Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PPTV Wealth
•
ติดตาม
18 ก.ย. เวลา 09:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เฟดลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี หั่น 0.25% เหลือ 4.00-4.25%
ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 4.00%-4.25% ส่งสัญญาณปีนี้อาจลดอีก 2 ครั้ง
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดอีก 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ท่ามกลางความกังวลที่ทวีความรุนแรงขึ้นต่อภาวะตลาดแรงงาน แม้อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ลงมติด้วยคะแนน 11 ต่อ 1 ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงมาเหลือ 4.00%-4.25%
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สตีเฟน มิแรน คณะกรรมการผู้ว่าการเฟดคนใหม่ เป็นผู้เดียวที่ลงคะแนนเสียงคัดค้าน โดยเสนอให้ลดแรงกว่านี้ที่ 0.50%
ขณะที่ มิเชล โบว์แมน และ คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าอาจเป็นผู้คัดค้าน กลับลงคะแนนเห็นชอบการลด 0.25% ทั้งคู่
ทั้งสามคนนี้ล้วนเป็นคณะกรรมการผู้ว่าการเฟดที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งตลอดฤดูร้อนที่ผ่านมาได้กดดันเฟดอย่างต่อเนื่องให้ลดดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วและแรงกว่าปกติ ไม่ใช่ทีละ 0.25% แบบดั้งเดิม
ในการแถลงหลังการประชุม คณะกรรมการฯ ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการ “ชะลอตัว” พร้อมเสริมว่า “การจ้างงานลดลง” และย้ำว่า “เงินเฟ้อปรับขึ้นและยังคงอยู่ในระดับสูง”
การชะลอตัวของการจ้างงานควบคู่กับเงินเฟ้อที่สูง แสดงถึงความขัดแย้งกับเป้าหมายของเฟด คือ การรักษาเสถียรภาพราคาและการจ้างงานเต็มศักยภาพ
เฟดกล่าวเพิ่มเติมว่า “ความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับสูง คณะกรรมการให้ความสำคัญกับความเสี่ยงทั้งสองด้านของภารกิจคู่ และเห็นว่าความเสี่ยงด้านลบต่อการจ้างงานได้เพิ่มขึ้น”
หลังการประกาศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวน โดยดัชนีหลักเคลื่อนไหวผสมผสาน หลังจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ อธิบายการลดดอกเบี้ยว่าเป็น “การบริหารความเสี่ยง” มากกว่าการพยายามพยุงเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเคลื่อนไหวไม่เป็นทิศทางเดียวกัน โดยลดลงในพันธบัตรอายุสั้น แต่ปรับขึ้นในพันธบัตรอายุยาว
ในการแถลงข่าวหลังการประชุม พาวเวลล์ย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงาน
“การชะลอตัวลงอย่างมากทั้งในด้านอุปทานและอุปสงค์แรงงาน ถือเป็นสิ่งผิดปกติในตลาดแรงงานที่ไม่ค่อยมีพลวัตและอ่อนตัวเช่นนี้ ความเสี่ยงด้านลบต่อการจ้างงานดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น” พาวเวลล์กล่าว
พาวเวลล์กล่าวเพิ่มเติมว่า การตัดสินใจลดดอกเบี้ยครั้งนี้ทำให้นโยบายการเงินอยู่ในจุดที่ “เป็นกลางมากขึ้น” แทนที่จะเป็นแบบ “ค่อนข้างเข้มงวด” อย่างที่เคยอธิบายไว้ก่อนหน้า
นอกจากการลดดอกเบี้ยแล้ว ใน Dot Plot หรือแผนภาพจุดที่สะท้อนคาดการณ์ของกรรมการ เผยให้เห็นการลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ความเห็นยังแตกต่างกันกว้าง โดยจุดหนึ่ง (ที่คาดว่าอาจเป็นของมิแรน) สะท้อนการลดเพิ่มเติมรวม 1.25% ในปีนี้
Dot Plot ถูกจัดทำแบบไม่เปิดเผยชื่อ โดยกรรมการแต่ละคนจะมีจุดแทนความเห็นของตน หนึ่งจุดต่อหนึ่งคน
●
ในจำนวนผู้เข้าร่วม 19 คน มี 9 คนที่เห็นควรลดเพียงอีก 1 ครั้ง
●
ขณะที่ 10 คนเห็นควรลดอีก 2 ครั้ง (เดือนตุลาคมและธันวาคม)
●
อีก 1 คนไม่เห็นด้วยแม้กระทั่งการลดครั้งนี้
