Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไฉไลเป็นบ้า
•
ติดตาม
14 ก.ย. เวลา 05:28 • ข่าว
ผมอยากจะร้องไห้ฉิบหายอู้ตรงๆ
ต้องตะโกนแค่ไหนให้สืบจังหวัดได้ยิน
…เสียงของเหยื่อถูกหลอกโอนเงิน 5 ล้าน
***
ในวัย 68 ปีของเตี่ย แกเปิดร้านทำมาค้าขายได้เงินก็เอาไปฝากธนาคาร ไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ กินข้าวร้านอาหารตามสั่ง ไม่เที่ยว ไม่ซื้อเสื้อผ้าราคาแพง นอกจากทุเรียนที่เตี่ยชอบกิน ลูกๆก็ไม่เคยเห็นแกจะซื้ออะไร
เตี่ยใช้ชีวิตสมถะ แม้กระทั่งวันเกิดตัวแกเองก็ไม่มีงานเลี้ยงหรือไปกินอาหารนอกบ้านใดๆทั้งสิ้น
50 ปีที่แล้ว เตี่ยเริ่มเข้ามาช่วยงานที่ร้านซึ่งเป็นของครอบครัวและทำมาเรื่อยๆ เป็นผู้สืบทอดกิจการรุ่นที่ 2 ต่อจากอากง
เมื่ออายุใกล้จะแตะเลข 70 เรี่ยวแรงลดน้อยถอยลง เตี่ยคงเริ่มคิดถึงการพักผ่อนหลังเก็บหอมรอมริบมาตลอด 50 ปี
เตี่ยเคยมั่นใจว่าเงินที่ฝากธนาคารไว้จะทำให้แกใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจไม่เป็นภาระลูกหลานแน่นอน
กระทั่งวันที่ “นางใหญ่-ธนาพร“ เดินเข้ามาขอยืมเงินเตี่ย 6,000 บาท ตั้งแต่นั้นชีวิตที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนานของเตี่ยก็เหมือนไม่ใช่ชีวิตที่เตี่ยเคยเป็น
จาก 6,000 บาท เป็น 30,000 บาท เป็น 50,000 บาท เป็น 80,000 บาท เป็นแสนบาท และกลายเป็นล้านบาท
นางใหญ่-ธนพร อายุ 57 ปี อาจจะเป็นคนอื่นแต่ก็ไม่ใช่คนไกล พ่อแม่ของนางใหญ่ส่งเนื้อหมูมาขายที่ร้านตั้งแต่รุ่นอากง เตี่ยกับนางใหญ่จึงเห็นกันมานาน 40- 50 ปี
6,000 บาทแรกที่นางใหญ่เข้ามาขอยืมเงินเตี่ย ข้ออ้างคือร้านไม่มีเงินหมุนไปเนื้อหมูมาขาย เตี่ยเลยให้ไปถือว่าช่วยเหลือร้านที่เคยค้าขายกันมานาน บ้านของนางใหญ่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลเขลางค์นคร ปากซอยเปิดให้ร้านเต้นท์ขายรถมือสองเช่า
แต่ที่เตี่ยไม่รู้คือนางใหญ่เป็นแก๊งมิจฉาชีพมีคดีล้มละลายติดตัวถูกฟ้องร้องต้องขึ้นศาลเป็นว่าเล่น ก่อนจะมาขอยืมเงินนางใหญ่เอาที่ดินซึ่งเป็นมรดกตกทอดไปขายได้ราคา 8 ล้านบาท ใช้หนี้ 2.5 ล้านบาท เงินที่เหลือละลายหายไปหมดแล้ว ชาวบ้านนินทากันว่านางใหญ่น่าจะติดการพนัน
