หลี่จ้าวจี้ มหาวายร้ายหนังฮ่องกงคนที่ 4
จากมาเฟียสู่วายร้ายที่คนรัก ร้ายอย่างมีสไตล์ ด้วยหัวใจที่อ่อนโยน
ในโลกภาพยนตร์ฮ่องกง มีการเล่าขานถึง จตุรเทพแห่งจอเงิน สองโจวหนึ่งเฉิน ที่ครองบทบาทตัวเอก พระเอกที่เก่งกาจและโด่งดัง มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าพอจะเทียบชั้นกับพวกเขา กลายเป็นตำนานบทหนึ่งของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ฮ่องกง
และในตำนานนั้นก็มี จตุรมาร สี่มหาวายร้ายแห่งภาพยนตร์ฮ่องกงปรากฏตัวขึ้น ไม่ใช่เพื่อทาบรัศมี หากแต่มาขยี้เพื่อกลบบรรดาตัวเอกเหล่านั้นไปเสีย
วันนี้ก็มาถึงเรื่องของ จตุรมาร สี่มหาวายร้ายคนที่สี่ ......หลี่จ้าวจี้
หลี่จ้าวจี้เป็นชายผู้ใบหน้าแข็งกร้าว ดุร้าย ซึ่งขัดกับอารมณ์แบบของเขา แม้เขาจะได้รับบทเป็นตัวร้าย แต่ใครจะเชื่อว่าความโหดบนจอของเขา กลับมาพร้อมหัวใจอบอุ่นและมุกตลกที่สามารถทำให้ผู้ชมหัวเราะท้องแข็ง
ซึ่งต่างจากจตุรเทพ สองโจวหนึ่งเฉิน ที่มีภาพลักษณ์สง่างามและคมชัดเป็นพระเอก หรือฮีโร่ผู้เก่งกาจ หลี่จ้าวจี้สร้างตำนานด้วย
"การเป็นตัวร้ายที่คนรัก" ใบหน้าโหดร้ายท่ามกลางความตลก ความเมตตา และความเป็นมนุษย์เต็มขั้น เหล่าจตุรเทพอาจเก่งในฉากแอ็กชัน แต่จตุรมารอย่างหลี่จ้าวจี้เก่งทั้งการจับจังหวะอารมณ์ผู้ชม และทำให้คนจำเขาไปตลอดชีวิต เขาเป็นเหมือนดาวร้ายที่เหนือกว่า เพราะไม่เพียงแค่ทำให้บทบาทตัวร้ายโดดเด่น แต่ยังสามารถพลิกบทบาทให้ตลกหรือเศร้าได้ในคราเดียว
และนี่คือเหตุผลที่วงการบันเทิงฮ่องกงยกย่องเขาเป็น หนึ่งในจตุรมาร ผู้สร้างสีสันและตำนานบนจอภาพยนตร์ ไม่ใช่เพียงเพราะร้ายหรือโหด แต่เพราะร้ายอย่างมีสไตล์ และหัวใจอ่อนโยน และอีกหลายเหตุผลที่คนดูรักเขา อาทิ
อดีตสมาชิกแก๊งมาเฟียที่กลายเป็นที่ปรึกษาภาพยนตร์ ก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็นสมาชิกแก๊งมาเฟีย แต่ภายใต้คำแนะนำของเพื่อน ๆ เขาจึงตัดสินใจออกจากแก๊งและเข้ามาในวงการบันเทิง ต่อมาเขาก็ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับภาพยนตร์ฮ่องกงหลายเรื่องที่เกี่ยวกับแก๊งมาเฟีย
มีชื่อเสียงด้านความใจดีและเข้าใจผู้อื่น หลี่จ้าวจี้เป็นที่รู้จักในเรื่องความใจดี เมื่อเขาประสบอาการอัมพฤกษ์ในช่วงต้นปี 2015 เขาเลือกที่จะไม่บอกใครเพราะไม่อยากรบกวนผู้อื่น และค่าใช้จ่ายทางการแพทย์สูงทำให้เขาต้องใช้เงินเก็บส่วนตัวจนเกิดปัญหาการเงินอย่างหนัก และแม้แต่เจ้าของบ้านยังฟ้องเขาเนื่องจากไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ เขาเข้าใจสถานการณ์ของเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี และเคยกล่าวว่า “เขามีสิทธิที่จะทำเช่นนั้น” โชคดีที่เพื่อนคนหนึ่งช่วยจ่ายค่าเช่าให้เขา
---
