เมื่อวาน เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ไทยยังไม่เผชิญเงินฝืด ห่วงสินค้าจีนทะลักซ้ำเติม จี้รัฐเร่งหาทางอออก

กรุงไทยย้ำ เงินเฟ้อติดลบ 5 เดือนต่อเนื่อง สาเหตุหลักจากมาตรการรัฐ ไม่เห็นกลุ่มราคาสินค้าลดลง เพิ่มขึ้นในวงกว้าง ย้ำไทยไม่เผชิญภาวะเงินฝืด ห่วงสินค้าจีนราคาถูกทะลัก กดดันผู้ประกอบการไทย จี้รัฐเร่งหาทางออก
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีผู้บริโภคทั่วไป หรือเงินเฟ้อทั่วไป ของไทยเดือนส.ค.2568 ลดลง 0.79% เป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 รวม 8 เดือน(ม.ค.-ส.ค.2568)อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ขณะที่สนค.คาดว่า เดือนก.ย.มีแนวโน้มที่จะเห็นเงินเฟ้อลดลงต่อ แต่แนวโน้มทั้งปี น่าจะอยู่ที่ 0-0.1%
สอดคล้องกับนายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปช่วงที่เหลือของปียังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง แต่จะเป็นลักษณะติดลบน้อยลงจากช่วงที่ผ่านมา ปัจจัยหลักนอกจากราคาทองคำในตลาดโลกและการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์แล้ว การติดลบของเงินเฟ้อทั่วไปยังสะท้อนปัจจัยด้านอุปทาน(Supply side) จากราคาสินค้าเกษตร ราคาอาหารหมวดเนื้อสัตว์ปรับตัวลดลงด้วย
เห็นได้จากราคาผักและผลไม้สดยังอยู่ในโทนต่ำกว่าปีที่แล้วค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งเพราะปีนี้ที่มีฝนตกมาก ทำให้ผลผลิตดีกว่าปีที่แล้ว รวมทั้งราคาข้าวอยู่ในระดับต่ำ แม้จะมีปัจจัยภายนอกที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าว
ส่วนราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่แล้วและแนวโน้มจะปรับขึ้นยาก เนื่องจาก OPEC ทยอยเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวไม่ดีนักหรือมีโอกาสชะลอตัว
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย
จะเห็นได้ว่า ปัจจัยด้านซัพพลายเป็นตัวกดดันเงินเฟ้อทั่วไป ขณะที่เมืองไทยมีมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพของภาครัฐ ซึ่งมีส่วนคุมค่าไฟฟฟ้า หากมีการผลักดันนโยบายลดค่าโดยสารเกิดขึ้น ย่อมทำให้หมวดการเดินทางสาธารณะปรับตัวลง
ดังนั้นด้วยปัจจัยซัพพลายไซด์ดังกล่าวทำให้มองว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มจะติดลบที่น้อยลงกว่าช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งเงินเฟ้อที่ติดลบ 5เดือนหลักๆ มาจากการทำมาตรการอุดหนุนราคาพลังงานหรือเพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ จึงทำให้เงินเฟ้อของไทยต่ำ และยังไม่สะท้อนการเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เพราะยังไม่เห็นสัดส่วนของราคาสินค้าที่ปรับตัวลดลงเพิ่มสูงขึ้น จึงสบายใจได้ว่า ยังไม่มีความเสี่ยงตรงนี้
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อของไทยไม่ได้เป็นปัญหาหรือเป็นปัจจัยให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ต้องลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่ภาพของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวกับปัญหาหนี้ครัวเรือนและหนี้ของผู้ประกอบการ SMEs น่าจะเป็นปัจจับให้ธปท.ติดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าตัวเลขของเงินเฟ้อที่ติดลบ
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังทรงตัวที่ 0.8% ชะลอตัวลงบ้าง อาจจะเป็นผลกระทบจาก2ส่วนคือ ความต้องการลดลงจากภาพเศรษฐกิจไทยที่ชะลอลง และสินค้าราคาถูกจากจีนที่ทะลักเข้าไทย
นายพูนกล่าวเพิ่มเติมว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่อยู่ในระดับต่ำและมาจากปัจจัยด้านอุปทานนั้น จริงๆ มีส่วนช่วยประคับประคองทั้งครัวเรือนและธุรกิจรายย่อย แต่หากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปต่ำและมาจากปัจจัยด้านดีมาน์ จึงจะเป็นความเสี่ยงของภาวะเงินฝืด
ทั้งนี้ กรณีของไทย ธปท.ประเมินอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ช่วง 5ปีและ 10ปีข้างหน้า น่าจะอยู่แถว 1.6-1.7% ซึ่งยังอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 1-3% แต่ช่วงที่เหลือของปี มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นหน่วยงานหลักและกระทรวงพาณิชย์น่าจะปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปสำหรับปี 2568 โดยเงินเฟ้อทั้งปี มีโอกาสติดลบ ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวเลขรายเดือนที่ทยอยออกมาในช่วงที่เหลือด้วย
นายพูนกล่าวถึงการดูแลอัตราเงินเฟ้อทั่วไปไม่ให้หดตัวว่า ประเด็นที่ต้องทำคือ ดูแลปัญหาสินค้าราคาถูกจากจีน เพราะแม้เงินเฟ้อของไทยต่ำ แต่ผู้ประกอบการของไทยเจอการแข่งขันที่หนักขึ้นจากสินค้าราคาถูกจากจีน ทั้งในแง่ผู้ประกอบการนำเข้าหรือผู้ประกอบการในประเทศสู้กับสินค้านำเข้าราคาถูก และผู้ประกอบการผู้ส่งออกที่ทำตลาดยากขึ้น เพราะสินค้าราคาถูกจากจีนยังส่งออกไปต่างประเทศอื่นด้วย
สำหรับการรับมือหรือช่วยผู้ประกอบการไทยนั้น ทั้งรัฐบาลและธปท.สามารถร่วมกันหาทางออก/แก้ไขปัญหาสินค้าราคาถูกจากจีน ขณะเดียวกันในแง่นโยบายภาครัฐ ซึ่งเป็นโจทย์ระยะยาวที่สำคัญคือ ต้องช่วยให้ครัวเรือนและ SMEs มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลนี้มีเวลา 4เดือน อาจจะไม่ทัน แต่เป็นเกมระยะยาวที่ต้องวางแผนทำให้เศรษฐกิจดีช่วยให้เงินเฟ้อกลับขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยกับประเทศคู่ค้าคู่แข่งพบว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของแต่ละประเทศจะสูงกว่าเงินเฟ้อของไทย เช่น อินโดนีเซีย เดือนส.ค.ปีนี้ อัตราเงินเฟ้อวิ่งอยู่ในกรอบ 1.6-2.4% มาเลเซียเดือนก.ค. อัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบ 1.1-1.4% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานเท่ากับ 1.8%
ขณะที่เวียดนามเดือนส.ค.เงินเฟ้อค่อนข้างสูงอยู่ในกรอบ 3.1-3.6% เงินเฟ้อพื้นฐาน 3.2% สิงคโปร์ปีนี้เงินเฟ้อค่อนข้างต่ำ โดยเดือนก.ค.อยู่ในกรอบ 0-6-0.9% เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.5% ฟิลิปปินส์อยู่ในกรอบ 0.9-1.5%
ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 2.2-2.7 และเกาหลีใต้เงินเฟ้อทั่วไปทรงตัวอยู่ในกรอบ 1.7-2.2% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 2.0% โดยทุกประเทศมีปัจจัยที่เหมือนกันคือ ราคาพลังงานลด
โฆษณา