6,000 บาทที่ยืมเตี่ยยังไม่คืน นางใหญ่กลับมายืมซ้ำ 30,000 บาท และ 50,000 บาท เธออ้างว่ากำลังจะเอาธนบัตรของพ่อราคา 5 แสนบาทไปขาย อยู่ระหว่างทำเรื่องเป็นผู้จัดการมรดกศาลนัดวันฟังคำสั่ง ขายแล้วจะคืนให้เตี่ยทันที 1 แสนบาท
จากคนที่เคยเอาเงินสดไปฝากธนาคาร โทรศัพท์ที่เตี่ยใช้ไม่มีแอป Mobile Banking ที่สำคัญคือเตี่ยอายุจะ 70 ปีแล้วแต่ไม่เคยทำธุรกรรมโอนเงินเลย นางใหญ่สอนให้เตี่ยโอนเงินผ่านตู้ จากคนไม่เคย เตี่ยบอกว่าเดี๋ยวนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญแล้ว
ดังนั้น 1 แสนบาทแรกของเตี่ยจึงใช้เวลาไม่นาน หลังจากนั้น นางใหญ่จะอ้างว่าไปจัดการทำเรื่องที่ศาลอยู่หลายครั้ง ทุกครั้งจะมีปัญหาที่ต้องจ่ายเงินตลอด ไม่ว่าจะค่าธรรมเนียมศาล ค่าทนายความ สารพัด โดยจะให้เตี่ยโอนเงินเข้าบัญชีเธอแบบฉุกละหุกไม่เกินบ่าย 3 โมงครึ่ง ก่อนศาลปิดบ้าง ก่อนเจ้าหน้าที่ยื่นเอกสารบ้าง ถ้าไม่จ่ายก็ทำเรื่องขายธนบัตรไม่ได้ เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว จะได้เงินแล้ว จ่ายแล้วเรื่องธนบัตรก็ยังไม่ได้ขายสักที
ตอนนั้นเตี่ยถูกหลอกให้โอนเงินไปบัญชีนางใหญ่มากกว่า 2-3 ล้านบาทแล้ว
จากเสียงบันทึกการคุยโทรศัพท์ระหว่างเตี่ยกับนางใหญ่ ยิ่งเตี่ยร้อนใจอยากได้เงินกลับคืนมากเท่าไร นางใหญ่ก็ใช้จิตวิทยาพูดจาจี้ให้เตี่ยต้องโอนเงินเพิ่มมากขึ้น และยังเร่งให้โอนภายในเวลาที่กำหนดด้วย
นางใหญ่ชวนเตี่ยให้ไขว้เขวเพื่อลดความสนใจลงจากการขายธนบัตรด้วยการชวนลงทุนในหุ้นที่เตี่ยไม่รู้เรื่องและไม่มีอยู่จริง อ้างว่าเพื่อให้ได้เงินคืนรวดเร็วจากการขาย
นางใหญ่เพิ่มตัวละครเจ้าหน้าที่ธนาคารลงไปในบทอีก 1 คน เพื่อให้เป็นคนโทรมาคอยกดดันเตี่ยอีกทาง ในเวลาที่อุบายการหลอกของเธอถี่เกินไปและอาจทำให้เตี่ยสงสัย
ชีวิตของเตี่ยช่วงนี้กลายเป็นตัวตลกให้แก๊งมิจฉาชีพที่นางใหญ่คอยเยาะเย้ย บางวันที่นางใหญ่บอกเตี่ยว่าเงินจากการขายหุ้นกำลังจะโอนเข้าบัญชีเตี่ย แกไปยืนรอหน้าธนาคารด้วยความหวังทั้งหมดในหัวใจก่อนจะพบว่ามีปัญหาติดขัดต้องรอพรุ่งนี้
เตี่ยกลับมาบ้านด้วยใจที่เหนื่อยล้า ไม่มีใครรู้ว่าแกหลับตาลงแต่ละคืนได้อย่างไร เพื่อที่ในวันรุ่งขึ้นนางใหญ่ก็หลอกแกไปยืนหน้าธนาคารรอให้เงินโอนเข้าบัญชีและกลับบ้านด้วยใจที่เหนื่อยล้า.. ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แม้กระทั่งนึกย้อนไปวันนั้นเตี่ยก็ยังยืนยันว่าไม่เคยคิดเลยจะถูกหลอก เพราะเห็นกันมาตั้งแต่ยังเล็กๆ พ่อแม่เขาอากงเราก็รู้จัก
