14 ก.ย. เวลา 06:47 • ความคิดเห็น
ก็จริงครับ บทความนี้พูดได้ตรงใจและเจ็บลึกจนแทบหาจุดโต้เถียงไม่ออก
ตั้งแต่ที่เขียนว่า “ต่อให้แก้รัฐธรรมนูญกี่ครั้งก็แค่เอากระดาษใหม่มาหุ้มตอไม้ผุๆ” มันสะท้อนความจริงที่คนไทยเจอมาตลอด เพราะถ้าโครงสร้างกองทัพกับสถาบันยังเกาะกันแน่นเหมือนเดิม รัฐธรรมนูญใหม่ก็เป็นได้แค่เศษกระดาษ ไม่ได้ถอนรากปัญหาอะไรจริงๆ
การยกตัวอย่างเนปาล ยิ่งทำให้เห็นชัดว่า ถ้าสังคมไม่ยอมเจ็บ ไม่ยอมเสี่ยงที่จะรีเซ็ตทั้งระบบ สุดท้ายเราก็วนลูปกลับมาอยู่กับอำนาจเก่าเหมือนเดิม เหมือนบทเรียนที่ไทยเจอมาทุกครั้ง หลังรัฐประหารแล้วแก้รัฐธรรมนูญใหม่ แต่ก็กลับมาที่จุดเดิม
และที่ชี้ให้เห็นว่ากองทัพกับวัง ที่ค้ำยันกันตลอดร้อยปี เป็น “พันธมิตรเหนือรัฐธรรมนูญ” อันนี้ก็จริงอย่างเถียงไม่ออก เพราะประวัติศาสตร์การเมืองไทยพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กฎหมายไม่เคยป้องกันรัฐประหารได้เลย
สรุปแล้ว บทความนี้คือความจริงที่มันเจ็บ อ่านแล้วก็ยอมรับตรงๆครับ ว่าหาจุดเถียงไม่ออกจริงๆ
แต่ก็มีบางจุดที่พอจะเถียงได้อยู่ เพียงแต่มันเป็นไปได้ยากเหลือเกิน และแทบไม่มีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจริง เช่น การเปลี่ยนผ่านที่ไม่ต้องเผาทุกอย่าง หรือการที่รัฐธรรมนูญใหม่จะค่อยๆ บีบให้อำนาจเก่าต้องปรับตัว แต่ในสภาพการเมืองไทย มันแทบเป็นไปไม่ได้
ทั้งหมดนี้เลยสะท้อนว่าประเทศไทยยังคงถอยหลังทางการเมืองอยู่มาก โดยเฉพาะเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมทางการเมือง แม้แต่อำนาจเดิมก็ยังไม่ยอมให้ประชาชนมีสิทธิ์อย่างแท้จริง เต็มไปด้วยการเล่นแง่เล่นมุม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มตัวเองตราบนานเท่านาน
มันสะท้อนให้เห็นว่าอำนาจเดิม ก็คือความถ่อยอย่างหนึ่ง ไม่ใช่อำนาจที่ศักดิ์สิทธิ์หรือน่าเคารพเลยครับ
โฆษณา