Blockdit Logo (Mobile)
ตามผมลงทุนคริปโต
•
15 ก.ย. เวลา 02:23 • คริปโทเคอร์เรนซี

ใช้ Options เพื่อเฮดจ์/เก็บพรีเมียม (ตัวอย่างจำลอง)

ถือคริปโตแล้วกลัวรูดแรง? หรืออยากสร้างรายได้ระหว่างที่กราฟไซด์เวย์?
“ออปชัน” ช่วยทั้ง เฮดจ์ความเสี่ยง และ เก็บพรีเมียม ได้ในพอร์ตเดียว คลิปนี้สรุปให้ครบ พร้อมตัวอย่างตัวเลขจำลอง เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้จริง
1) ออปชันคืออะไร (สรุปเร็ว)
Call = สิทธิ “ซื้อ” ที่ราคาใช้สิทธิ (Strike) ภายใน/ถึงวันหมดอายุ
Put = สิทธิ “ขาย” ที่ Strike เดียวกัน
Premium = ราคาค่า “สิทธิ” (ผู้ซื้อจ่าย / ผู้ขายรับ)
ผู้ซื้อออปชัน: ขาดทุนจำกัดที่พรีเมียม แต่กำไรเปิดกว้างด้านหนึ่ง
ผู้ขายออปชัน: ได้พรีเมียมแน่นอน แต่กำไรจำกัดและ มีความเสี่ยงสูงกว่า (ต้องค้ำด้วยเหรียญ/เงินสด)
คริปโตส่วนใหญ่เป็น European, Cash-settled: ชำระเงินสดวันหมดอายุ ไม่ต้องส่งมอบสินทรัพย์จริง (เช็กเงื่อนไขของแพลตฟอร์มที่ใช้)
2) ใช้เพื่อ “เฮดจ์” vs “เก็บพรีเมียม”
เฮดจ์ (Hedge): ซื้อ Put เพื่อกันลง หรือทำ Collar (ซื้อ Put + ขาย Call) เพื่อ “ล็อกกรอบผลลัพธ์”
เก็บพรีเมียม (Income): ขาย Covered Call บนเหรียญที่ถืออยู่ หรือขาย Cash-Secured Put ด้วยเงินสดค้ำ ถ้าตลาดไม่วิ่งแรงจะได้พรีเมียม
3) ตัวอย่างจำลองบน BTC (เข้าใจผ่านตัวเลขจริง)
สมมติราคา ณ วันนี้ S₀ = 65,000 USD/BTC
3.1 Protective Put — “มี BTC อยู่แล้ว → ซื้อ Put กันลง”
ตั้งค่า: ซื้อ Put K = 60,000 จ่ายพรีเมียม 1,500 USD
แนวคิด: เป็น “ประกันภัย” ถ้าราคาดิ่ง เราใช้สิทธิขายที่ 60k ได้
จุดคุ้มทุนด้านบน: ประมาณ 66,500 (เพราะต้องเอาชนะค่าประกัน 1,500)
ขาดทุนสูงสุด: คงที่ราว −6,500 (ถ้าราคาต่ำกว่า 60k แค่ไหนก็จำกัด)
ตัวเลขสิ้นงวด:
Sᵀ = 45,000 → ~−6,500
Sᵀ = 55,000 → ~−6,500
Sᵀ = 65,000 → −1,500
Sᵀ = 75,000 → +8,500
ใช้เมื่อ: กลัว “รูดแรงเร็ว” แต่ยังอยากถือ BTC ต่อ
3.2 Covered Call — “ถือ BTC → ขาย Call เก็บค่าเช่า”
ตั้งค่า: ขาย Call K = 70,000 รับพรีเมียม 1,200 USD
แนวคิด: ได้ “ค่าเช่า” ถ้าราคาไม่พุ่งทะลุ 70k แต่ถ้าทะลุ กำไรจะถูก ล็อกเพดาน
จุดคุ้มทุน: ประมาณ 63,800 (65,000 − 1,200)
กำไรสูงสุด: ประมาณ +6,200 ((70k − 65k) + 1,200)
ตัวเลขสิ้นงวด:
Sᵀ = 45,000 → −18,800
Sᵀ = 55,000 → −8,800
Sᵀ = 65,000 → +1,200
Sᵀ = 75,000 → +6,200 (โดนล็อกกำไร)
ใช้เมื่อ: มอง “ไซด์เวย์ถึงขึ้นนิด ๆ” อยากรับพรีเมียม แลกกับเพดานกำไร
3.3 Cash-Secured Put — “ยังไม่มี BTC → ขาย Put รับพรีเมียม พร้อมเงินสดค้ำ”
ตั้งค่า: ขาย Put K = 55,000 รับพรีเมียม 1,000 USD (มีเงินสดค้ำ)
แนวคิด: ถ้าไม่ลงถึง 55k → ได้พรีเมียมเต็ม ถ้าลงต่ำกว่า → ได้ “ซื้อของถูก” ตาม Strike (สุทธิถูกลงอีก 1,000)
จุดคุ้มทุน: ประมาณ 54,000 (55,000 − 1,000)
ตัวเลขสิ้นงวด:
Sᵀ = 45,000 → −9,000
Sᵀ ≥ 55,000 → +1,000
ใช้เมื่อ: ยอมรับการเป็นเจ้าของ BTC ที่ราคาประมาณ 55k ได้ และอยากเก็บพรีเมียมถ้าไม่มาถึง
3.4 Collar — “ซื้อ Put + ขาย Call” บน BTC ที่ถืออยู่
ตั้งค่า: Buy Put 60k (จ่าย 1,500) + Sell Call 70k (รับ 1,200) → สุทธิ −300
แนวคิด: กันลงต่ำกว่า 60k และยอม “ปิดเพดานกำไร” เหนือ 70k ด้วยต้นทุนสุทธิน้อย
กำไรสูงสุด: ประมาณ +4,700 ((70k − 65k) − 300)
ขาดทุนสูงสุด: ประมาณ −5,300 ((65k − 60k) + 300)
ตัวเลขสิ้นงวด:
Sᵀ = 45,000 → −5,300
Sᵀ = 55,000 → −5,300
Sᵀ = 65,000 → −300
Sᵀ = 75,000 → +4,700
ใช้เมื่อ: ต้องการ “กรอบผลลัพธ์ชัดเจน” กันลง+ยอมรับเพดานขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายต่ำ
4) เลือก Strike / Expiry แบบนักปฏิบัติ
เริ่มจาก “ภาพรวมตลาด”: เรา Bull / Sideways / Bear?
วาง Strike ให้สัมพันธ์โซนเทคนิคัล:
เฮดจ์: Put ใกล้แนวรับสำคัญ (ป้องกัน Tail Risk)
เก็บพรีเมียม: Call/Put ใกล้โซนที่ “คาดว่าไม่โดน”
ใช้ Delta เป็นแนว:
ขาย Covered Call เลือก Call ที่ Delta ~ 0.20–0.30 เพื่อให้ “โดนน้อย + พรีเมียมโอเค”
ขาย Cash-Secured Put เลือก Put ที่ Delta ~ 0.20–0.30 เพื่อรับพรีเมียมคุ้ม/โอกาสโดนน้อย
เลือกอายุสัญญา (DTE):
7–30 วัน = ยอดนิยม เพราะ Time Decay (Theta) ทำงานไว
เข้าใกล้ข่าวใหญ่/เหตุการณ์ (FOMC, ETF flow, on-chain event) ให้เลือก DTE ครอบคลุมช่วงเสี่ยง
5) เข้าใจ IV และ Theta แบบ 1 นาที
IV (Implied Volatility) สูง = พรีเมียมแพง → มัก “ได้เปรียบฝั่งขาย” (แต่ความเสี่ยงก็สูง)
IV ต่ำ = พรีเมียมถูก → ฝั่ง “ซื้อออปชัน” คุ้มขึ้น (เช่น ซื้อ Put เฮดจ์ต้นทุนต่ำ)
Theta (Time Decay): ค่าของออปชัน “สึกหรอทุกวัน” โดยเฉพาะใกล้หมดอายุ → ผู้ขายได้เปรียบเมื่อราคาไม่วิ่ง
