15 ก.ย. เวลา 15:54 • ความคิดเห็น

✅สรุปยูทูป "สมการความมั่งคั่งที่โรงเรียนไม่เคยสอน สรุปหนังสือ The Algebra of Wealth

สรุปจากยูทูป "สมการความมั่งคั่งที่โรงเรียนไม่เคยสอน สรุปหนังสือ The Algebra of Wealth The Secret Sauce EP.889 ด้วย NotebookLM
🎧ฟังยูทูปที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=7mLI1rGMDP0
แหล่งข้อมูลจาก YouTube อธิบายถึงสมการความมั่งคั่งจากหนังสือ "The Algebra of Wealth" ซึ่งเน้นย้ำว่าความมั่งคั่งที่ยั่งยืนมาจากการทำความเข้าใจและ "แฮก" ระบบทุนนิยมสมัยใหม่ ผู้บรรยายเสนอ 4 ตัวแปรหลัก ได้แก่
Focus (การโฟกัส) โดยการค้นหาความเชี่ยวชาญ (talent) ที่ตลาดต้องการและพัฒนาทักษะการสื่อสาร, Stoicism (หลักปรัชญาแบบสโตอิก) ซึ่งหมายถึงการมีวินัยทางการเงิน การควบคุมอารมณ์ และการสร้างชุมชนที่ดี, Time (เวลา) ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดและเป็นพลังของดอกเบี้ยทบต้น, และ Diversification (การกระจายความเสี่ยง) ในการลงทุนเพื่อให้เงินเติบโตอย่างมั่นคง ท้ายที่สุดแล้ว ความมั่งคั่งที่แท้จริงคืออิสรภาพทางการเงินที่ช่วยให้สามารถดูแลตนเองและคนที่รักได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน
สมการความมั่งคั่งนี้ประกอบด้วย 4 หลักการสำคัญ ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแปรสำคัญที่หากทำได้ดี จะช่วยให้คุณมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งและอิสรภาพทางการเงินได้:
1️⃣ โฟกัส (Focus)
◦ การใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเลือกทำในสิ่งที่คุ้มค่ากับแรงและเวลาที่เสียไป
◦ เน้นสิ่งที่ตนเองทำได้ดี และสิ่งที่ตลาดต้องการ มีการเติบโตและมีลูกค้าจริง
◦ ค้นหา Talent (ความเชี่ยวชาญ/ความถนัด) ของตัวเอง แทนการตามหา Passion เพราะ Passion อาจหมดไฟได้ง่ายและเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็มีได้ ทำให้ความสำเร็จต่ำลง เมื่อคุณเริ่มต้นด้วย Talent และประสบความสำเร็จ Passion จะตามมาเอง การจะค้นพบ Talent ต้องกล้าลองทำหลากหลาย กล้ารับฟัง feedback และไม่กลัวความล้มเหลว
◦ เลือกอยู่ใน Sunrise Industry (อุตสาหกรรมขาขึ้น) เช่น AI, Wellness, พลังงานสะอาด เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีรายได้ที่สูงขึ้น
◦ ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills) คือ "ทักษะทอง" ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน หรืออยู่ในตลาดขาขึ้น แต่หากสื่อสารและนำเสนอตัวเองไม่เป็น โอกาสที่จะได้รับรายได้ก็ลดลง
2️⃣ สโตอิก (Stoicism)
◦ คือ ปรัชญากรีกโบราณที่เน้นการมีวินัยและความอดทน เพื่อจัดการอารมณ์และพัฒนาตัวเอง
◦ ควบคุมอารมณ์และการตัดสินใจทางการเงิน ไม่ให้ความโลภหรือความกลัวมาครอบงำ เช่น ไม่ซื้อของตามกระแส หรือใช้จ่ายเกินตัว
◦ แยกแยะสิ่งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ เช่น ควบคุมอารมณ์ การใช้จ่าย การออมเงิน และการทำงานหนักได้ แต่ควบคุมการเมือง เศรษฐกิจ หรือโชคชะตาไม่ได้ การเข้าใจสิ่งนี้จะช่วยให้รับมือกับอุปสรรคและความล้มเหลวได้ดีขึ้น
◦ ควบคุมตนเองให้อยู่บนหลักความพอประมาณ ไม่ยึดติดกับความหรูหรา
◦ สร้างกิจวัตรที่ดีทางการเงิน เช่น หักเงินอัตโนมัติเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือออมเงินอย่างสม่ำเสมอ
◦ สร้าง Community ที่ดี คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว สังคม และเลือกคู่ครองหรือเพื่อนที่มีเป้าหมายทางการเงินสอดคล้องกัน เพื่อช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางการเงินและลดความเครียดในชีวิต
3️⃣ เวลา (Time)
◦ เวลาคือตัวแปรที่สำคัญที่สุดและมีค่ามากกว่าเงิน เพราะเสียไปแล้วเอาคืนไม่ได้
◦ พลังของดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) คือหัวใจสำคัญ การลงทุนเพียงเล็กน้อยแต่ทำอย่างต่อเนื่องและเริ่มต้นเร็ว จะสร้างผลตอบแทนมหาศาลเมื่อเวลาผ่านไป
◦ เงินเฟ้อ (Inflation) คือ "Silent Killer" ที่จะลดทอนมูลค่าของเงินหากไม่นำไปลงทุนให้ถูกที่ถูกทาง
◦ การบริหารจัดการเวลาและเงินอย่างมีแบบแผน:
▪ จดบันทึกรายรับรายจ่าย เพื่อให้เห็นข้อมูลการใช้เงินที่แท้จริง
▪ ตรวจสอบการใช้จ่ายอย่างละเอียด โดยเฉพาะค่า Subscription ต่างๆ
▪ เก็บเงินอย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นจำนวนน้อย เงินคือกล้ามเนื้อ ยิ่งเก็บยิ่งแข็งแรง
▪ หลีกเลี่ยงการถูกผูกมัดทางการเงินที่ไม่จำเป็น เช่น รถหรูที่เกินตัว
▪ สร้างรายจ่ายที่เสถียรและคาดการณ์ได้ เพื่อลดความเครียดและสามารถวางแผนเรื่องอื่นได้
▪ วางแผนเผื่อการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายในอนาคต และจัดสรรเงินเป็น 3 ส่วน คือ รายจ่ายประจำ เป้าหมายระยะกลาง (บ้าน, รถ) และการลงทุนระยะยาว (10-20 ปีขึ้นไป)
4️⃣การกระจายความเสี่ยง (Diversification)
◦ อย่าใส่ทุกอย่างไว้ในตะกร้าเดียว การหาเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องเปลี่ยนรายได้ให้กลายเป็นทุนที่ขยายตัวได้ด้วยการนำไปลงทุน
◦ การลงทุนอย่างฉลาดคือการกระจายความเสี่ยง ไม่กระจุกตัวเพื่อหวังผลกำไรสูงสุด เพราะหากเกิดความผิดพลาดจะเจ็บหนัก
◦ เป้าหมายคือ "รวยอย่างมั่นคง ไม่ใช่รวยเร็ว" หนังสือแนะนำให้รวยแบบ "น่าเบื่อ" แต่ยั่งยืน
◦ ข้อแนะนำในการลงทุน:
▪ วางแผนภาษีให้ดี เพื่อลดเงินส่วนที่ต้องจ่ายภาษีแล้วนำไปลงทุนแทน
▪ ลงทุนในสินทรัพย์แบบ Passive เช่น Index Fund หรือ ETF ซึ่งมีการกระจายความเสี่ยงดี ค่าธรรมเนียมต่ำ และให้ผลตอบแทนใกล้เคียงตลาดรวม เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา
▪ Active Investment (หุ้นรายตัว, คริปโต) ใช้เพื่อเรียนรู้หรือโอกาสพิเศษ ไม่ควรเป็นสัดส่วนหลัก เว้นแต่เป็น Talent ของคุณ
▪ หลีกเลี่ยงการซื้อขายหุ้นแบบรายวัน เพราะอาจเป็นการพนัน
▪ การซื้อบ้านควรเลือกเวลาที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิต ไม่ใช่แค่การลงทุน เพราะเป็นทั้งสินทรัพย์และภาระ
▪ ประเมินความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ ไม่มีวิธีการลงทุนที่ดีที่สุด มีแต่สิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับตัวคุณเอง
โดยสรุปแล้ว หลักการสำคัญที่ The Algebra of Wealth นำเสนอ เพื่อสร้างความมั่งคั่งที่แท้จริง ไม่ใช่แค่เรื่องเงินหรือตัวเลข แต่คือ ความมั่นคง การมีอิสระ และพลังในการใช้ชีวิต เพื่อดูแลตนเองและคนที่รักโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ยั่งยืน ไม่ใช่ทางลัด
โฆษณา