10 ก.ย. เวลา 00:58 • ข่าวรอบโลก

สรุปเหตุการณ์ล้มรัฐบาลเนปาล

เหตุจากประกาศแบนโซเชียล
สู่การลุกฮือครั้งใหญ่ของประชาชน
จุดเริ่มต้น
1. เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2025 รัฐบาลเนปาลได้ประกาศแบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกว่า 26 แพลตฟอร์มด้วยเหตุผลว่า แพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ลงทะเบียนกับกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล
2. แพลตฟอร์มเด่น ๆ ที่ถูกแบนคือ WhatsApp ,Facebook ,Instagram ,YouTube , X (Twitter) ส่วนแพลตฟอร์มที่ไม่ถูกแบน และยังคงใช้งานได้คือ TikTok กับ Viber
3. รัฐบาลให้เหตุผลในการแบนครั้งนี้ว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องถูกกำกับดูแลเพื่อรับมือกับข่าวปลอม คำพูดที่สร้างความเกลียดชัง และการฉ้อโกงออนไลน์
ไม่พอใจ
4. คำสั่งนี้ของรัฐบาลสร้างความไม่พอใจให้ประชาชนจำนวนมาก หลายคนแสดงความเห็นตรงกัน ว่าการกระทำแบบนี้คือการลดทอนสิทธิเสรีภาพ และอาจนำไปสู่การเปิดโอกาสให้รัฐบาลมีอำนาจอย่างกว้างขวางในการควบคุม และลบเนื้อหาออนไลน์ที่ถูกมองว่าไม่เหมาะสมหรือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐ
5. แพลตฟอร์มที่ถูกปิดไปมีผู้ใช้งานมากถึง 17 ล้านคน นั่นหมายความว่า มีคนอย่างน้อย 17 ล้านคนได้รับผลกระทบเต็ม ๆ จากการตัดสินใจนี้ของรัฐบาล โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นหลัก
6. ความไม่พอใจทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคน Gen Z หรือก็คือผู้ที่เกิดระหว่างปี 2540-2555 ที่ออกมาแสดงออกชัดเจนว่า พวกเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปกับพวกนักการเมืองยุคเก่าที่เอาแต่เล่นพรรคเล่นพวก ทุจริตคอรัปชั่น และจ้องแต่จะเอาผลประโยชน์เข้าตัว
ประท้วง
7. คนกลุ่มแรก ๆ ที่ออกมารวมตัวประท้วง เรียกตัวเองว่ากลุ่มคน Gen Z มันคือการประท้วงที่ไม่มีแกนนำหลัก มีเพียงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ออกมารวมตัวบนจุดยืนเดียวกัน คือเรียกร้องให้รัฐบาล หยุดทุจริตคอรัปชั่น และหยุดการกระทำปิดปากประชาชนด้วยการคืนแพลตฟอร์มโซเชียลทั้งหมด
8. การประท้วงทวีความรุนแรงอย่างก้าวกระโดด หลังในวันที่ 8 กันยายน 2025 รัฐบาลได้ตอบโต้ผู้ชุมนุมด้วยความรุนแรงอย่างการใช้แก๊สน้ำตา ปืนแรงดันน้ำ และกระสุนจริงเข้าใส่ผู้ประท้วง
9. สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น คือมีเด็กนักเรียน-นักศึกษาหลายคนได้รับบาดเจ็บ โรงพยาบาลหลายแห่งขอรับบริจาคเลือดด่วน แถมยังมีข่าวลือไปทั่วโซเชียล (TikTok กับ Viber) ว่ามีตำรวจบุกไล่ล่าผู้ประท้วงถึงในโรงพยาบาล
10. หลังเหตุการณ์นี้รัฐบาลได้ประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่กาฐมาณฑุ และเมืองใหญ่ตั้งแต่บ่ายถึงค่ำ
1
ทวีความรุนแรง
11. ในช่วงเวลานั้นมีรายงานจากสำนักข่าวว่า ในเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คน บาดเจ็บกว่า 400 คน ประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ออกมาร่วมประท้วงในตอนแรกเริ่มรู้สึกไม่พอใจ และรับไม่ได้กับความรุนแรงที่รัฐบาลทำต่อเด็ก-เยาวชน
12. จากม็อบที่มีเพียงกลุ่ม Gen Z ได้เปลี่ยนเป็นม็อบที่มีทุกเพศทุกวัย ประชาชนจำนวนมากลุกฮือด้วยความโกรธ และพวกเขาเลือกนำความโกรธเหล่านั้นไปลงกับสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของรัฐ เช่น บ้านพักนายกรัฐมนตรี ไปจนถึงตึกอาคารหน่วยงานรัฐ
ลาออก
13. วันที่ 9 กันยายน 2025 นาย K.P. Sharma Oli นายกฯ เนปาล ได้ประกาศลาออกผ่านจดหมาย พร้อมชี้แจงว่า รัฐบาลไม่ได้ต่อต้านข้อเรียกร้องของกลุ่ม Gen Z และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และความรุนแรงเกิดจากการแทรกแซงของกลุ่มที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน (แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นกลุ่มใด)
14. หลังจากที่ K.P. Sharma Oli ลาออก รัฐบาลรักษาการได้ประกาศยกเลิกการแบนโซเชียลมีเดียทั้งหมดทันที เพื่อหวังลดกระแสความเดือดดาลของประชาชน
1
15. ถึงแม้จะลดกระแสความเดือดดาลลงได้บ้าง แต่ประชาชนจำนวนมากก็ยังไม่สลายการชุมนุมในทันที สิ่งที่พวกเขาต้องการคือเรียกร้องให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่โปร่งใส และตรวจสอบได้
K.P. Sharma Oli
อ้างอิง
โฆษณา