6) ขั้นตอนใช้งานจริง (ภาพรวมแพลตฟอร์ม Deribit/OKX/Binance Options)
1. เลือกเหรียญและเดือนหมดอายุ
2. เลือก Strike ตามแผน (ดู Delta/โซนเทคนิคัล)
3. ตรวจสอบ Premium, ค่าธรรมเนียม, Margin/Collateral
4. ส่งคำสั่ง (Limit แนะนำ เพื่อลดสลิปเพจ)
5. วางแผน Exit/Roll:
Covered Call/Cash-Secured Put ปิดทำกำไรเมื่อได้ ~50–70% ของพรีเมียมเร็ว ๆ
ถ้าราคาเข้าใกล้ Strike เร็วผิดคาด → พิจารณา Roll (เลื่อนไป Strike/เดือนใหม่)
Protective Put/Collar: ปิด/โรลเมื่อเหตุการณ์เสี่ยงผ่านไป หรือเมื่อค่า Put เสื่อมค่ามากพอ
7) เช็กลิสต์ความเสี่ยงที่ต้องรู้
อย่าขาย Naked Call แบบไม่มีเหรียญค้ำ (เสี่ยงไม่จำกัด)
จัดการ Margin/Collateral ให้พอ ป้องกัน Liquidation
ระวัง สภาพคล่อง/สเปรด ในบาง Strike/Expiry
อ่านเงื่อนไข Settlement และสไตล์สิทธิ (ส่วนใหญ่ European)
เริ่มเล็ก ๆ ก่อน: ความเสี่ยงต่อดีลไม่เกิน 1–2% ของพอร์ต จนมั่นใจ
8) เลือกกลยุทธ์ให้ถูกกับสภาวะตลาด
กลัวรูดแรง แต่ยังถือ → Protective Put
ไซด์เวย์ถึงขึ้นนิด ๆ → Covered Call
อยากซื้อของถูก ถ้าได้ราคา → Cash-Secured Put
อยากล็อกกรอบผลลัพธ์ชัด ๆ → Collar
9) สรุปสั้นใช้งานจริง
1. นิยามมุมมองตลาด
2. ตั้ง Strike/Expiry ให้เหมาะ (ดู Delta, โซนเทคนิคัล, Event)
3. คุมความเสี่ยง: Max Loss/Max Gain/Break-Even ต้องรู้ก่อนกดซื้อขาย
4. มีแผนปิด/โรล ไม่ปล่อยทิ้งจนหมดอายุแบบไร้แผน
อยากได้แผน “ออปชันบน BTC/ETH” ที่ คำนวณ Strike + DTE ให้ตรงพอร์ต ของพีช?
คอมเมนต์ “OPTIONS” หรือทักไลน์ แล้วผมส่ง แผนเข้า–ออก + จุดโรล ให้แบบละเอียด
การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนในตัวคุณเอง!
อยากเริ่มเทรดออปชัน/คริปโตแบบมีแผน? สมัครเปิดบัญชีผ่านลิงก์ด้านล่าง และเข้ากลุ่มเรียนรู้กับโค้ชพีช
เทรดโลหะ (ทองคำ/เงิน/แพลทินัม): https://www.exnesspromo.com/th/trade-metals/?partner_id=rnol6qxne7
LINE Official: https://lin.ee/eoot7tn หรือค้นหา @peachcrypto
Facebook: ตามผมลงทุนคริปโต – https://www.facebook.com/PeachTamPhomLongthun
YouTube: ตามผมลงทุนคริปโต – https://youtube.com/@tamphomlongthun
TikTok: @peachtamphomlongthun – https://www.tiktok.com/@peachtamphomlongthun
โฆษณา