13 ก.ย. เวลา 05:42 • ธุรกิจ

สรุป Expert Talk จากงาน PTTEP KM Week 2025 โดยคุณคมสันต์ แซ่ลี CEO และ Founder ของ Flash Express

ผมมีโอกาสได้ฟังคุณคมสันต์ CEO และ Founder ของ Flash Express ที่เป็น start-up ที่ได้เป็น unicorn ตัวแรกเลยของประเทศไทย มาพูดเรื่อง “Technology, Agility & Adaptability : Key to Long Term Success” ที่งาน KM Week ประจำปีของ PTTEP ที่จัดต่อเนื่องกันมาแล้วเกือบ 30 ปีครับ ขอสรุปเนื้อหา แนวคิดของคุณคมสันต์ไว้ดังนี้ครับ
1. คุณคมสันต์เริ่มต้นพูดว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้คือ ความผิดพลาด ครับ ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ คนส่วนใหญ่มักจะต้องการสิ่งที่ถูกต้องหมดเลยตั้งแต่วันแรก แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถูกตั้งแต่วันแรก เราจำเป็นต้องผิดพลาดก่อนเพื่อที่จะเรียนรู้
2. Flash express ของเขามีจุดเด่นที่ชนะเจ้าอื่นคือเขามีการ update ระบบของเขาเป็นรายสัปดาห์ เจ้าอื่นอาจจะไตรมาสละครั้งหรือปีละครั้ง เพราะเขาไม่รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไรจริง ๆ เขาจึงต้องการ feedback มาเพื่อแก้ไขและปรับปรุงให้เร็วที่สุด
3. เวลาเราเจออุปสรรคให้เราคิด 3 อย่าง
[1] เรามีทางเลือกอื่นมั้ย
.
[2] ให้ซอยปัญหาย่อยออกเป็นเรื่องเล็ก ๆ แล้วแก้เรื่องเล็ก ๆ ทีละเรื่องจะง่ายกว่าการแก้ปัญหาใหญ่ ๆ
.
[3] สำคัญมากแต่คนไม่ค่อยพูดถึงคือการกำลังใจตัวเองและเพื่อนร่วมงาน
4. ปรัชญาประจำตัวที่คุณคมสันต์ใช้มีเยอะมาก แต่หลัก ๆ คือ อย่าคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จ และสิ่งที่เราทุ่มเทหรือทำไปแต่ละอย่างนั้นมีต้นทุนของมัน เราต้องคิดให้ดีเพราะมันต้องแลกกับอะไรบางอย่าง คมสันต์ยกตัวอย่างตัวเองว่าเขามีสุขภาพที่ไม่ดีเลย และมีเวลาให้กับครอบครัวน้อยมาก นี่คือสิ่งที่เขาต้องแลกมา
5. คมสันต์ไม่เชื่อเรื่อง work life balance เท่าไหร่ แต่คนเราเมื่อทำไปเรื่อย ๆ ก็จะหา balance ของตัวเองเจอ ซึ่ง balance ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับเขา เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาทำ แค่นั้นพอ
1
6. พูดถึงเรื่องเทคโนโลยี คมสันต์บอกว่าเทคโนโลยีเป็นต้นทุนที่สูงเอาเรื่อง ส่วนใหญ่เวลาที่เขาจะลงทุนกับเรื่องนี้มักจะเจอคำถามว่า เมื่อไหร่จะเห็นผล และลดต้นทุนลงอีกได้มั้ย
7. เขาแนะนำองค์กรต่อว่า ถ้าเรามีเงินให้ลงทุนไปเลย เพราะได้ระยะยาวเราจะได้ผลลัพธ์ที่มหาศาลเกินคาด
8. Flash Express มีการลงทุนนำเทคโนโลยีมาใช้ทำให้เกิด competitiveness มากกว่าคนอื่น เช่น มีระบบที่จดจำที่อยู่ของลูกค้าได้ เช่น มีการเก็บข้อมูลว่าหากไปส่งลูกค้าคนนี้ที่เดิม 3 ครั้ง ระบบจะจำทันทีว่าเป็นที่อยู่ประจำของคนนี้ ไรเดอร์หรือพนักงานที่เข้ามาใหม่จะเปิดข้อมูลดูและรู้ได้เลย เป็นต้น
9. อะไรที่ใช้เทคโนโลยีได้ อย่าใช้คนทำ
10. สิ่งสำคัญในการการเลือกเทคโนโลยี คือต้องเลือกให้เหมาะสมและถูกเวลา คือ คนรู้จักและใช้เป็น หากเราเลือกเทคโนโลยีที่ล้ำมากไป เอามาใช้แต่คนใช้ไม่เป็นก็ไม่เกิดประโยชน์
11. ผู้บริหารของ Flash express ต้องไปทำหน้าที่เป็น call center 3 ชั่วโมงในแต่ละเดือน เพื่อให้รู้ว่าปัญหาที่ลูกค้าเจอคืออะไรบ้าง แล้วก็จะมีช่องทางให้ feedback ถึงผู้บริหารได้ตลอดแบบไม่ต้องระบุชื่อ
12. KPI ที่ขัดแย้งกันของแต่ละแผนกทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ เพราะไม่ได้มองภาพเดียวกันหมด ที่ Flash express เขาเลือกใช้ OKR (Objective and Key Results)
