Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PPTV Wealth
•
ติดตาม
19 ก.ย. เวลา 11:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ก.ล.ต. เปิดทาง “Tourist Digipay” ใช้จริงพฤศจิกายน 68
ก.ล.ต. เปิดทาง “Tourist Digipay” ใช้จริงพฤศจิกายน 68 หนุนคริปโทฯ จ่ายท่องเที่ยวไทย พร้อมคุมเข้มฟอกเงิน
นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ ในฐานะโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ Tourist Digipay ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกประกาศรองรับ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้ และจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการทดสอบ (Sandbox) ยื่นสมัครเข้าร่วมได้ ก่อนจะเริ่มดำเนินโครงการจริงในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
โดยมีเป้าหมายสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถือคริปโทเคอร์เรนซี สามารถแปลงเป็นเงินบาท ฝากเข้าบัญชี e-Wallet
นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ ในฐานะโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่าอาจถูกนำไปใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน โดย ก.ล.ต. ยืนยันว่ามีกลไกควบคุมความเสี่ยง ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน ปปง. กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
สำหรับรายละเอียดการแลกเปลี่ยนและเงื่อนไขขั้นตอนการแลกเปลี่ยน
(1) นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องเปิดบัญชีกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ให้บริการ e-money
(2) นักท่องเที่ยวต่างชาติโอนสินทรัพย์ดิจิทัลไปเข้า wallet ที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ที่เข้าร่วมโครงการ) เปิดไว้ให้กับลูกค้า
(3) ส่งคำสั่งแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาท
(4) เงินบาทจะถูกโอนไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ให้บริการ e-money (ที่เข้าร่วมโครงการ) เพื่อเครดิตเงินบาทไปยัง Tourist Wallet ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สมัครใช้บริการ
เมื่อทำครบขั้นตอน นักท่องเที่ยวก็สามารถใช้จ่ายเงินบาทชำระค่าสินค้าและบริการได้ทั่วประเทศ โดยสแกนผ่านระบบ Thai QR วงเงินใช้จ่าย ในการชำระเงินให้กับร้านค้ารายย่อย จะจำกัดไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน แต่หากเป็นกรณีชำระแก่ร้านค้าที่ผ่านกระบวนการ Know Your Merchant (KYM) เช่น ร้านค้าปลีกหรือผู้ให้บริการ ที่รับชำระผ่านระบบดิจิทัล จะไม่เกิน 500,000 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ร้านค้าที่รองรับ e-Wallet อยู่แล้วสามารถต่อยอดเข้าร่วมโครงการได้ทันที ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ถือสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่แล้ว
สำหรับประเด็นการดีแคลร์สินทรัพย์ดิจิทัลเมื่อเข้าประเทศ นายเอนกชี้ว่า ปัจจุบันยังไม่จำเป็นต้องดำเนินการ เช่นเดียวกับการถือบัตรเครดิตวงเงินสูง แต่หากโครงการขยายผลจนเกิน Sandbox ในอนาคต อาจต้องหารือร่วมกับกรมศุลกากรและ ปปง. อีกครั้ง
ในส่วนของความเชื่อมโยงกับ “บัญชีม้า” นายเอนกยอมรับว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกหน่วยงานตระหนัก โดยที่ผ่านมา ก.ล.ต. และผู้ประกอบการได้ยกระดับมาตรการร่วมกับตำรวจ ปปง. ธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานด้านกฎหมาย เพื่อแชร์ข้อมูลและกำหนดเกณฑ์ตรวจสอบบัญชีต้องสงสัย โดยในปี 2568 มีการอายัดบัญชีไปแล้วกว่า 31,266 บัญชี มูลค่ารวม 229 ล้านบาท
นายเอนกกล่าวย้ำว่า แม้ผู้กระทำผิดมักหาช่องทางใหม่ๆ ในการฟอกเงิน แต่โครงการ Tourist Digipay ได้ออกแบบกลไกป้องกันร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชนอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ และหากประสบความสำเร็จ จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
https://www.pptvhd36.com/wealth/monetary/257352
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTVHD36 :
https://www.facebook.com/PPTVHD36
YouTube :
www.youtube.com/@PPTVHD36
กระเป๋าเงินดิจิทัล
กลต
นักท่องเที่ยว
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย