19 ก.ย. เวลา 09:47 • ดนตรี เพลง

[รีวิวอัลบั้ม] Lonely At The Top - Joey Bada$$ >>> เงียบเหงาขั้นสุด

-เห็นชื่ออัลบั้มก็สัมผัสได้ถึงพลังงานความหยิ่งทะนงที่เรียกความหมั่นไส้จากสาวก Kendrick Lamar ได้เพียบ ประมาณว่า เนี่ยหรอแร็ปเปอร์ตัวท็อป การที่แร็ปเปอร์ถิ่นบรู๊คลิน Joey Bada$$ ปีนเกลียวอยากท้าทาย Kendrick ให้ Diss กลับมาที่ตัวเองบ้าง นอกจากจะไม่มีสัญญาณตอบกลับจากปลายสายแล้ว อัลบั้มล่าสุดนี้ก็มาทรงบุ๊นชวนหลับสบายชนิดที่น่าเอาไปแซวและหัวเราะเยาะกันให้ดังลั่นไปเลย
-ตอนที่เจ้าตัวดราม่าเรื่องค่ายเพลงต้นสังกัด Columbia Records กั๊กการปล่อยอัลบั้มให้ล่าช้าทั้งๆที่เจ้าตัวเคลมเองด้วยว่า ซีดีไวนิลต่างๆเตรียมแพ็คพร้อมส่งเลยด้วยซ้ำ แรกๆก็รู้สึกเห็นใจ ต่อมาก็ไม่แปลกใจว่าทำไมโดนค่ายหมางเมินมากขนาดนี้
-ไม่อยากมอง Joey ในแง่ร้าย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากคุณไม่ใช่แร็ปเปอร์ที่เสียงดังพออยู่แล้ว ต่อให้ปล่อยผลงานที่คิดว่าลุ่มลึกสุดๆ การทำการตลาดไม่มีทางขึ้น มันจะกลายเป็นความเงียบเหงาที่ไม่มีพลังในที่สุด และนี่คือบทเรียนที่นำมาซึ่งยอดขายที่ต่ำเตี้ยแค่ 9 พันกว่ายูนิตเท่านั้นในสัปดาห์แรก
-ต่อให้ Lonely At The Top จะไม่ใช่ Jazz Rap / Boom-Bap ที่ขี้เหร่จนฟังไม่ได้ อยู่ในระดับที่ย่อยง่ายเลยแหละ แต่ผมยังไม่รู้สึกถึงพลังโน้มน้าวที่มากพอทำให้เชื่อได้ว่า นี่คือ “หมาป่าเดี่ยวดาย” ที่คมคายและสมบุกสมบันเกินกว่าจะมองข้าม
-กว่าจะเข้าเรื่องก็ช้าเอื่อยๆเนิ่บๆตั้งแต่แทร็คแรก DARK AURA ที่ดูยังไงก็ไม่เชื่อว่า เขาคนนี้จะเปล่งแสงในยุคมืดได้เจิดจรัสขนาดนั้น เป็นความเพื่อชีวิตที่เจือด้วยท่วงทำนองสุด cinematic ที่แอบจมเหมือนโดนกดลงจนไม่สามารถ lift up ความรู้สึกได้อย่างเชิดหน้าเชิดตา ไม่สมเป็นแทร็คเปิดอัลบั้มหรือซิงเกิ้ลที่ชูโรงมากเท่าไหร่นัก
-LONELY AT THE TOP เป็นทั้งไตเติ้ลแทร็คและแทร็คปิดอัลบั้มที่ควรจะหนักแน่นจนรู้ซึ้งถึงความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจบางอย่าง แต่การเอาท่อนฮุกของเพลงสุดคลาสสิค Moment of Truth ของ Gang Starr มาย้ำเป็นท่อนฮุกของตัวเองก็ออกแนวมักง่ายที่ไม่ได้สรุปใจความสำคัญด้วยภาษาของตัวเอง เป็นการจบอัลบั้มฮิปฮอปที่เงียบเหงาที่สุดเท่าที่เคยฟังมา ไม่ได้สัมผัสถึงความมีคลาสเรียบหรูอะไรมากมาย
-แต่ใช่ว่าผมไม่ชอบเพลงแร็ปโหมดช้าๆเนิ่บๆในงานชุดนี้เสมอไป มันมีเพลงที่ฟังดูดีจริงๆอย่าง SWANK WHITE เนี่ยคือความเปล่งประกายที่ผมตามหา มันเป็นการบาลานซ์ความ swag และการเล่นสำบัดสำนวนที่โคตรเท่ห์ บีทก็ละเมียดละไมชวนพริ้ม Westside Gunn ยังคงเคมีเข้าขากับ Joey และไม่ทำตัวเสียงดังโหวกเหวกโวยวายพร่ำเพรื่อ ลดละบู๊ มาทางสายบุ๊นก็เฉิดฉายได้เช่นนี้
