19 ก.ย. เวลา 07:13 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

UH-60 Black Hawk ทหารม้าอากาศแห่งไทยแลนด์

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน เมื่อวานนี้ (วันที่ 17 กันยายนค.ศ. 2025) เวลา 14.00 น. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ UH-60 Black Hawk ไปลงจอดที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และโรงพยาบาลสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส
เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลกองร้อยทหารพรานที่ 4811 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ขณะปฏิบัติหน้าที่วางกำลังบนถนนสาย 4056 บ้านบือราแง หมู่ที่ 3 ตำบลโต๊เด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ประกอบด้วย
1. จ่าสิบเอก ปิยะ อินทะโกษี
2. อาสาสมัครทหารพราน สุริยาวุธ ช่างเกวียนดี
3. อาสาสมัครทหารพราน ตะวัน สว่างเมฆารัตน์
4. อาสาสมัครทหารพราน ธีระพงษ์ พรมพัด
เฮลิคอปเตอร์ Black Hawk จอดด้านหลังท่านแม่ทัพภาคที่ 4
ทั้ง 4 นายอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิด โดยท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สอบถามอาการ พูดคุยให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าและเงินบำรุงขวัญจากผู้บัญชาการทหารบก และในนามแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้บาดเจ็บและครอบครัว
ภายหลังเหตุการณ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับหน่วยในพื้นที่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เข้มงวดในการใช้วิทยุสื่อสาร และเฝ้าระวังพื้นที่สำคัญ ทั้งฐานปฏิบัติการ จุดตรวจ จุดสกัด สถานที่ราชการ ร้านสะดวกซื้อ และชุมชน เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ พร้อมย้ำให้กำลังพลเตรียมความพร้อมทั้งด้านกำลังคน ยุทโธปกรณ์ และเครื่องมือสื่อสาร ตลอดจนห้ามประมาทต่อสถานการณ์โดยเด็ดขาด
โดยท่านได้กล่าวยกย่องความเสียสละและความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ พร้อมยืนยันกองทัพจะดูแลขวัญกำลังใจของกำลังพลและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง
จากข่าวเหตุการณ์ความไม่สงบในครั้งนี้มีภาพปรากฎเป็นเฮลิคอปเตอร์ UH-60 Black Hawk
ของกองทัพบกไทยที่หลายท่านคุ้นเคยกันดี อีกทั้งยังมีบทบาทในการรบและการช่วยเหลือประชาชนในยามปกติด้วย วันนี้เราจะขอนำท่านไปทำความรู้จักกับสุดทหารม้าอากาศแห่งกองทัพบกไทยให้มากขึ้น นี่คือเรื่องราวของ Sikorsky UH-60 Black Hawk
พลโทไพศาล หนูสังข์ ท่านแม่ทัพภาคที่ 4
▶️ความเป็นมาของ Black Hawk
Black Hawk เป็นเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ขนาดกลางของกองทัพสหรัฐฯ ผลิตโดยบริษัท Sikorsky ในปีค.ศ. 1979 สำหรับจุดกำเนิดของ Black Hawk เริ่มขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ระหว่างสงครามเวียดนาม โดยกองทัพสหรัฐฯ มีแผนที่จะเข้ามาแทนที่เฮลิคอปเตอร์ UH-1 Iroquois (ฮิวอี้) โดยอาศัยจากประสบการณ์และบทเรียนในสงครามเวียดนาม
สหรัฐฯ ตระหนักว่าต้องการเฮลิคอปเตอร์ใหม่ที่มีความสามารถสูงขึ้นทั้งด้านประสิทธิภาพและความสามารถในการเอาตัวรอดในสนามรบ
โครงการนี้ถูกกำหนดภายใต้ชื่อ UTTAS (Utility Tactical Transport Aircraft System) โดย Sikorsky ได้ส่งแบบ S-70 เข้าแข่งขันใช้รหัสต้นแบบคือ UH-60A และในเวลาต่อมาได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะการแข่งขัน
เฮลิคอปเตอร์แบบนี้เข้าประจำการกับกองทัพบกสหรัฐฯ ในปี 1979 และได้รับการตั้งชื่อตามผู้นำสงครามชนพื้นเมืองอเมริกัน
ว่าด้วยเรื่องคุณสมบัติหลัก Black Hawk เป็นอากาศยานที่มีความน่าเชื่อถือสูงและมีการอัปเดตคุณลักษณะต่างๆ จากรุ่นก่อนหน้า
มันมีคุณลักษณะเด่นคือใช้เครื่องยนต์คู่ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานในอุณหภูมิสูงและร้อน, มีโครงสร้างที่ทนทานต่อการกระแทก, มีระบบเชื้อเพลิงที่ทนทานต่อการชน, และระบบใบพัดโรเตอร์หลักและหางที่แข็งแกร่งและเงียบกว่า
ใช้เครื่องยนต์ Turboshaft General Electric T700-GE-701C หรือ D สองเครื่อง กำลังขับเคลื่อนเครื่องละ 1,890 แรงม้า สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 294 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระยะการรบ 590 กิโลเมตร และเพดานบินปฏิบัติการ 19,000 ฟุต สามารถบรรทุกทหารได้ 11 นาย หรือเปลพยาบาล 6 คน และสัมภาระได้ 1.45 ตัน
Black Hawk กองทัพบกไทย
โดยส่วนใหญ่ฮ.แบบดังกล่าวจะติดอาวุธด้วยปืนกล M240, ปืนกล M134 Minigun, หรือปืนกล GAU-19 (ขนาด 12.7 มม.) โดยติดตั้งได้ 2 กระบอกสำหรับพลปืน 2 นาย นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งจรวด Hydra ขนาด 70 มม., ขีปนาวุธนำวิถีอากาศสู่พื้นด้วยเลเซอร์ AGM-114 Hellfire ได้สูงสุด 4 ลูก, หรือขีปนาวุธ AIM-92 Stinger จำนวน 2 ลูกได้
▶️การปฏิบัติการจริง
UH-60 Black Hawk ถูกใช้งานในการต่อสู้ครั้งแรกในปฏิบัติการบุกเกรนาดาในปีค.ศ.1983 การบุกปานามาในปีค.ศ.1989 และเข้าร่วมในภารกิจโจมตีทางอากาศในสงครามอ่าวปีค.ศ. 1991
เหตุการณ์ "Black Hawk Down": เหตุการณ์ที่ทำให้ Black Hawk เป็นที่รู้จักในวงกว้างคือ Operation Gothic Serpent ในโซมาเลีย
ปีค.ศ 1993 เฮลิคอปเตอร์ Black Hawk สองลำ (Super 61 และ Super 64) ถูกยิงตกด้วยจรวดประทับบ่า RPG-7 เหตุการณ์นี้ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ ถูกจับตัวไป และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ รวมถึงการถอนตัวจากโซมาเลียในปีค.ศ. 1995
การพัฒนาของ Black Hawk เป็นไปอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือสงครามและภัยคุกคามยุคใหม่
สหรัฐฯ ได้พัฒนามาจนถึง รุ่น M ซึ่งได้รับการอนุมัติในปี 2001 รุ่นใหม่ๆ ได้รับการอัปเกรดใบพัด เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุมการนำทาง และระบบควบคุมการบินใหม่
ยิ่งไปกว่านั้นการอัพเกรดทำให้เกิดรุ่นล่องหน (Stealth) ตามข้อมูลจากวอร์โซน เรื่องราวสงครามเปิดเผยว่ากองทัพสหรัฐฯ ยังมีการดัดแปลงอย่างลับๆ โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ MH-60 Black Hawk ในปฏิบัติการพิเศษเพื่อสังหารโอซามา บิน ลาเด็น ในปี 2011 เฮลิคอปเตอร์นี้สามารถหลบเลี่ยงเรดาร์ของปากีสถานและมีความเงียบกว่า UH-60 ทั่วไปอย่างมาก
ชื่อ Black Hawk ในกองทัพบกไทยใช้ชื่อว่าเฮลิคอปเตอร์ทั่วไปแบบที่ 60 (ฮ.ท.60)
