้าทายด้านการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมไทยมีปัญหาแข่งขันลดลงในหลายภาค เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมเดิม
เสี่ยงถูกแซงจากพัฒนาการของเทคฯ และคู่แข่งในภูมิภาค การลงทุนภาคเอกชนหดตัวลงในไตรมาส 2 ที่ระดับ −5.7 % สะท้อนความไม่มั่นใจของนักลงทุน เศรษฐกิจอ่อน เศรษฐกิจนอกระบบ หนี้นอกระบบสูงครัวเรือนจำนวนมากพึ่งพาหนี้นอกระบบ เป็นวังวนความเปราะบางที่ยากปลดล็อก
ความท้าทายที่รัฐบาลใหม่ต้องเผชิญ การแก้ไขวงจรหนี้สูง การบริโภคอ่อนแรง หนี้สูงดึงรายได้ไปบริการหนี้ กระทบการบริโภคภายในประเทศโดยตรง ภาระคลังจำกัดพื้นที่สร้างสาธารณสุข–การศึกษา จัดสรรงบไม่เพียงพอต่อสภาพสังคมสูงวัยและสุขภาพ
การเลือกนโยบายระยะสั้นเพื่อเรียกคะแนนเสียง ทำให้รัฐละเลยการวางโครงสร้างระยะยาว แรงกระเพื่อมจากปัจจัยภายนอก เศรษฐกิจโลกแปรผัน (สงครามการค้า, ระบบ IF, CBAM ของ EU) และ Geo politics ทำให้ไทยต้องมีวิสัยทัศน์นโยบายที่ตอบโจทย์พร้อมรับหลายมิติ
อย่างไรก็ตามข้อเสนอเชิงนโยบาย แก้หนี้ สร้างความเติบโต หลุดกับดักเศรษฐกิจระยะสั้น (Immediate Relief) จัดมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน อย่างระมัดระวังเช่นพักชำระ ดอกเบี้ย หรือปรับโครงสร้างหนี้กลุ่มครัวเรือนเปราะบาง โดยไม่เปิดช่อง “bail out” ทั้งระบบ ลดภาระ FIDF ให้ธนาคาร ใช้เงินกองทุนสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้แทน
จัดแคมเปญสร้างวินัยการเงิน ตั้งแต่ในเด็กเน้นการออม หลีกหนี้นอกระบบ ระยะกลาง (Medium-Term Structural Reform)ปฏิรูปการคลัง ขยายฐานรายได้ปรับอัตราภาษี VAT, ภาษีเงินได้บุคคล, ภาษีที่ดิน–สิ่งปลูกสร้าง เพิ่มรายได้รัฐมากถึง 3.5 % ของ GDP ภายในปี 2030 ปรับลดสิทธิ์ลดหย่อนประเภทเล็กๆ ที่ไม่เหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพการเก็บภาษี
ปรับโครงสร้างรายจ่ายภาครัฐทบทวนงบฯ ปรับระบบสุขภาพ ลดซ้ำซ้อน เพื่อให้รัฐไม่ต้องกู้เพื่อให้ความยั่งยืน เร่ง formalization พัฒนาเศรษฐกิจนอกระบบเพิ่มสิทธิ–สร้างแรงจูงใจให้แรงงาน ธุรกิจนอกระบบเข้าสู่ระบบ เพื่อเข้าถึงโอกาสการสนับสนุน และสร้าง fairness พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี
ลงทุนฐานแข็ง เช่น ดาต้าเช็นเตอร์ จุดศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง ( transit hub ) อย่างสนามบินสุวรรณภูมิ บูรณาการโครงสร้างภัยพิบัติ (น้ำท่วม/แล้ง) ที่คาดใช้กว่า 7 แสนล้านใน 3–5 ปี เพิ่มศักยภาพการแข่งขันและนำเข้า FDIปรับระบบกฎเกณฑ์ สร้างสภาพแวดล้อมเชิงธุรกิจที่เสรีเป็นธรรม เน้นเชื่อม SMEs เข้าสู่ห่วงโซ่โลกร่วมกัน
ระยะยาว (Long Term Vision)ตั้ง Fiscal Council อิสระตรวจสอบวินัยการคลัง วางกติกาเชิงเสถียรภาพ ไม่ให้นโยบายชี้ชวนยิงตัวเองทางการคลัง สร้างระบบสวัสดิการและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนสร้างระบบบำนาญ สุขภาพ และโครงข่ายความคุ้มครองสำหรับสังคมสูงวัย ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ยืดหยุ่นDiversify ฐานอุตสาหกรรมและภูมิภาค ลดพึ่งภาคใดภาคหนึ่ง สร้าง resilience และลดความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรม
สร้างแนวคิด “รายได้ใหม่–แก้หนี้” ในภาคเกษตรยกระดับรายได้เกษตรกรผ่าน AI, การตลาด เกษตรแปรรูป, เกษตรแม่นยำ ลดหนี้โดยเพิ่มรายได้จริง รัฐบาลใหม่ต้องเผชิญโจทย์ใหญ่ทั้งเชิง การจัดการหนี้ครัวเรือน–หนี้สาธารณะ และกับดักการเติบโตที่ถูกล็อกด้วยโครงสร้างทางเศรษฐกิจสังคมที่ยืดหยุ่นต่ำ
การหวังพึ่งนโยบายระยะสั้นเพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้หลุดพ้นอย่างยั่งยืน แต่ยิ่งวนลูปหนี้ขาดดุลงทุนกับดักมองสั้นทางออกคือการดำเนินนโยบายแบบครบมุม (Whole-of-nation approach)เยียวยาหนี้ระยะสั้นด้วยความรับผิดชอบสร้างฟื้นฟูความเชื่อมโยงภาครัฐ เอกชน ประชาชนปฏิรูประบบการคลัง ภาษี รัฐสวัสดิการ โครงสร้างพื้นฐานสร้างวินัย กลไกรับผิดชอบเชิงสถาบันและวางวิสัยทัศน์ระยะยาวในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง
หากรัฐบาลใหม่ดำเนินนโยบายเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ และพ้นจากวังวนนโยบายประชานิยมเฉพาะหน้า ประเทศไทยจะมีโอกาสขยับออกจากกับดักหนี้ กับดักรายได้ปานกลาง สู่การเติบโตที่มั่นคงและเท่าเทียมในระยะยาวได้จริง
1 บันทึก
2
1
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย