13 ก.ย. เวลา 12:18 • ประวัติศาสตร์

ภูเก็ตที่ไม่ใช่เกาะ

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน วันนี้ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับเรือรบมาฝากกัน เรือลำนี้เป็น 1 ใน 5 ลำที่ปลดประจำการด้วยคำสั่งจากกระทรวงกลาโหม เนื่องจากมีอายุการใช้งานมาก สัตว์โลกมีวันเกิดดับฉันใด เรือรบย่อมมีวันเกิดดับฉันนั้น นี่คือสัจธรรมที่หลีกหนีไม่พ้น
ขอเชิญทุกท่านพบกับประวัติของเรือหลวงภูเก็ต 333
ภูเก็ตที่แท้ไม่ใช่แค่ชื่อเกาะแต่คือชื่อของเรือรบนามว่า "เรือหลวงภูเก็ต 333"
ตามหลักการตั้งชื่อของเรือรบของกองทัพเรือที่กำหนดหลักการไว้ว่าเรือรบประเภทเรือเร็วโจมตีปืน หรือเรือเร็วโจมตีตอร์ปิโด นั้น ตั้งชื่อตามจังหวัดชายทะเล และเมื่อประมาณ 42 ปีที่แล้ว (พ.ศ.2526) กองทัพเรือได้สั่งต่อเรือเร็วโจมตีปืนขึ้นจากประเทศอิตาลี จำนวน 1 ชุด ประกอบด้วยเรือจำนวน 3 ลำ โดยมีชื่อว่า เรือหลวงชลบุรี เรือหลวงสงขลา และเรือหลวงภูเก็ต ซึ่งการตั้งชื่อตามหลักการที่กล่าวไปข้างต้น
สำหรับเรือหลวงภูเก็ต 333 ถูกจัดอยู่ในชั้นเรือหลวงชลบุรี เรือรบชั้นนี้มีความเป็นมาอย่างไรนั้นก็ขออนุญาตนำมาเล่าในบทความนี้ให้ทราบโดยทั่วกันครับ
ตามโครงการเสริมกำลังทางเรือในปีพ.ศ. 2523 รัฐบาลอนุมัติให้กองทัพเรือจัดหาเรือเร็วโจมตีปืน (รจป.) จำนวน 3 ลำ กองทัพเรือจึงได้ว่าจ้างบริษัทแคนติแอร์ นาวาล เบรด้า ประเทศอิตาลี เป็นผู้ต่อเรือทั้ง 3 ลำโดยใช้ชื่อว่า เรือหลวงชลบุรี เรือหลวงสงขลา และเรือหลวงภูเก็ต เรียกว่า ชุด ร.ล.ชลบุรี (MV400 class FAC-G) สังกัด กองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ
สำหรับเรือหลวงชลบุรีชื่อปัจจุบัน เป็นลำใหม่ โดยเรือหลวงชลบุรีลำเก่า เป็นเรือตอร์ปิโด หมายเลข 32 ขึ้นระวางประจำการเมื่อ 5 ตุลาคม พ.ศ.2481 ก่อนหน้านั้นเมื่อ พ.ศ. 2478-พ.ศ.2480 ชาวจังหวัดชลบุรี ได้มีส่วมบริจาคทรัพย์กับกองทัพเรือ ในงานประจำปีจังหวัดชลบุรี เพื่อซื้อเรือรบหลวงชลบุรี ด้วยความภาคภูมิใจ ที่มีเรือรบหลวงชื่อจังหวัดชลบุรีเป็นมงคลนาม
ภารกิจสำคัญของเรือหลวงชลบุรีคือ ยุทธนาวีเกาะช้าง กรณีพิพาทอินโดจีน-ฝรั่งเศส เป็นการรบระหว่างเรือรบไทย 3 ลำ คือ เรือหลวงธนบุรี เรือหลวงสงขลา และเรือหลวงชลบุรี กับเรือรบฝรั่งเศสจำนวนประมาณ 13 ลำ โดยเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2484 เรือหลวงชลบุรี ถูกหมู่เรือรบฝรั่งเศสยิงจมที่เกาะง่าม
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนพ.ศ.2526 พลเรือเอกสมบูรณ์ เชื้อพิบูลย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กระทำพิธีรับมอบเรือหลวงชลบุรี 331 ณ ท่าเทียบเรือ กรมสรรพาวุธทหารเรือ บางนา ชื่อของเรือหลวงชลบุรีจึงได้กลับฟื้นคืนมาอีกครั้งหนึ่งหลังยุทธนาวีเกาะช้าง 42 ปีเต็ม
การจัดหาเรือรบชั้นเรือหลวงชลบุรีในครั้งนั้น ทำให้กองทัพเรือมีความสมบูรณ์ในเรื่องความพร้อมรบ ทุกอย่างที่เรือ 3 ลำดีเยี่ยมไม่ว่าจะเป็น แบบเรือก็ดี ระบบอาวุธก็ดี ระบบเรดาร์ก็ดี ล้วนทันสมัย เป็นของดีอันดับต้นๆ มีใช้งานบนเรือรบไทยจำนวนหลายลำในสมัยนั้น
หลายๆท่านจะเห็นว่าในยุคนั้นกองทัพเรือมีการทำงานอย่างมืออาชีพ ใช้งบประมาณจัดหาอาวุธอย่างชาญฉลาด แม้ทั้ง 3 ลำจะเป็นเรือลำเล็กมีเพียงอาวุธปืนป้องกันตัวเอง แต่มีศักดิ์ศรีทัดเทียมทุกชาติเพราะซื้อด้วยเงินตัวเอง
เรือรบทั้ง 3 ลำเดินทางถึงประเทศไทยตามลำดับดังนี้
1.เรือหลวงชลบุรี วันที่ 2 มิถุนายนพ.ศ. 2526
2.เรือหลวงสงขลา วันที่ 5 กันยายนพ.ศ. 2526
3.เรือหลวงภูเก็ต วันที่ 12 ธันวาคมพ.ศ. 2526
ทำการฉลองและสมโภชเรือหลวง 3 ลำตามลำดับดังนี้
1.เรือหลวงสงขลา วันที่ 5-7 กันยายนพ.ศ.2526
2.เรือหลวงภูเก็ต วันที่ 12-13 ธันวาคมพ.ศ.2526
3.เรือหลวงชลบุรี วันที่ 11-21 เมษายนพ.ศ. 2527
หลายท่านอาจแปลกใจว่า ทำไมเรือหลวงชลบุรีเดินทางถึงประเทศไทยก่อนเรือหลวงลำอื่นๆ แต่ถึงได้กระทำพิธีฉลองเรือหลวงชลบุรีหลังเรือหลวงสงขลาและเรือหลวงภูเก็ต
เหตุผล
1.เรือหลวงสงขลาและเรือหลวงภูเก็ตมาถึงประเทศไทยก็เทียบท่าจังหวัดแต่ละจังหวัดทำการฉลองได้ทันที เมื่อเรือหลวงเดินทางมาถึงก็จัดพิธีฉลองและสมโภชได้ตามกำหนดการที่เตรียมไว้
2.เรือหลวงชลบุรีถึงประเทศไทยวันที่ 2 มิถุนายน 2526 พลเรือเอกสมบูรณ์ เชื้อพิบูลย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กระทำพิธีรับมอบเรือหลวงชลบุรี ณ ท่าเทียบเรือ กรมสรรพาวุธ ทหารเรือ บางนา เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2526
3.เป็นประเพณีของชาวจังหวัดชลบุรี ที่กระทำพิธีฉลองเรือรบหลวงชลบุรี (ลำเก่า) ในงานประจำปีจังหวัดชลบุรีปี พ.ศ.2481 จังหวัดชลบุรีจึงเห็นควรรอการฉลองเรือหลวงชลบุรี 333 ไว้ในงานประจำปีจังหวัดชลบุรี พ.ศ.2527 เพราะเรือหลวงชลบุรีเดินทางมาถึงประเทศไทย หลังจากงานประจำปีจังหวัดชลบุรี พ.ศ.2526 แล้ว
ด้วยเหตุผล 3 ประการ งานฉลองเรือหลวงชลบุรีจึงล่าช้ากว่างานฉลองเรือหลวงสงขลาและเรือหลวงภูเก็ต แต่จังหวัดชลบุรีก็ได้ร่วมกับกองทัพเรือจัดงานเฉลิมฉลองเรือหลวงชลบุรีอย่างมโหฬารถึง 11 วัน 11 คืน มีพิธีการที่เหมาะสมยิ่งและมหรสพสมโภชอย่างมโหฬาร นับเป็นงานมหกรรมที่ยิ่งใหญ่โดยเฉพาะ ได้สร้างของที่ระลึกในงานฉลองเรือหลวงชลบุรีไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์หลายสิ่งหลายประการ
