วันนี้ เวลา 10:55 • หุ้น & เศรษฐกิจ

บอร์ด DUSIT แต่งตั้ง “ชนินทธ์ โทณวณิก” ขึ้นซีอีโอควบ

มั่นใจปมขัดแย้งภายในครอบครัวจบด้วยดี ปี 69 ผลงานพลิกกำไร-ล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง
1
บอร์ด บมจ.ดุสิตธานี แต่งตั้ง “ชนินทธ์ โทณวณิก” นั่งซีอีโอควบตำแหน่งรักษาการประธานกรรมการ หลัง “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ตอบรับเข้าร่วมรัฐบาล มั่นใจความขัดแย้งภายในครอบครัวจบด้วยดี ย้ำการดำเนินงานยังต่อเนื่องตามแผนเดิม เผยยอดขาย Dusit Residences เกือบ 17,000 ล้านบาท ปี 2569 โอน 80% หนุนผลงานพลิกเป็นกำไร ล้างขาดทุนสะสม 1,074.85 ล้านบาท
1
บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าหลังจากได้รับการทาบทามจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้เข้าดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” และนางศุภจีได้ตัดสินใจตอบรับการทาบทามเพื่อดำรงตำแหน่งดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
1
จึงมีความประสงค์จะขอเกษียณอายุก่อนครบกำหนดจากตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม” บมจ. ดุสิตธานี เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมเศรษฐกิจ ที่จะร่วมขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ เพื่อพัฒนาประเทศในช่วงที่ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน
1
และเพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทฯ เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมั่นคง คณะกรรมการบริษัทฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ควบอีกหนึ่งตำแหน่ง เพื่อให้การบริหารจัดการและนโยบายต่างๆ ในระยะเปลี่ยนผ่าน สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น
นายชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี เปิดเผยว่า ในฐานะองค์กรที่ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ ดุสิตธานีรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่นางศุภจีได้รับโอกาสอันสำคัญนี้ ซึ่งจะเป็นการอุทิศตนเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติในช่วงรอยต่อที่สำคัญของบ้านเมือง
“บริษัทขอขอบคุณคุณศุภจีสำหรับความทุ่มเท ความเป็นผู้นำ และวิสัยทัศน์ที่ได้หล่อหลอมองค์กรตลอดที่ผ่านมา จนภารกิจในการวางรากฐานให้กลุ่มดุสิตธานีพร้อมที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สามารถสำเร็จลุล่วงด้วยดี ในขณะที่ภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเวลานี้ต้องการผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นแรงขับเคลื่อน ซึ่งนับเป็นเรื่องเร่งด่วน ภายใต้เงื่อนเวลาที่จำกัด กลุ่มดุสิตธานีจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณศุภจีจะได้ใช้ความรู้ความสามารถทำงานรับใช้ชาติและประชาชน
1
ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ และหากภารกิจของชาติเสร็จสิ้นเป็นเรียบร้อย กลุ่มดุสิตธานีก็พร้อมจะต้อนรับคุณศุภจีกลับมาเสมอ โอกาสนี้ ผมขอร่วมแสดงความยินดีและอวยพรให้คุณศุภจีประสบความสำเร็จอย่างสูงในภารกิจอันทรงเกียรตินี้ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างยั่งยืน” นายชนินทธ์กล่าว
ขณะที่ประเด็นความขัดแย้งภายในครอบครัว มองว่าน่าจะจบลงด้วยดี สามารถแก้ไขได้ ไม่สามารถบอกได้ว่าการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 26 ก.ย. 68 จะเป็นอย่างไร แต่อยากให้เชื่อมั่นในดุสิตธานีว่าทุกอย่างจะออกมาด้วยดี
ด้านนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี และว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า อยากให้เห็นถึงความต่อเนื่องในการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งซีอีโอไปสู่คุณชนินทธ์ โดยยังไม่ควรตีความประเด็นความขัดแย้งใด ๆ ในเชิงบวกหรือลบ แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี เนื่องจากคุณชนินทธ์มีความตั้งใจและพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น
