ซื้อช่อง vs ปั้นช่องเอง
ข้อดี: โอกาสและความรวดเร็ว
.
ข้อ 1: สร้างความน่าเชื่อถือทันที
จำนวนผู้ติดตามที่สูงช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ใหม่ได้ทันที
.
ข้อ 2: ประหยัดเวลาในการปั้นช่อง
สามารถข้ามเงื่อนไขเริ่มต้นของแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น TikTok ที่ต้องมีผู้ติดตามครบ 1,000 คนจึงจะสามารถ Live หรือติดตะกร้าสินค้าได้
.
ข้อ 3: ต่อยอดการตลาดได้ดี (ถ้าตรงกลุ่ม)
หากผู้ติดตามเดิมตรงกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้า จะทำให้การยิงโฆษณามีประสิทธิภาพและได้ผลตอบแทน (ROAS) ที่ดีขึ้น
.
ข้อ 4: สร้างรายได้ได้ทันที
สามารถใช้ฟีเจอร์การสร้างรายได้ของแพลตฟอร์มได้เลย โดยไม่ต้องรอสะสมผู้ติดตามหรือยอดวิวตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่ใช้เวลานาน
.
ข้อ 5: เพิ่มโอกาสด้าน SEO
ช่องที่มีฐานผู้ติดตามเดิมอยู่แล้ว เมื่อลงคอนเทนต์ใหม่ ๆ มีโอกาสถูกดันขึ้นหน้าแรกของการค้นหาได้ง่ายกว่าช่องที่สร้างใหม่ทั้งหมด
.
ข้อเสีย: ความเสี่ยงและปัญหาที่อาจตามมา
.
ข้อ 1: ผู้ติดตามไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
ส่วนใหญ่ช่องที่นำมาขายมักถูกปั้นแบบ “แมส” คือเน้นปริมาณผู้ติดตามจากคอนเทนต์หลากหลาย ไม่ได้เจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
.
ข้อ 2: ขายสินค้าไม่ได้ง่าย
เมื่อผู้ติดตามไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย การนำเสนอสินค้าหรือบริการมักไม่เกิดผล ไม่ว่าจะด้วยการติดตะกร้าหรือมีสปอนเซอร์เข้า
.
ข้อ 3: การมองเห็นลดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อเปลี่ยนแนวทางคอนเทนต์ไปจากเดิม ผู้ติดตามเก่าจะไม่สนใจ ทำให้ Engagement ตก และอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มลดการมองเห็น (Reach) ของช่องลงอย่างมาก
.
ข้อ 4: รีแบรนด์ (Rebrand) ได้ยากมาก
ผู้ติดตามเดิมจดจำภาพลักษณ์เก่าของช่องได้ การเปลี่ยนเจ้าของและแนวทางใหม่จะทำให้คนเลิกติดตาม เพราะไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการตั้งแต่แรก เหมือนการซื้อแบรนด์ใหญ่แล้วพยายามเปลี่ยนให้เป็นตัวตนของเรา
.
ข้อ 5: ความเสี่ยงด้านกฎหมาย (สำคัญที่สุด)
ช่องเหล่านี้อาจถูกปั้นขึ้นด้วยวิธีไม่ถูกต้อง เช่น ปลอมเป็นบุคคลอื่น หรือสร้างคอนเทนต์ปั่นกระแสเพื่อดึง Engagement หากมีคดีย้อนหลัง เจ้าของคนใหม่อาจต้องรับผิดชอบโดยไม่รู้ตัว เสี่ยงทั้งเสียเงิน เสียเวลา และกระทบชื่อเสียง
9K
#9K #นายเค #ซื้อช่องvsปั้นช่องเอง #วิเคราะห์
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
