7 ก.ย. เวลา 12:01 • หนังสือ

Goldfish Roulette ล่าปลาทอง

!! Sponsored Review !!
พบกับคดีฆาตกรรมสุดสะเทือนขวัญที่มีต้นเหตุมาจากขบวนการมิจฉาชีพได้ใน #ล่าปลาทอง นิยายสืบสวนจาก Shadow Publishing ที่นอกจากเนื้อหาจะเข้มข้น ชวนลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่องแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้เท่าทันกลโกงในการหลอกลงทุนของบรรดาสแกมเมอร์ให้กับผู้อ่านอีกด้วย
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อตำรวจได้รับรายงานว่าพบศพของ "จองซังกู" ประธานบริษัทหลักทรัพย์เอเวอร์กรีนในตรอกย่านพักอาศัยแห่งหนึ่ง "จุนฮยอน" สายสืบมากประสบการณ์และ "โดยุน" นายตำรวจหน้าใหม่ ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบคดีนี้ ทว่าเมื่อพวกเขาสืบสาวไปเรื่อยๆกลับพบว่าบริษัทที่จองซังกูก่อตั้งขึ้นนั้นไม่ใช่บริษัทที่ให้คำแนะนำด้านการเงินอย่างที่เขาแอบอ้าง แต่เป็นบริษัทที่คอยหลอกลวงผู้คนให้ฝากเงินลงทุน
ก่อนที่พวกเขาจะช่วงชิงทรัพย์สิน ฉกฉวยความฝัน และดับความหวังของเหยื่อที่หลงเชื่อ ทำลายชีวิตของผู้คนเหล่านั้นจนย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี ด้วยเหตุนี้จึงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เคียดแค้นจองซังกู ครั้นเมื่อตำรวจทั้งสองนายคว้าสายป่านได้หนึ่งเส้น มันกลับนำพวกเขาไปสู่ทางตันอีกครั้ง เมื่อ "อันจุนยอง" อดีตพนักงานของของจองซังกู ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยหลักกลับถูกพบเป็นศพที่ถูกกรดกัดกร่อนจนมีสภาพเป็นของเหลวอยู่ในอ่างน้ำของโรงแรมแห่งหนึ่ง
หรือนี่จะเป็นฆาตกรรมต่อเนื่องจากฝีมือของหนึ่งในเหยื่อของบริษัทหลักทรัพย์เอเวอร์กรีน คนที่หมดหวังในการมีชีวิตอยู่หลังจากถูกหลอกจนหมดตัว ย่อมมีแรงจูงใจมากพอที่จะพรากลมหายใจของคนที่หลอกลวงตนไม่ใช่หรือ แต่ใครกันล่ะ? ท่ามกลางผู้เสียหายจำนวนนับไม่ถ้วน ใครกันคือฆาตกรอำมหิตที่พวกเขาตามหา
สิ่งที่เราชอบของเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องที่เน้นการสืบสวนจากมุมมองของนายตำรวจทั้งสอง และเกือบทั้งหมดมาจากการสอบปากคำพยานและพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวด้วยตัวเอง ไม่มีฉากบู๊ดุเดือด ฉากไล่ล่าแสนระทึก หรือทฤษฎีสมคบคิดเวอร์ๆที่บังเอิญตรงกับความจริง ซึ่งการเล่าแบบนี้มันประสบความสำเร็จได้ก็เพราะนักเขียนวางพื้นฐานโครงเรื่องได้ดี
ทุกตัวละครมีความเกี่ยวข้องโยงใยกันไปหมด ไม่มีตัวละครไหนที่จะถูกหยิบมาพูดถึงแบบลอยๆ นักเขียนจะมีการหยอดเบาะแสไว้ให้ระหว่างทาง ทำให้จริงๆแล้วเดาตัวคนร้ายไม่ยากนัก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ส่งผลต่อความสนุกของเนื้อเรื่อง เพราะยังมีความคลุมเครือในส่วนของชนวนเหตุที่นำไปสู่การสังหารและวิธีการในการลงมือที่ดึงดูดให้เราต้องลุ้นกันต่อจนกระทั่งหน้าสุดท้าย
"เงินบำนาญที่เสียไปไม่ใช่แค่เงิน แต่เป็นถึงความหวังในชีวิตผมเลยนะครับ"
จริงๆแล้วในเรื่องนี้ สถานการณ์มันช่างเหมือนกับเรื่องราวที่เราเห็นตามข่าวบ่อยๆ สำหรับแก๊งคอลเซนเตอร์ที่หลอกเงินคนไทย ผู้สูงอายุจำนวนมากร้องไห้จนเป็นลมเพราะสูญเงินเก็บที่อุตส่าห์เพียรสะสมมาทั้งชีวิต คนหนุ่มสาววัยสร้างฐานะเลือกจบชีวิตตัวเองเพราะอับอายที่ถูกหลอกและทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ในขณะที่คนกระทำผิดยังคงลอยตัว เสวยสุขกับเงินทองที่ได้มาแบบผิดๆอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
เหยื่อที่พูดประโยคข้างต้นกับจุนฮยอนเองก็เหมือนกับเหยื่อคนอื่นๆ เขาใช้ชีวิตอยู่ในครรลองคลองธรรมมาตลอด แม้รายได้จะไม่มากมายนัก แต่เขาก็ยังบริหารจัดการจนสามารถดูแลครอบครัวของตนมาได้ตลอดรอดฝั่ง อีกทั้งยังเหลือเงินเก็บออมไว้ใช้ยามเกษียณอีกด้วย ทว่าเพราะความเป็นพ่อที่อยากทำเพื่อลูกสาวคนเดียว เขาจึงตัดสินใจลงทุนในบั้นปลายชีวิต หวังเพียงแค่เงินก้อนนี้จะงอกเงยมากพอที่จะช่วยให้ลูกสาวยืนหยัดได้อย่างสง่างาม โดยไม่คาดคิดเลยว่าการตัดสินใจครั้งนั้นจะนำไปสู่ผลลัพธ์เช่นนี้
คนที่ตกเป็นเหยื่อจึงไม่ใช่คนโง่ที่รู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพ พวกเขาไม่ผิดเลยสักนิดที่จะวาดฝันถึงชีวิตที่ดีกว่า แน่นอนว่าหลายครั้งที่มันมีความโลภเข้ามาเกี่ยว แต่ยอมรับกันตรงๆเถอะว่าทุกคนบนโลกนี้ต่างก็ต้องการเงินด้วยกันทั้งนั้น ความกระหายทรัพย์สินไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย การกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินนั้นโดยไม่สนถูกผิดต่างหากที่เลวร้าย
"พวกเขาสูญเสียทั้งเงิน ชีวิต รวมไปถึงจิตสำนึก หรือบางคนก็สูญเสียทั้งหมดที่กล่าวมา ความเสียหายที่พวกเขาได้รับคงไม่มีวันได้รับการชดใช้"
อย่าว่าแต่ตามจับคนร้ายไม่ได้เลย ต่อให้ลากคอคนโกงมาเข้าคุกได้ สิ่งที่ผู้เสียหายสูญเสียไปแล้วก็ไม่อาจหวนกลับมา ทั้งโอกาสที่เสียไป ความรู้สึกที่บอบช้ำ ครอบครัวที่แตกสลาย รวมถึงชีวิตที่ดับสิ้น น่าเศร้าที่มนุษย์เราสามารถทำลายล้างกันและกันได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ แค่เพราะอำนาจมหาศาลที่แฝงอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า "เงิน"
ไปลองหามาอ่านกันได้ที่: https://s.shopee.co.th/1LWBnHGMdG
โฆษณา