ในวันที่ หลี่จ้าวจี้ เสียชีวิต เป็นวันที่ข่าวลือสั่นสะเทือนทั่วฟ้าฮ่องกง สื่อทุกแขนงต่างพากันเล่นข่าวใหญ่ ประชาชนล้วนสับสน งุนงง ในการจากไปของเขา เพราะชะตากรรมกลับเล่นตลกกับชื่อของเขา หลี่จ้าวจี้หนึ่งในจตุรมารดันมีชื่อเดียวกับมหาเศรษฐีเจ้าของอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ที่รวยเป็นหมื่นล้าน พอมีข่าวหลี่จ้าวจี้เสียชีวิต ทุกคนต่างพากันคืว่ามหาเศรษฐีได้จากไปแล้ว ต้องเช็คข่าวกันจ้าละหวั่นถึงรู้ว่าหลี่จ้าวจี้ที่จากไป คือคนที่เป็นนักแสดง
เหมือนกับว่าหลี่จ้าวจี้จะจากไปก็ขอเล่นตลกร้ายๆให้โลกจดจำอีกสักครั้ง
แต่ในชีวิตจริงของหลี่จ้าวจี้ที่มีชื่อเหมือนกันสองคนนี้กลับต่างราวฟ้ากับเหว หลี่จ้าวจี้ผู้ยากจนมีเพียงตรอกซอกซอยในย่านกวนตงที่เต็มไปด้วยฝุ่น ความแร้นแค้น และความฝันเล็ก ๆ ที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดทุกวัน ไม่ได้มีทรัพย์สินแบบใช้อย่างไรก็ใช้ไม่หมดให้นึกถึง
วัยเด็กของเขาไม่เคยมีความสะดวกสบาย เติบโตมากับความยากจนและการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด ช่วงวัยรุ่น เขาหลงผิดเข้าพวกเด็กแสบที่เรียกกันว่าแก๊ง 13 พยัคฆ์จืออวิ่นซาน “慈雲山十三太保” (Thirteen Hoods of Tsz Wan Shan) แม้แก๊งนี้จะไม่ใช่อาชญากรที่กลายไปเป็นมาเฟียใหญ่ แต่ก็มีประวัติการเสพยาเสพติด การทำผิดกฏหมายหลายอย่าง ความผิดพลาดเหล่านี้เหมือนเงาที่ติดตามเขามาทุกย่างก้าว แต่ในความมืดมิดนั้น กลับเป็นเชื้อเพลิงที่หล่อหลอมให้เขาแข็งแกร่งและสามารถสื่ออารมณ์บนจอได้อย่างแท้จริง
ในช่วงต้นยุค 1980s ผู้กำกับบางคนเห็นแวว “ดาวร้ายที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา” ใบหน้าแข็งกร้าว สายตาดุดัน ท่าทางอันธพาล กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการแสดง เขาไม่ได้หล่อเหลาพระเอก แต่พลังและพลังงานที่ออกมาจากตัวเขาเองทำให้บทบาทตัวร้ายของเขามีชีวิต จนเขากลายเป็นหนึ่งใน สี่มหาวายร้าย ร่วมกับ เหอเจียจวิน, เฉิงกุยอัน และหว่องกวงเลี่ยง
เช่นเดียวกับอีกสามคนในสี่มหาวายร้าย หลี่จ้าวจี้ก็เริ่มมีคนจดจำเขาได้ในเดือด 2 เดือด Prison on Fire ซึ่งในเรื่องนี้เขายังอยู่ในพวกตัวประกอบคนคุก ค่อยทำหน้าเหี้ยมๆ เสริมบารมีวายร้ายคนอื่น แต่ตนเองยังไม่มีบทบาทมากนัก
ส่วนบทบาทของหลี่จ้าวจี้ในหนังฮ่องกงโดดเด่นด้วยความหลากหลาย แม้เป็นดาวร้าย แต่ลักษณะตัวร้ายของเขาไม่ใช่ “ร้ายล้วน ๆ” หรือไร้สมอง เขาเล่นบทหัวหน้าแก๊งอันธพาลอย่างมีตรรกะและวางแผน บทลูกน้องอันธพาลที่ใจร้อนแต่มีมุมอ่อนโยน บทผู้คุมกฎที่เข้มงวดแต่บางครั้งก็แอบมีอารมณ์ขัน หรือแม้แต่ตัวละครที่เป็น “ตัวร้ายตลก” บนจอเหมือนในคนเล็กกุ๊กเทวดา (The God of Cookery) ซึ่งเขาสร้างสีสันให้หนังขบขันและมีชีวิตชีวา
ผลงานเด่น ๆ ที่ทำให้ผู้ชมจดจำเขา ได้แก่
* ในซีรีส์ กู๋หว่าไจ๋(Young and Dangerous) หลี่จ้าวจี้รับบทหัวหน้าแก๊งที่ดุร้าย แต่ก็มีมิติของความเป็นมนุษย์และความจงรักภักดีต่อพวกพ้อง
