7 ชั่วโมงที่แล้ว • การเมือง

สรุปเหตุการณ์ ประท้วงในฝรั่งเศส ที่คนนับแสน ออกมาบนท้องถนน

นอกจากการประท้วงในประเทศเนปาล แล้ว อีกข่าวใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้น และทั่วโลกจับตา ก็คือ สถานการณ์การประท้วงในฝรั่งเศส..
- โดยเหตุการณ์ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนมากที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งมีผู้ประท้วงกว่า 200,000 คน ออกมาตามท้องถนนทั่วประเทศ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อมาตรการรัดเข็มขัด และนโยบายของรัฐบาล
- การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกเรียกว่า “Block Everything” หรือ Bloquons Tout ซึ่งหมายถึง “ปิดทุกอย่าง”
เป็นการนัดหมายผ่านโซเชียลมีเดียของประชาชนหลายกลุ่ม ตั้งแต่ครู นักเรียน ข้าราชการ ไปจนถึงกลุ่ม gilets jaunes (เสื้อกั๊กเหลือง)
- รูปแบบการประท้วง มีทั้งการตั้งสิ่งกีดขวางบนถนน สร้างแนวกีดขวาง การพยายามบุกเข้าสถานีรถไฟ จุดไฟเผาถังขยะ การเผารถบัสและร้านอาหารบางแห่ง
และรวมตัวปิดกั้นทางเข้าสถานที่สำคัญในหลายเมือง เช่น ปารีส มาร์เซย์ ตูลูส น็องต์ และแรนส์
- รัฐบาล ได้ส่งกำลังตำรวจกว่า 80,000 นายทั่วประเทศ เพื่อควบคุมสถานการณ์ มีการใช้แก๊สน้ำตาและรถฉีดน้ำแรงดันสูง เพื่อสลายการชุมนุม จนมีผู้บาดเจ็บทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง โดยตลอดทั้งวัน มีผู้ถูกจับกุมแล้วอย่างน้อย 473 คน
- ชนวนความไม่พอใจของประชาชน ที่จุดชนวนการประท้วง มาจากมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล
ที่จะตัดลดงบประมาณจำนวนมากในปี 2026 เพื่อลดการขาดดุล ซึ่งปัจจุบัน หนี้สาธารณะต่อ GDP ของฝรั่งเศส สูงกว่า 110%
รวมถึงการยกเลิกวันหยุดราชการ 2 วัน และการระงับการขึ้นเงินบำนาญ
1
- ประชาชนจำนวนมากมองว่า มาตรการเหล่านี้เป็นการผลักภาระไปที่ชนชั้นแรงงานและคนรุ่นใหม่ โดยไม่ได้แตะโครงสร้างรายได้ของรัฐ หรือภาษีของคนรวย
จนเกิดเป็นความโกรธแค้นต่อชนชั้นนำที่ไร้ประสิทธิภาพ รวมถึงนโยบายของรัฐบาล
- เหตุการณ์การประท้วงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่นายเซบาสเตียง เลอกอร์นู เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ของฝรั่งเศสในเวลาไม่ถึง 2 ปี สะท้อนถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองของฝรั่งเศส
- เลอกอร์นู ถือเป็นคนใกล้ชิดประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ทำให้ผู้ประท้วงมองว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าในแนวทางเดิม ๆ ที่ไม่ฟังเสียงของประชาชน
- นักวิเคราะห์หลายฝ่าย เปรียบการเคลื่อนไหวครั้งนี้กับการประท้วงของกลุ่ม “เสื้อกั๊กเหลือง” ในปี 2018 ซึ่งเริ่มต้นจากประเด็นเรื่องภาษีน้ำมัน แต่ลุกลามไปเรื่องอื่น ๆ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านนโยบายรัฐบาลมาครง โดยรวม
- ตอนนี้สถานการณ์ในฝรั่งเศส กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ว่าจะบานปลายกลายเป็นการเคลื่อนไหวทางสังคมที่ยืดเยื้อและรุนแรงขึ้นหรือไม่..
โฆษณา