14 ก.ย. เวลา 03:30 • การเมือง
การแก้รัฐธรรมนูญ ไม่มีทางหรอกครับ อย่าเพ้อเลยว่าประชาชนไทยจะปลดแอกจากอำนาจรัฐได้ง่ายๆ ถ้าคุณฝันอยากเห็นประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เหมือนในอเมริกาเมื่อสองร้อยปีก่อน คุณก็ต้องมีปืน มีกองทัพ มีเลือดนองถนนแบบในประวัติศาสตร์เขานั่นแหละ
แต่ในประเทศไทย เราไม่มีทางสู้ตรงๆกับโครงสร้างอำนาจมหึมานี้ได้หรอก เพราะมันถูกสร้างมาอย่างแน่นหนา กฎหมายถูกเขียนมาเพื่อกดทับทุกช่องทาง ต่อให้พยายามชนยังไง ก็มีแต่แตกหักเลือดตกยางออก
เพราะงั้น ถ้าจะพูดให้แรงๆ ก็ต้องบอกว่า ถ้าอยากได้ประชาธิปไตยจริงๆ คุณแทบจะต้อง “เผาทุกอย่าง” ให้มอดไหม้ เผาโครงสร้างเก่า เผาระบบที่ค้ำยันอภิสิทธิ์ เผาความรุ่งเรืองปลอมๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาค้ำยันอำนาจบางกลุ่ม ให้เหลือแต่เถ้าถ่าน
เหมือนกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นใน เนปาล ประเทศที่ยอมแลกความเจ็บปวดมหาศาลกับการรีเซ็ตทั้งระบบ กลับไปเป็นศูนย์ แล้วค่อยๆสร้างสังคมใหม่ที่ประชาชนได้มีเสียงจริงๆ
แล้วก็มาลุ้นกันว่า
ไทยจะกลายเป็นเหมือนเขมรแดง
หรือจะรุ่งเรืองแบบ ญี่ปุ่น - สหรัฐ
นี่แหละครับ ความจริงที่มันเจ็บ ถ้าคุณไม่พร้อมเผาทุกอย่างเหมือนเนปาล การเมืองไทยก็จะวนลูปอยู่กับอำนาจเก่าแบบนี้ตลอดไป ต่อให้แก้รัฐธรรมนูญกี่ครั้งก็แค่เอากระดาษใหม่มาหุ้มตอไม้ผุๆ ที่ยังไม่เคยถูกถอนราก
แล้วลองมองให้ชัดๆสิครับ กองทัพกับวัง คือสองเสาหลักที่ค้ำยันกันมาตลอดร้อยปี มันเลี้ยงกันและกัน เอื้อประโยชน์กันอย่างแน่นหนา กองทัพอ้างความชอบธรรมจากการปกป้องสถาบัน ส่วนสถาบันก็ใช้กองทัพเป็นเกราะกำบังอำนาจของตัวเอง วนกันไปวนกันมาแบบนี้ไม่รู้จบ
นี่แหละคือ “พันธมิตรเหนือรัฐธรรมนูญ” ที่ประชาชนไม่มีวันเข้าไปแตะได้ ต่อให้คุณเขียนกฎหมายใหม่ร้อยครั้งพันครั้ง ถ้าสองกลุ่มนี้ยังเกาะเกี่ยวกันแน่นเหมือนตะปูควง กฎหมายก็เป็นได้แค่เศษกระดาษที่ไม่มีวันเปลี่ยนอะไรจริงๆ เพราะยังไงซะมันก็ป้องกันรัฐประหารไม่ได้อยู่ดีครับ
โฆษณา