วันนี้ เวลา 07:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สคบ. ออกประกาศคุม 'ธุรกิจเสริมความงาม' หว่านล้อมซื้อคอร์ส เลิกสัญญาได้ 7 วัน

  • สคบ. เตรียมประกาศให้ธุรกิจเสริมความงามเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา เพื่อแก้ปัญหาการขายคอร์สแบบกดดันและสัญญาที่ไม่เป็นธรรม
  • ผู้บริโภคสามารถบอกเลิกสัญญาได้ภายใน 7 วันนับแต่วันทำสัญญาและรับเงินคืนเต็มจำนวน หากยังไม่ได้เริ่มใช้บริการ
  • อีกทั้งสามารถขอคืนเงินค่าบริการตามสัดส่วนได้ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจปิดกิจการ ย้ายสถานที่ หรือผู้บริโภคมีเหตุเจ็บป่วยจนไม่สามารถใช้บริการต่อได้
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน การใช้บริการเสริมความงามกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย หรือแม้กระทั่งการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ในอีกด้านหนึ่ง สคบ. ก็ยังคงได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าถูกผู้ประกอบธุรกิจบางรายเอาเปรียบผ่านสัญญาสำเร็จรูปและการขายคอร์สที่ไม่เป็นธรรม
ที่ผ่านมา สคบ. พบว่า กรณีร้องเรียนที่พบมาก ได้แก่ การกำหนดเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมในสัญญา เช่น สิทธิในการเลิกสัญญา การริบเงินหรือปฎิเสธการคืนเงิน ห้ามโอนสิทธิให้ผู้อื่นใช้บริการได้ หรือการริบเงินค่าบริการทั้งหมดหากผู้บริโภคไม่สามารถเข้าใช้บริการได้ภายในระยะเวลาที่ตามกำหนด
นอกจากนี้ยังพบข้อสัญญาที่ระบุว่า ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถเรียกร้องความรับผิดจากบริษัทหรือบุคลากรทางการแพทย์ได้ หากเกิดอาการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากการใช้บริการ ถือเป็นเงื่อนไขที่เอาเปรียบและสร้างความเสียหายแก่ผู้บริโภคโดยตรง
อีกหนึ่งปัญหาที่น่ากังวล คือ พฤติกรรมการขายเชิงกดดันของพนักงานบางราย ที่ชักชวน หว่านล้อม และเร่งรัดให้ตัดสินใจทันที ทำให้ผู้บริโภคหลายคนต้องจ่ายเงินจำนวนมากโดยไม่ได้ไตร่ตรองรายละเอียดของสัญญาให้รอบคอบ
สคบ. จึงจำเป็นต้องควบคุมธุรกิจเสริมความงามให้เป็น “ธุรกิจควบคุมสัญญา” พร้อมบังคับใช้ “สัญญามาตรฐาน” ที่ผู้ประกอบการต้องถือปฏิบัติ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความคุ้มครองในการใช้บริการเสริมความงามคลอบคลุมทุกมิติ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
ดังนั้นคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเตรียมออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเพื่อควบคุมธุรกิจการให้บริการเสริมความงามเป็นธุรกิจควบคุมสัญญา ซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจโดยมีข้อตกลงให้กับผู้บริโภคเข้ารับการบริการอย่างต่อเนื่องตามจำนวนครั้งหรือภายในระยะเวลาที่กำหนด ด้วยวิธีการนวด สปา วิธีอื่นใดเพื่อความสะอาด ความสวยงาม การปกป้อง ดูแล ผิวหน้า ผิวกาย ผิวพรรณ การควบคุมการลดน้ำหนัก การดูแลสัดส่วนของร่างกาย รวมถึงการให้บริการเสริมความงามผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
โดยมีประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ ดังนี้
1.สิทธิบอกเลิกสัญญาภายใน 7 วัน หากยังไม่ได้ใช้บริการ ผู้บริโภคสามารถยกเลิกสัญญาได้โดยไม่มีเงื่อนไข และผู้ประกอบธุรกิจต้องคืนเงินเต็มจำนวน
2. สิทธิในการขอคืนเงินตามสัดส่วน หากผู้ประกอบธุรกิจ ปิดกิจการ ปิดปรับปรุง หรือย้ายสถานที่ ซึ่งผู้บริโภคไม่สามารถใช้บริการที่อื่น หรือสาขาอื่นได้ หรือมีหลักฐานการรับรองการเจ็บป่วยจากแพทย์ หากใช้บริการเสริมความงามอาจเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกาย การโอนสิทธิในการใช้บริการไปยังบุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้บริโภค
รวมทั้งไม่สามารถให้บริการได้ตามสัญญา การบริการล่าช้าเกินสมควร ให้บริการที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคและไม่สามารถแก้ไขการให้บริการนั้นได้ภายใน 7 วันนับแต่วันที่รับแจ้ง ให้ผู้ประกอบธุรกิจคืนเงินตามสัดส่วนที่ผู้บริโภคยังไม่ได้เข้าไปใช้บริการ
3.กำหนดระยะเวลาคืนเงินชัดเจน กรณีชำระคืนเป็นเงินสดหรือเงินโอน หรือเช็ค มีกำหนดระยะเวลาภายใน 15 วัน หรือกรณีชำระคืนผ่านบัตรเครดิต มีกำหนดภายใน 45 วัน นับแต่มีการบอกเลิกสัญญา
ทั้งนี้ คณะกรรมการว่าด้วยสัญญา จึงได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการเสริมความงามเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา และกำหนดแบบสัญญามาตรฐานสัญญาให้บริการเสริมความงาม เพื่อสร้างมาตรฐาน ความเป็นธรรม ความเป็นกลางและคุ้มครองผู้บริโภคจากข้อสัญญาที่เอาเปรียบ
หากผู้บริโภคเผชิญปัญหา อย่ารู้สึกว่าต้องต่อสู้เพียงลำพัง สคบ. พร้อมจะเป็นที่พึ่งให้กับผู้บริโภค สำหรับผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการใช้สินค้าและบริการ สามารถขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วน 1166 ร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือ เว็บไซต์ www.ocpb.go.th
รวมทั้งสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ที่ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ทุกจังหวัดหรือตามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้บ้าน รวมถึงเมืองพัทยาและสำนักงานเขตทุกแห่งในกรุงเทพมหานคร และช่องทางการร้องทุกข์ ผ่านระบบ Traffy Fondue (ทราฟฟี่ ฟองดูว์) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก รวดเร็ว ไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับผู้บริโภค
โฆษณา