1
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี รู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก และสามารถทำให้ “ดุสิตธานี” เป็นหมุดหมายที่สำคัญของประเทศไทยจากนักเดินทางทั่วทุกมุมโลก
1
พร้อมกันนี้ ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงาน ทั้งผู้ถือหุ้น กรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า และคู่ค้าของดุสิตธานี ที่ร่วมแรงร่วมใจฝ่าฟันวิกฤติรวมทั้งปัจจัยท้าทายจนทำให้แบรนด์ “ดุสิตธานี” เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สง่างาม และน่าภาคภูมิใจ
สำหรับการดำเนินงานของกลุ่มดุสิตธานีหลังจากนี้ จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากแผนงานเดิมที่ได้ถูกวางรากฐานไว้อย่างมั่นคงตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
รวมถึงโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” (Dusit Central Park) มูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท ที่จะเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้ ด้วยทีมบุคลากรที่มีคุณภาพของกลุ่มดุสิตธานีที่ยังคงทุ่มเททำงานอย่างเต็มกำลังเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้น ขอให้ผู้ลงทุน ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง มั่นใจและเชื่อมั่นในสิ่งที่ “ดุสิตธานี” ดำเนินการมาโดยตลอด
ล่าสุด โครงการ Dusit Residences มียอดขายแล้วเกือบ 17,000 ล้านบาท คิดเป็น 94% ของมูลค่าโครงการ โดยจะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ช่วงปลายปี 2568 และคาดว่าในปี 2569 จะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้เกือบ 80% ส่วนที่เหลือจะโอนในปี 2570 ทั้งนี้ คาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ Dusit Residences ดังกล่าวจะทำให้บริษัทสามารถพลิกเป็นกำไรและล้างขาดทุนสะสม 1,074.85 ล้านบาท ได้
“อยากให้ทุกคนมั่นใจว่า สิ่งที่ถูกส่งต่อและวางไว้บนมือของผู้บริหารและพนักงานของกลุ่มดุสิตธานีหลังจากนี้ คือ การเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของดุสิตธานี บนรากฐานที่มั่นคง ที่ดิฉันและทีมดุสิตธานีทุกคนร่วมกันสร้างไว้ และนี่คือ สิ่งที่เราพยายามทำมาตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา นั่นคือ ไม่ว่าจะเผชิญกับปัจจัยท้าทาย หรือความเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ยังเชื่อมั่นได้ว่า ทั้งโครงสร้างองค์กร โครงสร้างธุรกิจ และโครงสร้างทางการเงินของกลุ่มดุสิตธานี จะรองรับกับทุกความเปลี่ยนแปลงนั้นได้เป็นอย่างมั่นคง
1
สุดท้ายนี้ ดิฉันขอขอบคุณคุณชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการ ที่ให้โอกาสและมอบหมายให้ทำภารกิจสำคัญจนลุล่วง รวมถึงยินดีและเต็มใจที่จะให้ดิฉันมีโอกาสใช้ความรู้ความสามารถในการรับใช้ประเทศชาติและประชาชน และดิฉันเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ดุสิตธานีจะสามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในฐานะแบรนด์ไทยในระดับโลกได้อย่างยั่งยืน” นางศุภจีกล่าว
ส่วนการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลชุดใหม่ของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” มาจากความตั้งใจที่จะนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่มี มาต่อยอดในการเจรจาระหว่างประเทศเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย อีกทั้งการเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ จึงจำเป็นต้องเร่งผลักดันนโยบายที่สำคัญและมีความเป็นไปได้ให้เกิดผลโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ด้วยบุคลิกที่ชอบการทำงานร่วมกับผู้อื่น ยังช่วยให้สามารถประสานความร่วมมือกับทีมเศรษฐกิจเพื่อสร้างประโยชน์แก่ประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โฆษณา