ไซมอน แดงกูร์ (Simon Dangoor) หัวหน้ากลยุทธ์ตราสารหนี้มหภาคของ Goldman Sachs Asset Management กล่าวว่า “เสียงส่วนใหญ่ใน FOMC ตอนนี้มุ่งไปที่การลดอีก 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งหมายความว่าฝ่ายผ่อนคลายกำลังถือพวงมาลัยนำทิศทางแล้ว เราคิดว่าจำเป็นต้องมีเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ด้านเงินเฟ้อ หรือการฟื้นตัวแรงของตลาดแรงงาน จึงจะทำให้เฟดเปลี่ยนเส้นทางจากแนวโน้มผ่อนคลายในตอนนี้ได้”
Dot Plot ยังชี้ว่า เฟดจะปรับลดอีกเพียงครั้งเดียวในปี 2026 ซึ่งช้ากว่าการคาดการณ์ของตลาดที่มองไว้ 3 ครั้ง และอีกครั้งในปี 2027 เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้ระดับกลางระยะยาว (neutral rate) ที่ 3% โดยมีเจ้าหน้าที่ราวครึ่งโหลที่มองว่าระดับดอกเบี้ยระยะยาวควรต่ำกว่าค่ากลางนี้
นอกจากนี้ การคาดการณ์เศรษฐกิจที่ประกาศหลังการประชุมชี้ว่า เศรษฐกิจจะเติบโตเร็วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับประมาณการเดือนมิถุนายน ขณะที่แนวโน้มการว่างงานและเงินเฟ้อไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้มีบรรยากาศทางการเมืองเข้มข้นผิดจากปกติ สำหรับสถาบันที่มักดำเนินการอย่างเงียบ ๆ และแทบไม่มีเสียงคัดค้าน
เมื่อปีที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลลักษณะเดียวกันเรื่องการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เฟดอนุมัติการลดดอกเบี้ยแรง 0.50% ซึ่งทรัมป์กล่าวหาว่าเป็นการตัดสินใจที่มีแรงจูงใจทางการเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อคู่แข่งจากพรรคเดโมแครตอย่าง กมลา แฮร์ริส
แรงกดดันจากทรัมป์และการแต่งตั้งมิแรน ทำให้เกิดคำถามถึงความเป็นอิสระของเฟดที่เคยถือปฏิบัติสืบต่อมา มิแรนเคยวิจารณ์พาวเวลล์และคณะกรรมการคนอื่น ๆ อย่างเปิดเผย และมักถูกมองว่าเป็นเสียงสนับสนุนทรัมป์โดยตรง ซึ่งต้องการลดดอกเบี้ยลงอย่างมากเพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ที่ซบเซา และลดต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาล
พาวเวลล์ยืนยันว่าในการประชุมครั้งนี้ ไม่มีการสนับสนุนอย่างกว้างขวางต่อการลดแรง 0.50%
แต่ดราม่าทางการเมืองยังเพิ่มขึ้น เมื่อศาลมีคำสั่งห้ามทรัมป์ปลดผู้ว่าการ ลิซา คุก ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน
ทำเนียบขาวกล่าวหาคุกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ได้รับการค้ำประกันจากรัฐบาลกลาง แม้ยังไม่มีการตั้งข้อหา คุกปฏิเสธข้อกล่าวหาและร่วมโหวตสนับสนุนการลดดอกเบี้ย 0.25% ในครั้งนี้
สัญญาณล่าสุดสะท้อนว่าเศรษฐกิจยังเติบโตแข็งแรง และการใช้จ่ายผู้บริโภคสูงกว่าที่คาดการณ์ แต่ตลาดแรงงานยังเป็นจุดอ่อน
●
อัตราว่างงานเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 4.3% ถือว่าต่ำในเชิงประวัติศาสตร์ แต่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021
●
การจ้างงานแทบไม่ขยายตัวตลอดปีนี้
●
สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐเพิ่งปรับตัวเลขย้อนหลัง ชี้ว่าเศรษฐกิจสร้างงานน้อยกว่าที่รายงานไว้ก่อนหน้าถึงเกือบ 1 ล้านตำแหน่งในช่วง 12 เดือนก่อนมีนาคม 2025
คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ แสดงความกังวลว่าควรผ่อนคลายนโยบายการเงินตั้งแต่ตอนนี้เพื่อป้องกันปัญหาตลาดแรงงานในอนาคต อีกทั้งชื่อของเขายังถูกพูดถึงว่าอาจเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานเฟดต่อจากพาวเวลล์ ที่จะหมดวาระในเดือนพฤษภาคม 2026
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
https://www.pptvhd36.com/wealth/monetary/257281
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTVHD36 :
https://www.facebook.com/PPTVHD36
YouTube :
www.youtube.com/@PPTVHD36
ดอกเบี้ย
เฟด
ธนาคารกลางสหรัฐ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย