xrp conspiracy ตอนที่ 96 นโยบายที่แตกต่างของ xrp vs other crypto
นโยบายในการขยายเครือข่ายของ xrp และเหรียญ crypto อื่น ๆ มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
crypto currency ทั้งหมดจะเป็น bottom up ก็คือเน้นสร้าง community ขยายตัวทีละน้อย นโยบายนี้ดูเหมือนดี แต่ต้องให้ทุกคนบนโลก 8000 ล้านคน ยอมรับและใช้งานเหรียญ ทุกคนต้องมาใช้เหรียญเดียวกันหมด ต้องไปคุยกับทุกคน
ให้เวลาอีกร้อยปีก็ไม่น่าทำสำเร็จ เพราะคนมีความแตกต่างของความคิดมากมาย จะใส่ทุกคนมาในเลเยอร์เดียว 8000 ล้านคนเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
พอใช้เวลายาวนานเกินไป เหรียญต่าง ๆ ก็จะเข้าสู่ภาวะ dead circulation ไปก่อน หายไปจากการหมุนเวียน และกลายเป็น dead currency ในที่สุด
ถ้าเป็น xrp จะเน้น top down เน้นเจาะกลุ่ม ธนาคารกลาง สถาบันการเงิน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10,000 ++ แห่ง คุยไปสัก 10-20 ปี ก็น่าจะครบ เพราะ xrpl ดีกว่าระบบดั้งเดิมอย่าง swift ชัดเจน ประหยัดกว่า เร็วกว่า สะดวกกว่าเดิม อย่างไงธนาคารก็ต้องเปลี่ยนในที่สุด
นี่ก็คุยมา 13 ปี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งปี 2012 เครือข่ายความร่วมมือก็ขยายตัวมาเยอะ มีข่าวความเคลื่อนไหวทุกวันโอกาสประสบความสำเร็จเป็น one world currency มากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป
อีกทั้ง xrp ก็มีถึง 3 layer ที่เชื่อมด้วย xrp ledger ก็คือ xrp rlusd และ CBDc แยกประเภทชัดเจน ทุกคนไม่ต้องมาแออัดในเลเยอร์เดียว
อีกทั้งการออก เลเยอร์ 2 ก็ช่วยแก้ปัญหา dead circulation ได้ คือ layer 1 ก็ปล่อยให้เป็น dead currency ไป ripple สามารถสร้างเลเยอร์ 2 คือ rlusd มาใช้หมุนเวียนแทนได้ โดยทำให้เลเยอร์ 1 มีมูลค่ามหาศาล
not financially advise
ด้วยนโยบายการขยายเครือข่ายที่แตกต่างกันชัดเจนและจำนวนเลเยอร์ระหว่าง xrp vs other crypto currency ก็ทำให้เห็นภาพว่า xrp จะมีโอกาสมาเป็น one world currency มากที่สุด
โดยที่ crypto currency อื่น ๆ ไม่มีโอกาสจะขึ้นมาแทรกได้เลย เพราะน่าจะตายไปก่อนที่จะทำสำเร็จ
ใช้เวลานานเกินไป
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