-SPEEDIN’ THROUGH THE RAIN บีทมาแนวหมาจ๋อย แต่เป็น pure rap ที่เล่านิทานการฝ่าห่าฝนด้วยความรู้สึกร้อนรุ่มราวกับตกนรกทั้งเป็น เปรียบเปรยได้เพลิดเพลินยิ่งกว่าการที่เขาเอาสมัครพรรคพวกคนบ้านบรู๊คลินในเพลง BK’S FINEST เสียอีก การทดลองบอสซ่าอย่าง UNDERWATER ก็ดูดีมีมิติที่แปลกใหม่ น่าสนใจยิ่งกว่าโหมด Pop Rap ธรรมดาอย่าง READY TO LOVE และ 3 FEET AWAY ที่ออกแนวเพลย์เซฟวกวนเหมือน Drake ยุคปัจจุบัน
-มันจะมีจุดสังเกตที่น่าสนใจอย่างนึงในทุกอัลบั้ม Joey นั่นก็คือ การทำให้เพลงรองสุดท้ายกลายเป็นไฮไลต์เด็ด เผลอๆดียิ่งกว่าเพลงปิดอัลบั้มจนน่าแปลกใจ เช่นเดียวกันในอัลบั้มนี้ที่มี STILL เหมือนกับที่อัลบั้ม 2000 ที่มีเพลง Survivor’s Guilt เป็นเพลงรองสุดท้ายนั่นแหละ
โดย STILL เป็นเพลง trinity ที่โปรดักชั่นของ Statik Selektah ช่างตรึงอารมณ์จริงจังขึงขังได้แข็งแรงจนน่าขนลุก lyrics ก็โคตรดีประหนึ่งการรวมตัวของสามประสานแทบไม่มีอะไรจะเสีย นอกจากอุดมการณ์ในการทำเพลงต่อไป
A wise man once said that it was written
But I don't need a pen, I see the writings on the wall, call it superstition
I got that Stevie vision
Yeah, and this is a song in the key of my life
STILL - Joey Bada$$'s verse
Joey โยงเพลงของ Nas, Stevie Wonder มาเป็น quote ได้คมกริบ การ trade bar สุดเจ๋งของ Ab-Soul ที่ยังดีที่ไม่หักกับ Joey มาพร้อมกับ verse หักดิบแอลกอฮอลล์และการเป็นพ่อคนในเวอร์ชั่นที่ดีสุดให้กับลูกสาว ส่วนท่อนฮุก vocal ที่น้อยนิดไร้การแร็ปของ Rapsody กลับได้มากในแง่ของการตอกย้ำถึงจุดยืนของแร็ปเปอร์ underrated ทั้งสามคน
-ผมมักบอกเสมอว่า ผมไม่ติดที่ศิลปินจะเปลี่ยนผ่านจาก hardcore สู่ softcore จะให้ hardcore ตลอดก็ไม่ได้ คนฟังก็ควรจะไฝ่หาความลุ่มลึกเพื่อติดตามการเติบโตของศิลปินบ้าง แต่ถ้าบาลานซ์ตัวตนเก่าๆเข้ากับตัวตนยุคปัจจุบันได้ก็จะดีมากๆ สำหรับ Lonely At The Top ไม่ผิดที่จะเปลี่ยนผ่านตามนั้น แต่ดันมองข้ามการบาลานซ์ตัวตนสมบุกสมบันเข้ากับความสุขุมลุ่มลึกไปอย่างน่าเสียดาย
-เพลงที่ควรจะเป็นโหมดสนุกเต็มสูบให้พอเนื้อเต้นอย่าง SUPAFLEE และ HIGHROLLER กลับไม่ใช่เพลงที่ผมเอ็นจอยได้อย่างตรงจริตมากนัก บีทโคตรคลีเช่เลยครับ โฟลว์มีความครึ่งๆกลางๆ เหมือนแกตั้งใจละเลยเพื่อที่จะให้รู้ว่า กูมาแนวบุ๊นไม่ได้มาแนวบู๊ ซึ่งผมมองว่า ถ้าพี่เปิดช่องขนาดนี้ แล้วจะกั๊กไปทำเพื่อ?
-พลัง Passion กลายเป็นสิ่งที่ขาดหาย Joey ที่ผมได้ติดตามมาโดยตลอด แกเป็นแร็ปเปอร์ Old School ที่ดูดีเป็นความหวังในการอุ้มชูสาย lyricist rapper ให้คนยุค Gen Y อย่างเราได้คล้อยตามอย่างมีสาระบ้าง ท่ามกลางกระแส mumble rap ที่เน้นฟิลลิ่งดิบมากกว่าเน้นฟังภาษาคนรู้เรื่องกลับได้ซีนเด่นจน Kendrick ยังลงไปเล่นกับ Playboi Carti ด้วย แต่การกลับมาของพี่ Joey รอบนี้…แค่นี้จริงๆหรอ ไม่สมกับการเป็นตัวตึงเลย
โดดเดี่ยวเดียวดายต่อไป
Top Tracks: SWANK WHITE, UNDERWATER, SPEEDIN' THROUGH THE RAIN, STILL
Give 6/10
Thx 4 Readin’
See Y’all
โฆษณา