ในส่วนเอกชนมีความตื่นตัวรอต้อนรับเรือใหม่ ประชาชนใน 3 จังหวัดรับรู้ข่าวเรือรบ 3 ลำโดยตลอด งานเฉลิมฉลองเรือเป็นประเพณีใหญ่ตั้งแต่ก่อนสงครามโลก คือความผูกพันของคนในจังหวัดกับเรือลำนั้นๆ ไม่ทราบเหมือนกันว่าปัจจุบันยังมีอยู่หรือไม่ เพราะผู้เขียนไม่ได้ติดตามข่าวทหารเรือมากนัก
หลายปีต่อมาเรือหลวงชลบุรี 331 เรือหลวงสงขลา 332 และเรือหลวงภูเก็ต 333 โดยมีสิ่งเปลี่ยนชัดเจนมากที่สุดก็คือ เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ ZW06 ถูกถอดออกไปเพราะหมดอายุขัย ทดแทนด้วยเรือเรดาร์เดินเรือจำนวน 2 ตัวตำแหน่งใกล้ตำแหน่งเดิม อาวุธและอุปกรณ์อื่นๆ ยังอยู่ครบถ้วนเหมือนเก่า
หลายๆ อย่างอาจสู้ของใหม่ไม่ได้ อาทิเช่นปืนใหญ่ 76/62 มม.รุ่น Compact ประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่น Super Rapid ปืนกล 40/70 มม.ลำกล้องแฝดขายไม่ออกนานแล้ว เรดาร์ควบคุมการยิง WM22/61 มีขนาดเทอะทะเมื่อเทียบกับรุ่นหลาน เรดาร์/ออปทรอนิกส์ควบคุมการยิง LIROD-8 หายหน้าหายตาไปนาน ระบบเป้าลวง MK-33 RBOC ถูกทดแทนด้วย MK-36 Super RBOC ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ก็ล้าสมัยเต็มทน บังเอิญมีข้อดีคือทุกอย่างยังมีชาติอื่นใช้งานเช่นกัน
เรือหลวงชลบุรีเข้าประจำการมาเกิน 40 กว่าปีแล้ว แต่อาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ ยังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ยังมีอะไหล่สำหรับซ่อมบำรุงวางขายอีกหลายปี ถือเป็นอานิสงส์จากคณะกรรมการจัดหาเรือ ที่ได้คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเหมาะสมที่สุดนำมาติดตั้งบนเรือ
ภาพต่อจากนี้ที่ท่านจะได้เห็นต่อจากนี้คือชั้นเรือหลวงชลบุรี เรียงจากภาพบนเป็นเรือหลวงชลบุรี 331 ภาพกลางเรือหลวงสงขลา 332 และภาพล่างเป็นเรือหลวงภูเก็ต 333
ข้อมูลจำเพาะเรือหลวงภูเก็ต 333
หมายเลข : 333
ขึ้นระวางประจำการ : 17 ตุลาคม 2526
ผู้สร้าง : บริษัท Cantiere Navale Breda ประเทศอิตาลี
ความยาวตลอดลำ : 60.40 เมตร
ความกว้าง : 8.80 เมตร
กินน้ำลึก : 2.0 เมตร
ความเร็วมัธยัสถ์ : 18 นอต
ความเร็วสูงสุด : 29 นอต
ระวางขับน้ำปกติ : 420 ตัน
ระวางขับน้ำเต็มที่ : 450 ตัน
ระยะปฏิบัติการไกลสุด : 2,500 ไมล์
กำลังพลประจำเรือ : 49 นาย
ปฏิบัติการต่อเนื่อง : 7 วัน
ระบบตรวจการณ์ :
>เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ Thales ZW06
>เรดาร์ควบคุมการยิง Thales WM22 mod 61
>เรดาร์และออปโทรนิกส์ควบคุมการยิง Thales LIROD 8
>ศูนย์รวบ (ปืนใหญ่เรือ) Thales TDS
>เรดาร์เดินเรือ Decca 1226
ระบบอาวุธ
>ปืนใหญ่เรือ OTO Melara 76/62 Compact ขนาด 76 มม. 2 แท่น
>ปืนใหญ่กล Breda Twin Compact ขนาด 40 มม. แท่นคู่ 1 แท่น
