เมื่อวาน เวลา 09:33 • ไลฟ์สไตล์
ความสุขมีหลายแบบ, หลายระดับนะครับ
-แบบในทางโลก ส่วนใหญ่คือการที่ตัณหาได้รับการตอบสนอง
-แบบในทางธรรม, มีหลายระดับ
ผมยกบทความ, และคลิปเสียงมาให้ลองดูกันครับ
ใส่เครื่องหมายดอกจันไว้ให้นะครับ
(ข้อความบางส่วน)
...เพราะสงัดจากกามและสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย จึงบรรลุฌานที่ ๑ มีวิตกวิจาร
*มีปีติและสุข อันเกิดแต่วิเวก แล้วแลอยู่,
เพราะสงบวิตกวิจารเสียได้ จึงบรรลุฌานที่ ๒ เป็นเครื่องผ่องใสในภายใน เป็นที่เกิดสมาธิแห่งใจ ไม่มีวิตกวิจาร
*มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่,
เพราะความจางแห่งปีติ ย่อมอยู่อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ
*เสวยสุขด้วยนามกาย
บรรลุฌานที่ ๓ อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้ากล่าวว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข,
และเพราะละสุขและทุกข์เสียได้ เพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน
จึงได้บรรลุฌานที่ ๔ อันไม่ทุกข์ไม่สุข มีแต่ความที่มีสติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่
"พราหมณ์เอย...
ภิกษุเหล่าใดที่ยังเป็นเสขะ คือยังต้องทําต่อไป ยังไม่บรรลุอรหัตตมรรค ยังปรารถนานิพพานอันเป็นที่เกษมจากโยคะ ไม่มีอื่นยิ่งไปกว่าอยู่
คำสอนที่กล่าวมานี้แหละ เป็นคำสอนสำหรับภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น"
ที่มา
"ทรงมีหลักเกณฑ์การฝึกตามลำดับ อย่างย่อ"
โฆษณา