6 ก.ย. เวลา 09:58 • การเมือง
เราลองมาดูกันครับว่า บทความที่รีโพสต์ และสถานะตอนเลือกตั้งที่ผ่านมา มีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้ประชาชนเลือกกันมันเป็นอย่างไรบ้าง
1. พลเอกประยุทธ์
คะแนนเสียงน้อยมากจนแทบไม่เหลือที่ยืน การกลับมาเป็นนายกฯ จึงแทบไม่มีโอกาส ตัดทิ้งไปตั้งแต่ต้น
2. แพทองธาร ชินวัตร (เพื่อไทย)
พรรคเพื่อไทยมีเสียง มีอำนาจต่อรอง แถมพรรคยังได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากการจัดตั้งรัฐบาลในภายหลังด้วย ตัวเลือกนี้ตัดทิ้งครับ เพราะดำรงตำแหน่งอยู่แล้วในตอนนั้น
3. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (ก้าวไกล)
ได้คะแนนมาเป็น อันดับ 1 อย่างสวยงาม แต่ถูกผลักให้ไปนั่งฝ่ายค้านทันที เหมือนประชาชนไปเลือกตั้งเพื่อเลือก “ฝ่ายค้าน” ให้ตัวเองอีกตามเคย ตัดทิ้งอีก
1
4. อนุทิน ชาญวีรกูล (ภูมิใจไทย)
เหลือเพียงคนนี้ที่ยังรออยู่ รอเงื่อนไข รอจังหวะ รอ “ไฟเขียว” จากบางกลไก เพื่อให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
แล้วเลือกตั้งไปเพื่ออะไร
เมื่อดูตามจริงแล้ว การเลือกตั้งที่ควรสะท้อนเจตจำนงของประชาชน กลับเป็นแค่เวทีที่ทำให้ “ใครสักคน” ซึ่งอาจไม่ได้คะแนนเสียงล้นหลามที่สุด กลับกลายเป็นผู้ที่ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน
1
ไม่ว่าคะแนนจะออกมาแบบไหน สุดท้ายการต่อรองทางการเมือง การดีลใต้โต๊ะ หรือแม้แต่การจัดฉาก ก็มีน้ำหนักมากกว่าความต้องการของประชาชน
เก่งแต่ไม่ชอบธรรม
ผมไม่ปฏิเสธครับว่า คุณอนุทินถือเป็นนักการเมืองที่ “เก่ง” ในเชิงการประคองพรรคและรอจังหวะ เขาไม่เคยหลุดจากเกมและรู้วิธีวางหมากให้พรรคตัวเองมีอำนาจต่อรอง แต่คำถามคือ การเป็นนายกรัฐมนตรีของเขามันได้มาจาก ความยินยอมโดยตรงของประชาชนที่มอบอำนาจให้จริงๆหรือไม่
คำตอบชัดเจนเลยครับ ไม่
1
มันไม่ได้มาด้วยความชอบธรรม แต่มันมาด้วย “ความเฮงซวย” ของโครงสร้างทางการเมืองไทย ที่ประชาชนเลือกยังไงก็ไม่ใช่คนที่ตัวเองอยากให้เป็น
3
ตามนั้นคือจบ
2
โฆษณา