13. องค์กรควรบ่มเพาะให้พนักงานได้เรียนรู้ตลอดเวลา ที่ Flash express เขามีระบบการบังคับ training ด้วย แบบไม่เทรนให้จบ ไม่ให้กลับบ้าน (ฮาาาา)
14. การใช้ AI มาช่วยทำให้เราทดลองทำอะไรได้เยอะและเร็ว การใช้ AI ทำ marketing plan เราสามารถทดลองวันละ 1 อย่างได้เลย
15. พูดถึงเรื่องของ Re-Skills/Up-Skills แล้ว คมสันต์บอกว่า นอกจากเรื่องของ AI แล้วสิ่งที่สำคัญคือ ผู้บริหารต้องเปิดโอกาสและให้ช่องว่างพนักงานทำผิดพลาดบ้าง (ไม่ใช้ผิดแบบเดิมซ้ำ ๆ) เพราะจะทำให้พนักงานเรียนรู้ เติบโตและแข็งแรงได้เร็วที่สุด
16. เมื่อทำอะไรแล้วเกิดข้อผิดพลาด สิ่งที่ทำอย่างแรกเลยคือ ขอโทษ ถัดมาคือเรียนรู้และอย่าทำผิดซ้ำอีก
17. ที่ Flash express มักจะเปิดโอกาสให้พนักงานได้ลองโครงการใหม่ ๆ เล็ก ๆ ลองผิดลองถูกก่อนโดยที่ใช้เงินไม่ได้เยอะมาก ทำให้พนักงานได้มีโอกาสเรียนรู้
18. องค์ประกอบของทีมสมัยก่อน อาจจะมีหัวหน้า 1 คนต่อคนในทีมประมาณ 7-8 คน แต่แนวโน้มในปัจจุบันและอนาคตทีมจะมีขนาดเล็กลง เหลือแค่ 2-3 คน เพราะยิ่งกลุ่มเล็ก ยิ่งปรับตัวเร็วกกว่า และก็ตัดสินใจและคิดได้คมกว่าด้วย เพราะไม่โดนตัดทอนไปก่อน
19. เรื่องของ culture หรือวัฒนธรรมองค์กรนั้น ระยะแรกเริ่มมันก็คือ ความต้องการและแนวทางของผู้ก่อตั้งหรือเจ้าของ ไม่ต้องทำให้ลึกมากแต่ระยะยาวมันคือการที่คนในองค์กรทั้งหมดจะสร้างคุณค่าอะไรให้สังคม
20. องค์กรต้องดมกลิ่นให้ออก ว่ากลิ่นแบบไหน คนแบบไหนที่เข้ากับองค์กรได้ กลิ่นแบบไหน คนแบบไหน ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ แล้วเลือกให้ถูก
21. เรื่อง WFH คมสันต์บอกว่าในช่วง WFH 3 เดือนแรกดีมาก ๆ ทุกคนสามารถประชุมได้จากทุกที่ แต่หลังจากนั้นแย่เลย เพราะคนเอาแต่ประชุม เพราะนัดกันง่ายขึ้นจนไม่มีคนทำงาน แถมเวลาคนไม่ได้เจอกันนาน ๆ เขาบอกว่าคนจะปลอมใส่กัน ไม่ได้ feedback จริง ๆ ให้แก่กัน องค์กรก็พัฒนาได้ยาก
22. คมสันต์ให้วิธีคิดสำหรับคนเป็นนักเรียนนักศึกษาว่าให้คบเพื่อนต่างสาขาให้มากที่สุด เพราะในอนาคตคนเหล่านี้แหละจะเป็นอาวุธให้เราใช้ได้ในอนาคต
23. และให้นักศึกษาหางาน part time ทำให้มากที่สุดถ้าเป็นไปได้ ลองทำงานหลาย ๆ แบบให้รู้ว่าเราชอบไม่ชอบอะไร
24. คำแนะนำสำหรับคนในองค์กรคือ จะทำตัวเป็นหัวหน้าที่เราชอบ และเราจะได้เลื่อนขั้น ได้เป็นหัวหน้าคนนั้น อีกอย่างที่สำคัญคือ ให้ทำงานมากกว่าสิ่งที่ตัวเองควรทำ เมื่อมีโอกาสคุณจะได้เลื่อนตำแหน่งก่อน และสุดท้ายนอกจากรับผิดชอบงานแล้วให้เรารักงานที่เราทำด้วย
25. คำแนะนำสำหรับผู้บริหาร คือ โลกยุคนี้มีการเปลี่ยนแปลงเยอะและเร็ว ให้มี plan B หรือ C หรือ D ไว้เสมอ และผู้บริหารควรลงไปดูงานเยอะ ๆ เพื่อเรียนรู้หาแนวคิดใหม่ ๆ หาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เอามาปรับใช้
1
26. สำหรับคนที่อยากเป็นผู้ประกอบการ คมสันต์บอกว่า ปี 25-26 เป็นปีที่หนัก อย่าเพิ่งเริ่มทำอะไรในช่วงนี้ แต่ให้ใช้เวลาช่วงนี้ในการเรียนรู้ เช่น อยากเปิดร้านอาหารอีสาน ให้ลองไปสมัครทำงานร้านอาหารอีสานที่ดีที่สุดซัก 1 ปี แล้วลองทำงานให้เยอะที่สุดมากที่ที่ต้องทำ เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ไว้ เมื่อเรากลับมาทำเอง เราจะมีโอกาสสำเร็จมากกว่าคนอื่น
27. เทรนด์ในอนาคต ธุรกิจยักษ์ใหญ่จะเติบโตต่อไป แต่เทคโนโลยีจะทำให้คนตัวเล็กสู้คนตัวใหญ่ได้ เพราะผู้บริโภคชอบของใหม่ ของแปลก ต้องสร้างความแตกต่างถึงจะชนะได้
28. สุดท้ายคมสันต์กล่าวสรุปไว้ว่าบทเรียนที่ดีที่สุดก็คือบทเรียนของตัวเราเอง ถ้าเราได้ลองเอง ได้ทำเอง จะดีที่สุด และสุดท้ายจงมีกำลังใจในการต่อสู้และทำสิ่งต่าง ๆ ครับ
โฆษณา