📊 5 อัตราส่วนวัดความสามารถในการทำกำไร
อัตราส่วนทางการเงินเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรา มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของบริษัท และสามารถ เปรียบเทียบกับธุรกิจที่คล้ายกันได้
🧾 ทำความเข้าใจกับ "งบกำไรขาดทุน" ก่อน
หลักการง่าย ๆ คือ
รายได้ – รายจ่าย = กำไร (หรือ ขาดทุน)
รายจ่ายหลักในธุรกิจมี 4 ประเภท
1. ต้นทุนขาย → ค่าวัตถุดิบ ค่าสินค้า ค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิต
2. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร → เช่น ค่าจ้าง ค่าผู้บริหาร ค่าโฆษณา
3. ต้นทุนทางการเงิน → ดอกเบี้ยจ่ายจากการกู้ยืม
4. ภาษี
จากตรงนี้เราคำนวณได้เป็นขั้น ๆ :
• รายได้ – ต้นทุนขาย = กำไรขั้นต้น (Gross Profit)
• กำไรขั้นต้น – ค่าใช้จ่ายขาย/บริหาร = กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี (EBIT)
• EBIT – ดอกเบี้ย – ภาษี = กำไรสุทธิ (Net Profit)
📈 5 อัตราส่วนกำไรหลัก
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่
🔹 3 Margin (บอกการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย)
1. อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)
o คิดจาก: กำไรขั้นต้น ÷ รายได้
o บอกว่า บริษัทควบคุมต้นทุนสินค้า และการส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้ซื้อ ได้ดีแค่ไหน
o ถ้ารักษาระดับได้สม่ำเสมอ → แสดงว่ามีอำนาจต่อรอง ไม่ต้องแข่งด้วย “สงครามราคา”
2. EBIT Margin (อัตรากำไรจากการดำเนินงาน)
o คิดจาก: EBIT ÷ รายได้
o บอกความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายขายและบริหาร
3. อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)
o คิดจาก: กำไรสุทธิ ÷ รายได้
o บอกผลลัพธ์สุดท้ายว่าบริษัทเหลือกำไรจริง ๆ เท่าไร
👉 การรักษา Margin ได้ดีสม่ำเสมอ = ความสามารถในการแข่งขันระยะยาว
⚠️ หมายเหตุสำคัญ: อัตรากำไรแต่ละธุรกิจ “ไม่เท่ากัน”
• ธุรกิจค้าปลีก → อัตรากำไรอาจไม่สูง แต่ขายได้มาก หมุนเวียนเร็ว
• ธุรกิจเทคโนโลยี → อัตราไรมักจะสูง ต้นทุนต่อหน่วยต่ำ
ดังนั้นควรเปรียบเทียบกับบริษัทใน “กลุ่มธุรกิจลักษณะเดียวกัน”
🔹 2 อัตราส่วน บอกการใช้ทรัพยากรให้เกิดกำไร เป็นอัตราส่วนที่นำงบดุลมาสัมพันธ์ร่วมด้วย
งบดุลนั้นคือ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของผู้ถือหุ้น
1. ROE (Return on Equity)
o กำไรสุทธิ ÷ ส่วนของผู้ถือหุ้น
o วัดความสามารถในการใช้เงินของผู้ถือหุ้นสร้างกำไร
o แต่ ROE สูงอาจมาจากการก่อหนี้ (leverage) ซึ่งหนี้สินที่สูงเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ถ้าเกิดรายได้สะดุด จึงควรดูหนี้สินประกอบด้วย
2. ROA (Return on Assets)
o กำไรสุทธิ ÷ สินทรัพย์รวม
o วัดว่าบริษัทใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่สร้างกำไรได้แค่ไหน
เช่น บริษัทบริหารสินทรัพย์ ROA ที่ดี สม่ำเสมอ เป็นอัตราส่วนที่ควรสนใจ เพราะสินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นเงินให้สินเชื่อ
📌 ความต่าง ROE vs ROA
• งบดุลคือ: สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของผู้ถือหุ้น
• ถ้าบริษัทมีหนี้มาก → ROE จะสูงกว่า ROA มาก
• แต่หนี้มากเกินไปเสี่ยงต่อปัญหาหากรายได้สะดุด
💡 ทำไมต้องเข้าใจอัตราส่วนเหล่านี้?
• ช่วยให้ เปรียบเทียบธุรกิจที่คล้ายกันได้ เราไม่สามารถนำตัวเลขที่อยู่ในงบไปเทียกันโดยตรงได้เพราะขนาดธุรกิจต่างกัน
• เป็นตัวชี้วัดความสามารถในการแข่งขันและความแข็งแรงของกิจการ การรักษาอัตราส่วนเหล่านี้ได้ดีสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่ควรสนใจ
• สามารถดูอัตราส่วนเหล่านี้ได้ บนเว็บไซต์ SET ในหน้าสรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียนของหุ้นที่สนใจ
#หมอยุ่งอยากมีเวลา #งบการเงิน #ROE #ROA #อัตรากำไรขั้นต้น #อัตรากำไรจากการดำเนินงาน #อัตรากำไรสุทธิ #EBITMargin #EBIT #อัตราส่วนทางการเงิน
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