* หนังของโจวซิงฉือ เช่น คนเล็กกุ๊กเทวดา, คนเล็กตัดห้าเอ, คนเล็กใหญ่เก๊กโลก, กระทิง ปู๋เหลี่ยวฉิง เขาแสดงตัวร้ายที่มีความดุร้ายบนจอ แต่แฝงความขำขันและการแสดงสีหน้าอารมณ์จัดเต็ม ทำให้ตัวละครมีชีวิตและน่าจดจำ
* คอนแมน เจาะเหลี่ยมคน – รับบทเป็นตัวร้ายสไตล์มาเฟีย ที่สร้างอำนาจและความข่มขู่บนจอ
* หนังอื่น ๆ เช่น Jiang hu: The Triad Zone , A True Mob Story : ให้รักนี้ตายไปกับเขา (1998)
ลักษณะดาวร้ายของหลี่จ้าวจี้มีเอกลักษณ์ชัดเจน เขาไม่ใช่เพียงตัวร้ายไล่ทำร้ายคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล แต่เป็นตัวร้ายที่มีตรรกะ รู้จักวางแผน มีความข่มขู่ และในบางครั้งมีมุมอ่อนโยนแฝงอยู่ ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าแม้จะกลัว แต่ก็สามารถเข้าใจและเห็นใจตัวละครได้
ชีวิตจริงของหลี่จ้าวจี้ก็เต็มไปด้วยบทเรียน แม้หนังจะให้เขาเป็นตัวร้าย แต่ชีวิตจริงกลับเต็มไปด้วยน้ำใจและความเมตตา เขาช่วยเหลือเพื่อนนักแสดงในยามลำบาก ออกเงินให้เพื่อนผ่านวิกฤติ และช่วยคนไร้บ้านด้วยอาหาร ที่พัก และแม้กระทั่งการตัดผม เรื่องราวของเขาเหมือนบทละครชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ก็เปล่งประกายด้วยหัวใจนักสู้
ช่วงปลายชีวิต ชะตาก็ยังไม่หยุดทดสอบเขา เส้นเลือดสมองตีบสองครั้ง การเคลื่อนไหวลำบาก และมะเร็งตับที่ลุกลามไปยังปอดทำให้เขาต้องใช้เวลาส่วนใหญ่กับการรักษา แม้เคยคิดจะยอมแพ้ แต่กำลังใจจากเพื่อน ๆ และครอบครัวทำให้เขาตัดสินใจผ่าตัด
และในเดือนมีนาคม 2019 เขาแต่งงานกับแฟนสาวที่คบกันมากว่า 30 ปี เพื่อให้ความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ให้เป็นทางการ ชีวิตก็สามารถสร้างช่วงเวลาของความสุขและรักแท้ได้
แต่ชีวิตมักโหดร้ายกว่าหนัง ไม่ถึงครึ่งปีหลังแต่งงาน สุขภาพของเขาทรุดลงอย่างรวดเร็ว และเขาจากไปในวัย 69 ปี ณ โรงพยาบาลอลิซาเบธทิ้งความอาลัยให้เพื่อนร่วมวงการและแฟนหนังทั่วฮ่องกง
เรื่องราวของหลี่จ้าวจี้สอนให้เราเห็นความขัดแย้งระหว่างชื่อเสียงกับชีวิตจริง แม้ชื่อพ้องกับเศรษฐี แต่ชีวิตจริงเต็มไปด้วยความทุกข์ ความเจ็บปวด และการดิ้นรนอย่างไม่หยุดยั้ง เขาเป็นคนจนที่สร้างตำนานของตัวเองในโลกภาพยนตร์ฮ่องกง ไม่ใช่ด้วยทองคำ แต่ด้วยฝีมือ ความดุดัน และหัวใจนักสู้
หลี่จ้าวจี้จากไป ทิ้งไว้เพียงความทรงจำของนักแสดงที่แม้ดูน่ากลัวบนจอ แต่ชีวิตจริงเต็มไปด้วยความโอบอ้อมอารี น้ำใจ และบทเรียนแห่งความไม่ยอมแพ้ ความเศร้า ความเจ็บปวด และความพยายามต่อสู้ในชีวิตของเขากลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน เหมือนบทละครที่แม้เศร้า แต่เต็มไปด้วยแสงสว่างของความหวังและความกล้า
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