จากวันที่ 1-14 มิถุนายน 2567 แค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น หลักฐานจากใบบันทึกรายการโอนเงินยืนยันว่าเตี่ยได้ทำการโอนเงินให้นางใหญ่ 18 ครั้ง รวม 245,680 บาท
14 มิถุนายน เวลา 12.00 น. บันทึกเสียงการคุยโทรศัพท์ระหว่างเตี่ยกับนางใหญ่ เป็นวันสิ้นสุดความทุกข์ทรมานในใจ และเป็นวันแรกที่เตี่ยยอมรับว่าตัวเอง “โดนหลอก”
เตี่ยย้ำซ้ำๆว่าไม่สามารถหาเงินมาโอนให้นางธนาพรได้อีกแล้ว
นางใหญ่- เฮียบอกว่าเฮียหาบ่ได้ น้องก่บ่ฮู้จะอู้จะไดละ
เตี่ย- ผมก็บ่ฮู้จะอู้จะได เฮ้ย ผมท้อมากเลย ผมค้าขายบ่ได้ ฉิบหายมาบ่ฮู้ตะฮือ ลูกค้าผมหายไปเป็นคนเป็นคน
นางใหญ่- ไขลานหื้อเฮียบ๋อ ไขลานหื้อเฮียกระฉับกระเฉงหน่อย อย่าเพิ่งท้อ
เตี่ย- ถามว่าจะไปเอาตังค์ที่ไหนมาหื้อเขาเดี๋ยวนี้
นางใหญ่- เฮียอู้กะไผคนนึงได้ก่
เตี่ย-ใคร
นางใหญ่- บ่ฮู้ ญาติเฮีย
เตี่ย- มันบ่ะมี อู้กะไผบ่ได้แล้ว เขาบ่หื้อผมสักคน แม้แต่ลูกหลานผม เขายังว่าผมโดนจุ๊ โดนหลอก ถ้าเงินจำนวนนี้หนา ไปหื้อ บ่ะต้องมาขอเลย เขาว่าแบบอี้เลยหนาตัวเองฮู้ก่ ขนาดเขาหาทนายมาหื้อผมละหนา ผมว่ายังบ่ต้อง ฮู้ก่ ขนาดนี้ละหนา ตัวเองฮู้ก่
บางช่วงของการคุยเตี่ยยังพยายามบอกกับนางใหญ่ว่า ไม่น่ามาหลอกคนที่ช่วยเหลือเธอมากมายขนาดต้องเอาให้หมดตัวเลย
“ผมบ่ะไหวละหนา ผมอยากจะร้องไห้ฉิบหาย อู้ตรงๆเลย มันบ่ะจบ ละผมก็จะต๋าย ละต๋ายคนเดียวบ่ะเดี่ยวนี้ เพราะผมคนเดียว”
“ผมยะหยังบ่ะได้ละหนา ผมตอบบ่ะได้ ตอบหื้อตัวเองบ่ะได้ละ ผมท้อมากเลย ผมบ่ะฮู้จะไปหาเงินที่ไหนละ เฮ้ย ผมท้อแท้มากเลย มาเจอสภาพแบบนี้ทุกวันๆผมเสียหมดเลย เสียทุกอย่างเลย เสียแม้แต่พี่น้องญาติเพื่อนฝูง หมดเลย ตัวเองฮู้ก่ เสียหมดเลยหนา ไอ้แค่ความใจอ่อนของผมเสียหมดเลย”
17 มิถุนายน 2567 ลูกสาวพาเตี่ยไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองลำปาง เป็นการยุติฝันร้ายตลอด 1 ปี ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท
จากวันนั้นผ่านมา 1 ปี 3 เดือน เข้าใจว่าตำรวจลำปางอาจจะไม่สงสารที่เตี่ยถูกหลอก แต่…จะซ้ำเติมความทุกข์ของแกได้ลงคอจริงๆหรือ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย