19 ก.ย. เวลา 03:33 • นิยาย เรื่องสั้น

บ้านบนภูเขา

บ้านบนภูเขา – ก้อนที่ 1
กานต์เป็นวิศวกรโครงสร้างหนุ่มอายุสามสิบต้น ๆ ที่เพิ่งได้รับมอบหมายโปรเจกต์สำคัญในการสร้างอาคารสูงที่ระนอง งานนี้เป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย เขารู้ดีว่าการทำงานที่นี่หมายถึงการต้องห่างจากบ้านในกรุงเทพฯ เป็นเวลาหลายเดือน แต่ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เขาจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ชั่วคราวในเมืองเล็ก ๆ ริมทะเลและภูเขา
ทุกเช้า เขาจะขับรถจากบ้านพักไปยังไซต์งาน เส้นทางที่เขาต้องผ่านทุกวันไม่ใช่ถนนใหญ่ แต่เป็นถนนเลาะเขาที่คดเคี้ยวและเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่โอบล้อมสองข้างทาง การขับรถในตอนเช้าหรือเย็นทำให้เขาได้เห็นทิวทัศน์ธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาหยุดนิ่งทุกครั้งที่ขับผ่าน — บ้านหลังเล็ก ๆ บนไหล่เขา มันเป็นบ้านไม้เก่าแก่หลังหนึ่งที่ดูเหมือนถูกทิ้งร้างมานาน แต่อะไรบางอย่างในบ้านนั้นดึงดูดสายตากานต์อยู่เสมอ
บนระเบียงไม้ด้านหน้าเขาเห็นเงาร่างหญิงสาวผมยาวสีดำสนิท ยืนอยู่ตรงนั้นไม่เคลื่อนไหว ราวกับเธอกำลังจ้องมองบางสิ่งไกลออกไป เขาไม่เคยเห็นเธอหันมามองถนนตรงที่เขาขับผ่าน แต่ทุกครั้งที่สบตาร่างนั้นในระยะสายตา เขาจะรู้สึกถึงความเงียบสงบและความลึกลับบางอย่างที่แผ่ซ่าน
วันแรกที่เห็น กานต์คิดว่าอาจเป็นเพียงภาพหลอนของตาเขา หรืออาจเป็นใครสักคนที่บังเอิญมายืนอยู่บนระเบียง แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาเห็นเธออยู่ตรงนั้นเกือบทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น แม้แต่ในวันที่ฝนพรำหรือหมอกลงจัด เขาก็เห็นเธอยืนอยู่เช่นเดิม
ความสงสัยเริ่มก่อตัวในใจของกานต์ เขาเริ่มถามเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับบ้านหลังนั้น แต่ทุกคนส่ายหัว ไม่มีใครเคยเห็นหญิงสาวคนนั้น มีเพียงบางคนบอกว่า “ตรงนั้นไม่มีใครอยู่แล้ว บ้านร้างน่ะ”
กานต์ไม่อาจทำใจเชื่อได้ เขาจำภาพหญิงสาวคนนั้นได้ชัดเจนทุกครั้งที่ขับรถผ่าน ใบหน้าซีด รอยยิ้มบาง ๆ และผมยาวที่สยายตามลม กลายเป็นภาพที่ติดอยู่ในความทรงจำของเขาอย่างประหลาด
คืนหนึ่งหลังเลิกงาน กานต์นั่งอยู่ที่ระเบียงบ้านพัก มองไปยังไหล่เขาที่บ้านไม้ตั้งอยู่ เบื้องบนดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงลงมาบนระเบียงไม้ เขาเห็นเธอยืนอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง ร่างสูงสง่าท่ามกลางแสงจันทร์เปียกชื้นจากหมอก ความเงียบที่ปกคลุมทำให้กานต์รู้สึกทั้งสงบและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน
กานต์ไม่สามารถละสายตาได้ เขารู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่าง ราวกับบ้านหลังนั้นและหญิงสาวบนระเบียงเรียกเขาอย่างเงียบ ๆ เขาพยายามถามตัวเองว่า “เธอคือใคร ทำไมฉันถึงเห็นเธออยู่ทุกวัน?” แต่คำตอบก็ไม่มีอยู่ในความเป็นจริง
วันรุ่งขึ้นกานต์ตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เขาเลี้ยวรถเข้าถนนลูกรังที่ตัดขึ้นไปยังไหล่เขา ถนนนั้นแคบและเต็มไปด้วยรากไม้โผล่พ้นดิน เขาต้องขับอย่างระมัดระวังทุกขั้นตอน เสียงล้อบดกับกรวดดังกรอบแกรบ แต่หัวใจของเขาเต้นแรงเกินกว่าที่เสียงกรวดจะทำให้ตื่นกลัว
เมื่อเขาเข้าใกล้บ้านมากขึ้น ภาพบ้านไม้เก่าแก่ปรากฏเต็มสายตา เขาจอดรถที่ป่าช้าและก้าวลงจากรถ ลมเย็นพัดผ่านใบหน้า เสียงนกและสายลมผสมกับความเงียบสงัดทำให้บรรยากาศรอบบ้านดูลึกลับยิ่งขึ้น
เขาเดินช้า ๆ ไปยังบันไดไม้ที่ขึ้นสู่ระเบียง ทุกขั้นที่ก้าวดังเอี๊ยดอ๊าดไปทั่ว เสียงหัวใจของเขาดังกว่าทุกเสียงรอบตัว เมื่อกานต์ยืนอยู่ตรงหน้าประตู เขารู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่บนขอบของโลกอีกใบ
ทันใดนั้นเอง เขารู้สึกถึงสายตาจากด้านหลัง หันกลับไป… และใช่… เธออยู่ตรงนั้นจริง ๆ ผมยาวดำขลับเปียกน้ำฝน เสื้อขาวเรียบง่ายติดกับร่างของเธอ เธอมองตรงมาที่กานต์ด้วยสายตาที่ลึกและเต็มไปด้วยความลึกลับ
กานต์ยืนตัวแข็ง อึ้งและงุนงง เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงยืนอยู่ตรงนั้น ความเงียบที่คืบคลานเข้ามารอบตัวเขาทำให้กานต์รู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้
“คุณ…เป็นใคร” เขาพยายามเปล่งเสียง เธอยังคงนิ่ง รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก เธอเหมือนรู้จักเขามานานแล้ว แต่สำหรับกานต์ มันคือความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
ก้อนนี้จบลงตรงที่กานต์เริ่มผูกพันกับบ้านและหญิงสาว เขาตระหนักว่าชีวิตของเขาตั้งแต่นั้นจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
วันรุ่งขึ้น กานต์ไม่อาจละสายตาจากบ้านบนภูเขาได้ ตั้งแต่เช้าเขาก็ขับรถผ่านเส้นทางเดิม ใจเต้นแรงเหมือนทุกครั้ง เขาพยายามสังเกตรายละเอียดของบ้านหลังนั้นให้มากที่สุด ราวกับว่าทุกมุมมองจะช่วยไขปริศนาที่ค้างคาอยู่ในใจ
บ้านหลังเล็กมีผนังไม้สีซีด ขอบหน้าต่างและระเบียงเริ่มผุกร่อนเล็กน้อย แต่ยังคงแข็งแรงพอที่จะยืนได้เป็นระยะเวลานาน สิ่งที่น่าประหลาดใจคือทุกครั้งที่เขาขับรถผ่าน จะเห็นหญิงสาวผมยาวยืนอยู่ตรงระเบียงไม่เคลื่อนไหว เธอไม่ถอยห่าง ไม่หันไปทางอื่น เพียงมองออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอก เหมือนกำลังรอใครบางคน
กานต์เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาไม่เคยเห็นผู้คนขึ้นไปบ้านหลังนั้นเลย ไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีแสงไฟ ไม่มีการเคลื่อนไหวของสิ่งใด ๆ ยกเว้นหญิงสาวบนระเบียง เขาลองถามเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับบ้านหลังนั้น แต่ทุกคนก็ส่ายหัวไม่รู้เรื่อง
“บ้านบนเขาเหรอ?” เพื่อนคนหนึ่งถามเสียงสงสัย “ตรงนั้นไม่มีใครอยู่แล้วน่ะ บ้านร้างมานานแล้ว”
คำตอบทำให้กานต์ยิ่งสับสน ภาพหญิงสาวที่เขาเห็นทุกวันไม่อาจเป็นภาพหลอนได้แน่ เขาจำได้ชัดเจนถึงรายละเอียดของผมสีดำสนิทที่พลิ้วไหวตามลม รอยยิ้มบาง ๆ ที่ปรากฏเป็นระยะ และท่าทางสงบเรียบง่ายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ลึกลับ
หลังเลิกงานกานต์ตัดสินใจแวะถามแม่ค้ากาแฟริมถนน แม่ค้าสาวอายุกลางคนหันมามองเขาเมื่อกานต์เอ่ยถึงบ้านหลังนั้น
“บ้านบนไหล่เขาเหรอคะ? อ๋อ… ไม่มีใครอยู่แล้วค่ะ บ้านนั้นถูกทิ้งร้างมานานมากแล้ว เจ้าของเสียไปตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน”
กานต์พยักหน้า แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยคำถามมากมาย “แล้วผู้หญิงที่ผมเห็นทุกวันล่ะ?” เขาไม่กล้าพูดออกไป แม่ค้าพยักหน้าช้า ๆ ราวกับรู้จักบางสิ่ง
บ่ายวันต่อมา ขณะกานต์ขับรถกลับบ้าน ภาพที่คุ้นเคยปรากฏอีกครั้งบนระเบียง เธอยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้มีบางอย่างที่แตกต่าง ดวงตาของเธอดูเหมือนจะจับจ้องเขา และเมื่อกานต์สบตา เธอกลับยกมือขึ้นเบา ๆ เป็นการทักทาย แต่ก่อนที่เขาจะก้าวลงจากรถ ร่างนั้นก็หายไปทันที ราวกับล่องลอยไปกับสายลม
ความสงสัยเริ่มกลายเป็นความหลอน กานต์ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าหญิงสาวคนนั้นคือใคร หรือว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านธรรมดา หรือมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าสู่โลกอีกใบ โลกที่เต็มไปด้วยความเงียบและความลึกลับ
ในคืนหนึ่ง กานต์ตัดสินใจนำไฟฉายและกล้องถ่ายรูปขึ้นไปสำรวจบ้านบนเขา เส้นทางลูกรังและหินที่ขึ้นไปยังบ้านช่างชันและคดเคี้ยว แต่เขาไม่สนใจความเหน็ดเหนื่อย ทุกก้าวที่ก้าวขึ้นไปทำให้หัวใจเต้นแรงราวกับจะออกมาจากอก
เมื่อถึงระเบียงไม้ที่เธอเคยยืน กานต์หยุดหายใจ เงียบสงัดรอบตัวเขา แม้แต่ลมก็เหมือนหยุดพัด เสียงหัวใจของเขาดังชัดเจนทุกจังหวะ แต่ปรากฏว่าระเบียงว่างเปล่า ไม่มีหญิงสาว ไม่มีรอยเท้าใด ๆ
กานต์รู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่าง เขาเริ่มสังเกตเห็นรายละเอียดของบ้านที่ไม่เคยสังเกตมาก่อน ผนังไม้ที่เก่าแก่แต่แข็งแรง หน้าต่างที่มีรอยขีดข่วนละเอียด ๆ ราวกับใครบางคนเคยเคาะหรือขีดเขียนไว้ แต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เสียงลมและความเงียบทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด
“คุณอยู่ที่นี่จริง ๆ หรือ…เป็นแค่ภาพหลอนของฉัน?” กานต์ถามตัวเองเบา ๆ
ทันใดนั้นเอง เขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นแรงและบางสิ่งเหมือนขยับอยู่ในเงามืด เงาร่างบาง ๆ ปรากฏขึ้นตรงมุมของบ้าน ใบหน้าที่ซีดและผมดำสนิทเปียกน้ำฝน เธอเงยหน้ามองเขาและรอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
กานต์รู้สึกทั้งกลัวและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน เขาอยากเข้าไปใกล้ แต่ร่างของเธอกลับหายวับไปเหมือนลมพัดผ่าน ความสงสัย ความตื่นเต้น และความหลงใหลผสมผสานกันจนแทบเอื้อมไม่ถึง
หลังคืนวันนั้น กานต์เริ่มสังเกตพฤติกรรมของเธออย่างละเอียด เขาพบว่าเธอปรากฏตัวในเวลาเดียวกันทุกวัน ยืนอยู่ตรงระเบียงราวกับมีตารางเวลาที่เธอปฏิบัติแน่นอน เขาสังเกตเงา ผม เสื้อผ้า และท่าทางทุกอย่าง แม้ว่าจะเป็นเพียงเสี้ยววินาที แต่ทุกครั้งที่เห็นเขาก็รับรู้ได้ถึงความสงบและความเศร้าในดวงตาของเธอ
กานต์เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า เธอเป็นใคร ทำไมถึงปรากฏตัวอยู่บ้านหลังนั้นเสมอ ทำไมไม่มีใครเห็นเธอ นี่คือสิ่งที่เหนือความเข้าใจของเขา แต่ยิ่งเขาสงสัยมากเท่าไร กลับยิ่งรู้สึกผูกพันและดึงดูดไปหาเธอมากขึ้นเท่านั้น
ความหลอนนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ลึกลับ กานต์รู้สึกว่าบ้านหลังเล็ก ๆ บนภูเขาและหญิงสาวผมยาวได้เปลี่ยนชีวิตเขาไปโดยสิ้นเชิง ทุกคืน ทุกการเดินทางกลับบ้าน ทุกสายตาที่สบเข้ากับระเบียงไม้ เหมือนมีพลังบางอย่างดึงเขาเข้าไปในโลกที่เขาไม่เคยรู้จัก
และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ของกานต์ — การไขปริศนาของหญิงสาวลึกลับบนระเบียงบ้านหลังนั้น
วันรุ่งขึ้น กานต์ตัดสินใจว่าเขาจะไม่เพียงแค่สังเกตจากระยะไกลอีกต่อไป เขาต้องเข้าไปยังบ้านบนภูเขาเพื่อไขปริศนาที่ค้างคาใจมานาน เส้นทางลูกรังคดเคี้ยวและเต็มไปด้วยรากไม้โผล่พ้นดิน แต่หัวใจของเขาเต้นแรงเกินกว่าความลำบากทางร่างกาย
เขาเตรียมไฟฉาย กล้องถ่ายรูป และอุปกรณ์เครื่องมือเล็ก ๆ เผื่อว่าต้องบันทึกสิ่งที่พบ กานต์เริ่มเดินขึ้นไปทีละก้าว เสียงลมพัดผ่านต้นไม้ทำให้ร่างกายขนลุกเล็กน้อย แต่ความตื่นเต้นทำให้เขาลืมความเหน็ดเหนื่อย
เมื่อเข้าใกล้บ้านมากขึ้น เขาสังเกตเห็นรายละเอียดที่ไม่เคยสังเกตมาก่อน รอยขีดข่วนบนผนังไม้ สายลมที่พัดผ่านใบไม้และกระพือผ้าม่านที่ไม่เคยเคลื่อนไหวจากระยะไกล เขารู้สึกถึงความเงียบสงัดรอบตัว ราวกับเวลาได้หยุดชั่วขณะ
กานต์ยืนอยู่หน้าประตูไม้ เหงื่อชื้นเต็มหน้าผาก มือเขาสั่นเล็กน้อยขณะเอื้อมไปจับลูกบิด ประตูไม่ล็อก… แต่ก็ไม่เปิดง่ายนัก เขาดึงอย่างระมัดระวังจนประตูเปิดออกด้วยเสียงเอี๊ยดอ๊าด เงาสลัวจากไฟฉายส่องไปทั่วภายในบ้าน
บ้านภายในค่อนข้างเล็ก มีเพียงห้องโถงไม้แคบ ๆ กับบันไดขึ้นไปยังชั้นบน เสียงหัวใจเขาดังก้องในหู ทุกฝีเท้าที่เขาก้าวผ่านทำให้พื้นไม้ดังเอี๊ยดอ๊าด เสียงนั้นกลับไม่ทำให้เขากลัว กลับยิ่งตอกย้ำความรู้สึกที่ว่า เขาอยู่ถูกที่ถูกเวลา
ทันใดนั้นเอง เขาเห็นเงาร่างบาง ๆ ยืนอยู่ที่ระเบียงด้านบน เธอคือหญิงสาวผมยาวที่เขาเห็นทุกวัน แต่ตอนนี้ใกล้มากกว่าเดิม ดวงตาของเธอจับจ้องเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและเสน่ห์ลึกลับ กานต์ไม่อาจละสายตาได้
“คุณ…อยู่ที่นี่จริง ๆ หรือ?” เขาถามเสียงสั่น
หญิงสาวเพียงยิ้มบาง ๆ และพยักหน้าเหมือนยืนยันความจริง กานต์ก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น เสียงเอี๊ยดอ๊าดตามทุกฝีเท้า แต่เมื่อเขาถึงระเบียง เธอก็อยู่ตรงนั้นรอเขาอยู่แล้ว
เขาหยุดหายใจ มองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ รู้สึกถึงแรงดึงดูดที่เกินกว่าคำบรรยาย เธอไม่พูดอะไร เพียงยืนสงบนิ่ง รอให้เขาเข้าใกล้
กานต์ตัดสินใจก้าวไปข้างหน้า แต่ทันใดนั้นเอง เขารู้สึกถึงความเย็นเฉียบผ่านร่างกาย ราวกับอากาศรอบตัวเธอหนาวเยือกขึ้นทันที เขาหยุดและมองไปรอบ ๆ บ้าน ภายในยังคงเงียบสงัด ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวยกเว้นเธอ
“คุณ…คือใคร?” เขาถามอีกครั้ง
หญิงสาวยกมือขึ้นเบา ๆ และพูดเสียงแผ่ว ๆ ราวกับคลื่นลมพัดผ่าน “ฉันอยู่ที่นี่มานานแล้ว…แต่ไม่มีใครเคยมองเห็นฉันเลย นอกจากคุณ”
คำพูดนั้นทำให้กานต์ใจสั่น เขารู้สึกถึงความลึกลับที่เกินความเข้าใจ ราวกับว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของบ้านและภูเขานี้มาตั้งแต่แรกเกิด เขาอยากถามต่อ แต่ก็กลัวว่าจะรบกวนสิ่งที่เธอพยายามสื่อสาร
กานต์สังเกตทุกส่วนของร่างเธอ ผมดำยาวประบ่า เสื้อผ้าสีขาวเรียบง่าย และท่าทางสงบเรียบเหมือนเด็กหญิงที่ไม่เคยแก่ ความเงียบที่มีพลังทำให้เขารู้สึกทั้งกลัวและหลงใหลในเวลาเดียวกัน
เขาก้าวเข้าไปใกล้ระเบียง ไฟฉายส่องไปบนผิวหน้าเธออย่างเบา ๆ แสงสะท้อนบนดวงตาของเธอทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังจ้องเข้าไปในโลกอีกใบ โลกที่เต็มไปด้วยความลึกลับและความเศร้า
“ฉัน…จะอยู่ที่นี่เพื่อรอคุณ” เธอกระซิบเบา ๆ
กานต์รู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่าง เขายืนนิ่ง พยายามทำใจให้สงบ แต่หัวใจเต้นแรงเกินกว่าคำบรรยาย
เขาใช้เวลาหลายนาที ยืนอยู่ตรงนั้น เงียบสงบและจ้องมองเธอ รู้สึกเหมือนเวลาหยุดลง ทุกสิ่งรอบตัวเลือนลางและความจริงมีเพียงเขากับหญิงสาวบนระเบียงไม้
สุดท้าย กานต์ตัดสินใจถามเสียงสั่น “คุณ…ต้องการอะไรจากฉัน?”
หญิงสาวเพียงยิ้มอีกครั้ง แล้วหายไปอย่างช้า ๆ เหมือนหมอกลอยผ่าน เขายังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่เห็นเป็นความจริง แต่หัวใจเขารับรู้ได้ชัดเจนว่า เขาได้ก้าวเข้ามาในโลกของเธอแล้ว
ความตึงเครียด ความสงสัย และความหลงใหลผสมกันอย่างลึกซึ้ง กานต์รู้ว่าเขาจะไม่สามารถกลับไปเหมือนเดิมอีกต่อไป บ้านบนภูเขาและหญิงสาวผมยาวได้ผูกพันเขาเข้ากับความลึกลับที่ไม่มีวันจบสิ้น
หลังจากคืนแรกที่กานต์ได้เข้าไปใกล้บ้านบนเขา เขาไม่อาจละสายตาหรือหัวใจจากหญิงสาวผมยาวบนระเบียงได้อีก วันต่อมา เขาขับรถไปทำงานเหมือนทุกวัน แต่ครั้งนี้หัวใจเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและความตื่นเต้น
เส้นทางขึ้นเขาที่เคยคดเคี้ยวเหมือนเดิม แต่สายตาของเขาจับจ้องไปยังบ้านไม้ทุกครั้งที่ผ่าน เห็นเธอยืนอยู่ตรงระเบียงเช่นเดิม แต่ครั้งนี้เธอปรากฏตัวชัดเจนยิ่งขึ้น ดวงตาของเธอเหมือนสื่อสารบางสิ่งกับเขาโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูด
กานต์ตัดสินใจหยุดรถริมทาง เดินช้า ๆ ขึ้นไปยังบ้านบนเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่เพียงแค่ยืนมองจากระยะไกล แต่เขาต้องการพูดคุยกับเธอให้รู้เรื่อง
เมื่อก้าวขึ้นบันไดไม้ เขาพบว่าระเบียงว่าง แต่ทันใดนั้น เธอปรากฏตัวตรงหน้าประตูบ้าน มือของเธอเย็นชุ่มน้ำฝน แต่ท่าทางสงบ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้า
“คุณ…กลับมาอีกแล้ว” เสียงกานต์สั่นเล็กน้อย
หญิงสาวเพียงพยักหน้า เธอไม่พูดมากนัก แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเธอสื่อสารความรู้สึกลึกลับบางอย่าง กานต์รู้สึกเหมือนเขาและเธออยู่ในโลกอีกใบ โลกที่เวลาหยุดนิ่งและทุกอย่างเต็มไปด้วยความเงียบและความลึกลับ
กานต์พยายามเอื้อมมือไปหา แต่เธอก้าวถอยหลังเล็กน้อย ราวกับเตือนว่าอย่าเข้าใกล้เกินไป แต่ในขณะเดียวกัน เธอยังอยู่ใกล้พอที่จะให้เขารู้สึกถึงความอบอุ่นและความเศร้า
“คุณ…ทำไมถึงอยู่ที่นี่?” เขาถาม
เธอมองเขาเงียบ ๆ ก่อนจะตอบเสียงเบา “ฉัน…ไม่เคยไปไหน ฉันอยู่บ้านหลังนี้มานานแล้ว และไม่มีใครเคยมองเห็นฉัน…นอกจากคุณ”
คำพูดนั้นทำให้กานต์รู้สึกถึงความพิเศษและแรงดึงดูดบางอย่าง เขาไม่กลัว แต่กลับอยากรู้จักเธอให้มากขึ้น อยากเข้าใจโลกที่เธออยู่
ตั้งแต่นั้นมา กานต์เริ่มมาหาเธอเป็นประจำ ไม่ใช่เพียงเพื่อสังเกต แต่เพื่อสนทนา แม้ว่าบทสนทนาจะสั้นและเรียบง่าย แต่ทุกคำพูดของเธอเต็มไปด้วยความหมายและความลึกลับ
บางครั้งเธอจะพูดถึงเรื่องราวในอดีตของบ้าน บางครั้งเล่าเรื่องภูเขาและหมอก และบางครั้งก็เพียงนั่งเงียบ ๆ ให้กานต์ได้สังเกตเห็น รอยยิ้มเล็ก ๆ และสายตาเศร้าลึกล้ำทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตเขาและเธอถูกผูกพันเข้าด้วยกันโดยชะตากรรม
กานต์เริ่มสังเกตถึงรายละเอียดเล็ก ๆ ของเธอ เช่น การเรียบเรียงผมที่เป็นระเบียบ การวางมือบนราวระเบียง การเคลื่อนไหวที่ดูอ่อนโยนและสงบ ทุกอย่างล้วนสื่อสารความงดงามเหนือความจริง
วันหนึ่ง กานต์พยายามถามเรื่องบ้านและชีวิตของเธอให้ละเอียด แต่เธอเพียงยิ้มและตอบว่า “ฉันอยู่ที่นี่เพื่อรอใครบางคน… และคุณก็เข้ามาในโลกของฉันแล้ว”
ความสัมพันธ์ของเขาเริ่มเปลี่ยนจากความสงสัยเป็นความผูกพัน ความลึกลับและความโรแมนติกผสมผสานกัน กานต์ไม่อาจอธิบายได้ แต่รู้สึกว่าหญิงสาวบนระเบียงนั้นเป็นทั้งความฝันและความจริง
กานต์เริ่มใช้เวลาส่วนใหญ่หลังเลิกงานกับบ้านบนเขา แม้ร่างกายจะเหน็ดเหนื่อยจากงานก่อสร้าง แต่หัวใจเขากลับเต็มไปด้วยพลังและแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทาน ทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เธอ เขารู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่เต็มไปด้วยความลึกลับและความงดงาม
ความสัมพันธ์ของเขากับเธอไม่ใช่ความรักแบบปกติ แต่เป็นความผูกพันเหนือจริง ที่ทั้งอบอุ่นและน่าหลงใหล กานต์รู้สึกเหมือนได้พบสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิต เป็นความสงบ ความลึกลับ และความหวังในเวลาเดียวกัน
ทุกวันหลังจากนั้น กานต์จะมองบ้านบนเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความคิดถึง ความอยากรู้ และความรักที่ไม่อาจเอ่ยเป็นคำพูด แม้ว่าโลกภายนอกจะวุ่นวายและเต็มไปด้วยปัญหา แต่เมื่ออยู่ที่นี่กับเธอ เขารู้สึกว่าทุกสิ่งรอบตัวหยุดนิ่ง และมีเพียงเขาและเธอเท่านั้น
เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ กานต์และหญิงสาวบนระเบียงเริ่มผูกพันกันลึกซึ้งขึ้น แม้จะไม่สามารถใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปด้วยกัน แต่ทุกช่วงเวลาที่อยู่ใกล้เธอเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความลึกลับ กานต์เริ่มสังเกตว่าบางครั้ง เธอจะพูดถึงอดีตของบ้าน เรื่องราวของเจ้าของเก่าที่หายไป และเหตุการณ์ลึกลับที่เกิดขึ้นบนภูเขานี้
คืนหนึ่ง หลังจากที่กานต์ขึ้นไปบ้าน เขาพบว่าบ้านเต็มไปด้วยแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาอย่างงดงาม เงาของต้นไม้และระเบียงวางตัวเป็นลวดลายบนพื้นไม้ เธอยืนอยู่ตรงมุมระเบียง มองออกไปไกล เขาเข้าไปใกล้เธอและถามอย่างระมัดระวัง
“คุณ…ทำไมถึงอยู่ที่นี่จริง ๆ? ทำไมไม่มีใครเคยเห็นคุณ?”
หญิงสาวเงยหน้ามองเขา ดวงตาส่องประกายเหมือนเก็บความลับอันใหญ่โตไว้
“ฉัน…เกิดที่นี่ แต่ฉันไม่เหมือนคนอื่น ฉันอยู่กับบ้านและภูเขานี้ ฉันต้องรอใครบางคน… และฉันก็รอคุณ”
กานต์รู้สึกหัวใจสั่นแรง เขาไม่เข้าใจทุกสิ่ง แต่รับรู้ได้ถึงแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้ ความลึกลับนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์และความอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
คืนถัดมา กานต์พยายามสำรวจบ้านอย่างละเอียด เขาพบสมุดเก่า ๆ หนึ่งเล่มซ่อนอยู่ใต้พื้นไม้ เมื่อเปิดดู สมุดเล่มนั้นเต็มไปด้วยรอยขีดเขียน บันทึกเหตุการณ์ในอดีต เรื่องราวของหญิงสาว ผูกพันกับบ้านและภูเขา ข้อมูลในสมุดชี้ให้เห็นว่าเธออาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มานานหลายปี แม้เวลาจะผ่านไปหลายทศวรรษ แต่เธอยังคงเยาว์วัยและไม่เปลี่ยนแปลง
กานต์เริ่มเข้าใจบางส่วนว่าเธออาจไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่เป็นสิ่งที่อยู่ระหว่างโลกสองใบ — โลกของชีวิตและโลกของความลึกลับ เขาไม่กลัว แต่กลับรู้สึกว่าความลึกลับนี้มีเสน่ห์และทำให้ชีวิตเขามีความหมาย
วันหนึ่ง เขาเอื้อมมือไปจับมือเธอ เธอไม่ถอยหนี แต่ยิ้มบาง ๆ ราวกับตอบรับความผูกพัน กานต์รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แทบล้นใจ ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความลึกลับและความโรแมนติกที่เขาไม่เคยพบ
“ฉันรู้แล้วว่าฉันต้องทำอะไร” กานต์พูดเบา ๆ “ฉันจะอยู่ที่นี่กับคุณ ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร”
หญิงสาวพยักหน้า มือของเธอจับมือเขาแน่นขึ้น รอยยิ้มและสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความลึกลับ ทำให้กานต์รู้ว่าเขาได้พบสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิต ความสุข ความสงบ และความลึกลับทั้งหมดรวมเป็นหนึ่งเดียว
กานต์เริ่มใช้ชีวิตร่วมกับบ้านและภูเขาอย่างสงบ แม้ว่าจะยังคงทำงานที่ไซต์ก่อสร้าง แต่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่นและแรงดึงดูดที่ไม่อาจอธิบาย ทุกคืนหลังเลิกงาน เขาจะขึ้นไปพบหญิงสาวบนระเบียง พูดคุย เงียบสงบ หรือเพียงนั่งมองทิวทัศน์ร่วมกัน
วันหนึ่ง เขาถามเธออีกครั้ง “คุณ…อยู่ที่นี่เพื่อตัวเอง หรือเพื่อใครบางคน?”
เธอมองเขาอย่างลึกซึ้งและตอบว่า “ฉันอยู่เพื่อรอใครสักคน และคุณก็มาถึง… ตอนนี้ เราอยู่ด้วยกันแล้ว”
กานต์รู้สึกหัวใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โลกภายนอกอาจวุ่นวายและเต็มไปด้วยปัญหา แต่ตรงนี้ ทั้งเขาและเธอมีโลกของตัวเอง โลกที่เต็มไปด้วยความลึกลับ เสน่ห์ และความโรแมนติกเหนือความจริง
กานต์เรียนรู้ที่จะเข้าใจหญิงสาว เธอสอนให้เขารู้จักการอยู่กับความเงียบ การรับรู้ความงดงามของธรรมชาติ และการยอมรับความลึกลับในชีวิต ทุกค่ำคืนที่อยู่ร่วมกันเต็มไปด้วยความสงบและความอบอุ่น
และแล้ว วันหนึ่ง เขานั่งอยู่บนระเบียงไม้ เงยหน้ามองท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาว ความเงียบรอบตัวทำให้เขารู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง เขามองไปยังหญิงสาวที่ยืนข้างเขา มือทั้งสองสัมผัสกันเบา ๆ เธอยิ้มบาง ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความลึกลับและความรัก
กานต์รู้สึกว่าบ้านบนภูเขาไม่ใช่เพียงบ้านเก่าแก่ แต่เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความหมาย ความลึกลับ และความโรแมนติกที่ไม่อาจอธิบาย เขาและหญิงสาวกลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน ภูเขา และความเงียบสงัดรอบตัว
และแม้โลกภายนอกจะเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ตรงนี้ บ้านบนภูเขา และหญิงสาวผมยาว ยังคงยืนหยัดเป็นดั่งสัญลักษณ์ของความลึกลับ ความรัก และความสงบของกานต์ตลอดกาล
โฆษณา