ปัจจุบัน Black Hawk ยังคงถือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นที่ต้องการของนานาประเทศ โดยมีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยของรุ่น UH-60L อยู่ที่ประมาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 220 ล้านบาทต่อลำ
▶️กองทัพสยามกับการใช้งาน Black Hawk
กองทัพบกไทยเริ่มจัดหา Black Hawk ครั้งแรกในปีค.ศ.2001 จำนวน 7 ลำ และมีการจัดหาเพิ่มเติมดังนี้:
➡️ปีค.ศ.2010 จัดหารุ่น L เพิ่มเติม 3 ลำ
➡️ปีค.ศ.2014 จัดหารุ่น M เพิ่มเติม 3 ลำ
➡️ปีค.ศ.2018 มีการแลกเปลี่ยนซากเฮลิคอปเตอร์ CH-47D Chinook 6 ลำกับ UH-60A มือสอง 3 ลำ ที่เคยประจำการในกองทัพบกสหรัฐฯ มาแล้ว
นอกจากจะใช้ในการปฏิบัติการทางทหารมันมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะเมื่อวันที่ 4 มกราคมค.ศ.2019 พายุโซนร้อนปาบึก ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งแล้วที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ด้วยความเร็วลม 75 กม./ชม. จากนั้นมันได้เคลื่อนต่อไปยัง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลให้พื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช มีฝนตกหนัก
ด้วยความเร็วของลม 75 กม./ชม. อาจส่งผลกระทบให้หลังคาบ้านเรือนประชาชนพัดปลิว ต้นไม้หักโค่น ประชาชนรูปร่างเล็กไม่ควรอยู่กลางที่แจ้ง ในขณะที่มีลมพายุ เพราะอาจทำให้ไม่สามารถประคองตัวอยู่ได้
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รมน.) รายงานว่า กองทัพบก ได้มีคำสั่งจัดอากาศยานปีกหมุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุปาบึก ประเภท ฮ.ท.17 (Mi17) จำนวน 1 ลำ และ ฮท.60 (Black Hawk) อีก 1 ลำ ออกจากศูนย์การบินทหารบก ลพบุรี เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่
เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กบินอยู่เหนือปืนใหญ่
สำหรับอุบัติเหตุครั้งใหญ่เคยเกิดขึ้น 2 ครั้งในประเทศ ไทยครั้งแรกคือวันที่ 19 กรกฎาคมค.ศ. 2011 มีเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กหมายเลข 6928 บินเข้าไปรับศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ ที่เสียหลักหมุนคว้างพุ่งชนภูเขา ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมาเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมปีเดียวกัน
วันนั้นนำทีมโดย พลตรีตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9 แต่เจอทัศนวิสัยไม่ดีกะทันหัน จนเกิดอุบัติเหตุชนภูเขาที่มีความลาดชันระดับ 80 องศา ใกล้จุดเกิดเหตุที่เฮลิคอปเตอร์ลำแรกตก ประมาณ 2 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 9 ศพ
ถัดมาไม่กี่วันเฮลิคอปเตอร์เบลล์ 212 ของศูนย์การบินกองทัพบก กำลังบินไปลำเลียงศพผู้เสียชีวิต แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกอีกเป็นลำที่ 3 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมปีเดียวกัน มีผู้เสียชีวิตอีก 3 ศพ และบาดเจ็บ 1 ราย ทำให้ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม ถึง 24 กรกฎาคมปีค.ศ.2011 มีผู้เสียชีวิตในป่าแก่งกระจานจากอุบัติเหตุทางเฮลิคอปเตอร์ 17 ศพ สร้างความเศร้าโศกให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก
จากรายงานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปผลว่า เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำแรกประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากสภาพอากาศ โดยเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก สันนิษฐานว่าเป็นการตกแบบหงายท้อง เพราะล้อยางไม่แตก ส่วนเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ลำที่ 3 เสียการทรงตัว และสูญเสียการบังคับจากปัญหาคันบังคับเลี้ยวขัดข้อง
เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กที่สนามบินทหารเรือสงขลา
ต่อมาวันที่ 15 กรกฎาคมค.ศ.2022 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีเหตุการณ์
เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอล์คของกองทัพบกไทย ลงจอดฉุกเฉินกลางสวนยางพาราของชาวบ้านหมู่ที่1 บ้านคลองยน ตำบลวังใหญ่ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลานั้น
ประกอบด้วย 1. พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) มีอาการบาดเจ็บกระดูกสะโพกขวาหัก มีเลือดออกภายใน 2. พันตรีประสาร ด้วงชาญ 3. ร้อยเอกวิสารท์ ชูสังกิจ มีอาการกรามหัก กระดูกแขนหัก 4. ร้อยโทณัท โสหากาค์ 5. จ่าสิบเอกพิทณุ พันเต 6. จ่าสิบเอกธีรพงษ์ คูหาแก้ว 7. สิบโทพีระวิทย์ โอสถเจริญ
สำหรับเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอล์คของกองทัพภาคที่ 4 ที่ลงจอดฉุกเฉินกลางสวนยางพาราของชาวบ้านหมู่ที่1 บ้านคลองยน ตำบลวังใหญ่ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลานั้น เป็นเฮลิคอปเตอร์แบบใช้งานทั่วไปแบบที่ 60 (ฮ.ท.60) รุ่นแอล โดยลำแรกเข้าประจำการครั้งแรกในปี ค.ศ.2002
ทั้งนี้เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ ฮ.ท.60 (Blackhawk) หมายเลข 7003 ที่ตกเป็นลำที่ 2 แล้วจากการสูญเสียครั้งใหญ่และเป็นรุ่นเดียวกับที่มาล็อตแรก จำนวน 4 ลำ เมื่อปีค.ศ. 2002 และลำแรกที่รับมอบได้เกิดอุบัติเหตุตกที่อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรีเมื่อปีค.ศ.2011 และลำที่ 2 ในวันที่ 15 กรกฎาคมค.ศ.2002 ได้ตกที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
จำนวน Black Hawk ในปัจจุบันรวมแล้ว ณ ขณะนี้ ถ้าอิงตามข้อมูลจากเพจ Military Weapons อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารพบว่า
ในปัจจุบันกองทัพบกไทยมีเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบที่ 60 (Black Hawk) ในประจำการรวม 18 ลำ แบ่งเป็นดังนี้
ก่อนหน้านี้ทุกท่านทราบดีว่า กองทัพบกไทยมี UH-60 ประจำการรวม 16 ลำ แบ่งเป็น
- 10 x Sikorsky UH-60L Black Hawk
- 3 x Sikorsky UH-60M Black Hawk
- 3 x Sikorsky UH-60A Black Hawk
UH-60M รุ่นที่ทันสมัยที่สุดของกองทัพบกไทย
ในจำนวน 16 ลำนี้ UH-60L ได้ประสบอุบัติเหตุตก 1 ลำ ในปีค.ศ.2011 (แก่งกระจาน) และในปีค.ศ.2022 อีก 1 ลำ ทำให้เหลือรวมกัน 14 ลำ แบ่งเป็น
- 8 x Sikorsky UH-60L Black Hawk
- 3 x Sikorsky UH-60M Black Hawk
- 3 x Sikorsky UH-60A Black Hawk
ในปีค.ศ. 2022 กรมการขนส่งทหารบก ออกประกาศเผยแพร่ การจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณปี 2022 โดยจะมีการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ 60 รุ่น A 9 ลำ พร้อมอุปกรณ์ประกอบ ภายใต้โครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป (ระยะที่ 2) จากประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมโรงเก็บอากาศยาน 2 หลัง รวมเป็นเงิน 3,179 ล้านบาท
ซึ่งได้ทำการยกเลิกโครงการไม่ได้รับการจัดซื้อ หากจัดซื้อจริง + UH-60M ที่ได้รับมอบ 4 ลำ ในปีค.ศ. 2023 จะทำให้ทบ.ไทยมี UH-60 รุ่นต่าง ๆ ในปัจจุบันนี้ รวม 27 ลำ แบ่งเป็น
- 8 x Sikorsky UH-60L Black Hawk
- 7 x Sikorsky UH-60M Black Hawk
- 12 x Sikorsky UH-60A Black Hawk
ในปีค.ศ.2025 มีการจัดหา UH-60M Black Hawk เพิ่มเติม จำนวน 3 ลำ ในปีงบประมาณค.ศ. 2025 ของกองทัพบกไทย โครงการที่ถูกส่งเข้าพิจารณาในสภาแล้ว อย่างไรก็ตามได้ถูกรัฐบาลตัดงบในปีงบประมาณปี 2025
หากปีงบประมาณ 2025 กองทัพบกไทยได้รับอนุมัติให้จัดซื้อ UH-60M เพิ่มอีก 3 ลำนั้น จะทำให้ในอนาคตอันใกล้ทบ. จะมี UH-60 รุ่นต่าง ๆ รวม 21 ลำ ดังนี้
- 8 x Sikorsky UH-60L Black Hawk
- 10 x Sikorsky UH-60M Black Hawk
- 3 x Sikorsky UH-60A Black Hawk
ซึ่งกองทัพบกเอง ก็ยังต้องเดินหน้าโครงการต่อ โดยการทยอยจัดซื้อเพิ่มอีก 11 - 12 ลำ ในปีงบประมาณถัด ๆ ไป เพราะตามแผนทบ. ต้องการ UH-60 ทั้งหมด 32 - 33 ลำครับ
ข้อมูลจำเพาะ เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบที่ 60 ฮ.ท.60 (Black Hawk)
ผู้สร้าง : บริษัท SIKORSKY AIRCRAFT ประเทศสหรัฐอเมริกา
ประเภท : เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป
เครื่องยนต์ : T-700-GE-701C เทอร์โบชาฟ จำนวน 2 เครื่องยนต์
การบรรทุก :
น้ำหนักเปล่า 11,500 ปอนด์
น้ำหนักบรรทุกภายนอก 9,000 ปอนด์
น้ำหนักรวมพร้อมวิ่งขึ้น 22,000 ปอนด์
สมรรถนะและขีดความสามารถ
ความเร็วสูงสุด : 193 นอตหรือ277 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ความเร็วเดินทาง : 120-150 นอต หรือ 222-277 กม.ชม.
พิสัยบิน : 320 ไมล์ทะเล หรือ 592 กิโลเมตร
เพดานบิน : 17,760 ฟิต หรือ 5,413 เมตร
บินได้นาน : 2 ชั่วโมง 20 นาที
จำนวนที่นั่ง : 11 ที่นั่ง ไม่รวมนักบินและช่างอากาศยาน
ใช้เชื้อเพลิง : เจ.พี.8 และ Jet A1
ความจุถังเชื้อเพลิง : 1,363 ลิตร
อัตราสิ้นเปลือง : 600 สิตรต่อชั่วโมง
 
ราคา : 500 ล้านต่อลำ
ประจำการที่ : ศูนย์การบินทหารบกจังหวัดลพบุรี
นี่คือเรื่องราวของเฮลิคอปเตอร์ที่ชาวไทยทุกท่านคุ้นเคยกันดี แม้จะไม่ได้ติดอาวุธสำหรับรบในแนวหน้าแต่มันก็เป็นกำลังรบสำคัญของกองทัพบกไทย ในการขนส่งทหารเข้าสู่แนวหน้า หรือการช่วยเหลือประชาชนเมื่อมีภัยพิบัติเกิดขึ้น แม้แต่การเป็นเฮลิคอปเตอร์ V.I.P. สำหรับขนส่งบุคคลสำหรับทางการทหารและทางการเมือง มันก็ทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีเช่นกัน สำหรับบทความนี้ขอปิดท้ายด้วยภาพ UH-60M กองทัพบกไทยให้ทุกท่านได้รับชมกัน ขณะนี้ผู้เขียนขอลาไปก่อนสวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
วอร์โซน เรื่องราวสงคราม
Military Weapons อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร
ตากล้องสายชิล
Kapook
ศูนย์การบินทหารบก
Thanawat Wongsaprom
Thaiarmedforce
เรียบเรียงบทความ : จ่าหวาน เกรียงไกร
โฆษณา