การแจ้งเกิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับ Butch Cassidy and the Sundance Kid (1969) ที่เขารับบท “เดอะ ซันแดนซ์ คิด” คู่กับพอล นิวแมน หนังเรื่องนี้กลายเป็นตำนานคาวบอย และทำให้ชื่อ “Sundance” กลายเป็นสมญาที่ติดตัวเขาตลอดไป
---
### ดาวรุ่งผู้กลายเป็นตำนาน
จากนั้นเรดฟอร์ดก้าวสู่ตำแหน่งดาราอันดับหนึ่งของฮอลลีวูดอย่างรวดเร็ว เขาแสดงคู่กับนิวแมนอีกครั้งใน The Sting (1973) หนังอาชญากรรมเจ้าเล่ห์ที่กวาดรางวัลออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และตอกย้ำเคมีอันยอดเยี่ยมระหว่างสองดารา
ทศวรรษ 1970 ถือเป็นยุครุ่งโรจน์ของเขา ผลงานอย่าง Jeremiah Johnson(1972) ภาพยนตร์เวสเทิร์นที่เปี่ยมด้วยปรัชญาธรรมชาติ, The Way We Were (1973) คู่กับบาร์บรา สไตรแซนด์, และ All the President’s Men(1976) ที่เขารับบทบ็อบ วูดเวิร์ด นักข่าว Washington Post ในการเปิดโปงคดีวอเตอร์เกต ต่างล้วนเป็นงานที่ประทับตราความจริงจังและคุณค่าทางสังคม
เข้าสู่ทศวรรษ 1980 เรดฟอร์ดยังคงสร้างสรรค์งานแสดงอันทรงพลัง เช่น The Natural (1984) ที่เขาสวมบทนักเบสบอลผู้กลับคืนสู่สนาม, และ Out of Africa (1985) ภาพยนตร์รักโศกนาฏกรรมคู่กับเมอรีล สตรีพ ที่คว้า 7 ออสการ์ รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
เขายังสร้างงานคุณภาพต่อเนื่อง เช่น A River Runs Through It (1992) ที่เปิดตัวแบรด พิตต์และสะท้อนความงดงามของธรรมชาติและสายสัมพันธ์ครอบครัว, Quiz Show(1994) ที่ตีแผ่วงการโทรทัศน์อเมริกัน, และ The Horse Whisperer(1998) ที่เขากำกับและแสดงนำด้วยตนเอง
---
### ซันแดนซ์ : มรดกทางศิลปะ
หากกล่าวถึงบทบาทที่ยั่งยืนที่สุดในวงการภาพยนตร์ คงหนีไม่พ้นการก่อตั้ง Sundance Institute และ Sundance Film Festival ในปี 1981 เรดฟอร์ดมุ่งหมายสร้างพื้นที่ให้คนทำหนังอิสระได้มีเวทีในการนำเสนอผลงาน
แม้จะประกาศ “เกษียณจากการแสดง” หลายครั้ง แต่เรดฟอร์ดยังปรากฏตัวในผลงานสำคัญ เช่น Captain America: The Winter Soldier (2014) ในบทตัวร้าย Alexander Pierce และ The Old Man & the Gun (2018) ที่ว่ากันว่าเป็นผลงานแสดงส่งท้าย