>ปืนกล U.S. Ordnance M2HB ขนาด 12.7 มม. แท่นเดี่ยว 2 แท่น
>แท่นยิงเป้าลวง Sippican Mk 135 4 แท่น แท่นละ 6 ท่อยิง
ระบบขับเคลื่อนและเครื่องจักรช่วย
>เครื่องจักรใหญ่ดีเซล MTU 20V 538 TB92 จำนวน 3 เครื่อง
>เครื่องขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล MTU 6V 396 TC52 4 เครื่อง
>เพลาใบจักร 3 เพลา ใบจักร Kamewa แบบปรับมุมได้
ระบบสนับสนุนอื่นๆ
>ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์แบบรวมการ Elettronica Newton Alpha จำนวน 2 ชุด
>ระบบตรวจจับสัญญาณเรดาร์ Elettronica ELT 211
>ระบบรบกวนสัญญาณเรดาร์ แบบ deception jammer Elettronica ELT 521
>ระบบตรวจจับสัญญาณสื่อสาร Elettronica ELT 128
>ระบบควบคุมการยิงเป้าลวง Sippican Mk 33 RBOC
เมื่อวานนี้ (13 กันยายนพ.ศ.2568) มีข่าวว่ากองทัพเรือไทยปลดประจำการเรือหลวงภูเก็ต 333 พร้อมกับเรือรบอีก 4 ลำที่กล่าวไปเมื่อวานนี้ นับเป็นการปิดฉากการปกป้องอธิปไตยมากว่า 42 ปี
ถึงแม้จะไม่มีเรือรบแบบนี้ปรากฎตัวบนท้องทะเลไทย ก็ยังมีเรือรบแบบใหม่ที่ทันสมัยกว่าพร้อมทำหน้าที่แทน การปลดประจำการเรือรบครั้งนี้ทำให้ทุกท่านเห็นแล้วว่าสิ่งใดในโลกล้วนเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จะให้อยู่อย่างเที่ยงแท้จีรังไปตลอดกาลไม่ได้ ไม่อย่างนั้นไม่เรียกว่าสัจธรรม
ในเมื่อทุกอย่างมีวันเกิดวันดับก็คงต้องยอมรับความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้จะมีชีวิตอยู่สุดท้ายร่างนี้ก็ต้องพบกับป่าช้า เฉกเช่นเรือหลวงภูเก็ต 333 ที่ต้องพบกับความพลัดพรากจากหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่มันเคยทำไว้ สำหรับการปลดประจำการนี้มันไม่ได้ทำให้ผู้เขียนรู้สึกสลดสังเวชกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นการย้ำเตือนให้เห็นว่าชีวิตคนเรามันย่อมมีวันเปลี่ยนไปได้เสมอตามอายุขัย จะเป็นเหมือนเดิมคงเป็นไม่ได้จริงไหมฮะ
สุดท้ายนี้ผู้เขียนขอปิดท้ายด้วยภาพพลเรือโท ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 มอบเรือจำลองเรือหลวงภูเก็ตไว้เป็นที่ระลึกให้กับจังหวัดภูเก็ต ในโอกาสที่เรือหลวงภูเก็ตมีชื่อเดียวกับจังหวัด โดยมี นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับมอบ ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2555
พร้อมด้วยภาพจริงเรือหลวงภูเก็ต 333 อีก 2 ภาพที่แถมให้ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
SeaFarer
Phuketandamannews
กองทัพเรือไทย Royal Thai Navy
Thairath Online
เทคโนโลยีและประวัติศาสตร์ด้านการทหารกองทัพไทยและกองทัพทั่วโลก
Thaidefensenews
JerryE
เรียบเรียงโดย : เบิ้ล ตาควาย
โฆษณา