-ตอนที่เจ้าตัวดราม่าเรื่องค่ายเพลงต้นสังกัด Columbia Records กั๊กการปล่อยอัลบั้มให้ล่าช้าทั้งๆที่เจ้าตัวเคลมเองด้วยว่า ซีดีไวนิลต่างๆเตรียมแพ็คพร้อมส่งเลยด้วยซ้ำ แรกๆก็รู้สึกเห็นใจ ต่อมาก็ไม่แปลกใจว่าทำไมโดนค่ายหมางเมินมากขนาดนี้
-ต่อให้ Lonely At The Top จะไม่ใช่ Jazz Rap / Boom-Bap ที่ขี้เหร่จนฟังไม่ได้ อยู่ในระดับที่ย่อยง่ายเลยแหละ แต่ผมยังไม่รู้สึกถึงพลังโน้มน้าวที่มากพอทำให้เชื่อได้ว่า นี่คือ “หมาป่าเดี่ยวดาย” ที่คมคายและสมบุกสมบันเกินกว่าจะมองข้าม
-กว่าจะเข้าเรื่องก็ช้าเอื่อยๆเนิ่บๆตั้งแต่แทร็คแรก DARK AURA ที่ดูยังไงก็ไม่เชื่อว่า เขาคนนี้จะเปล่งแสงในยุคมืดได้เจิดจรัสขนาดนั้น เป็นความเพื่อชีวิตที่เจือด้วยท่วงทำนองสุด cinematic ที่แอบจมเหมือนโดนกดลงจนไม่สามารถ lift up ความรู้สึกได้อย่างเชิดหน้าเชิดตา ไม่สมเป็นแทร็คเปิดอัลบั้มหรือซิงเกิ้ลที่ชูโรงมากเท่าไหร่นัก
-LONELY AT THE TOP เป็นทั้งไตเติ้ลแทร็คและแทร็คปิดอัลบั้มที่ควรจะหนักแน่นจนรู้ซึ้งถึงความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจบางอย่าง แต่การเอาท่อนฮุกของเพลงสุดคลาสสิค Moment of Truth ของ Gang Starr มาย้ำเป็นท่อนฮุกของตัวเองก็ออกแนวมักง่ายที่ไม่ได้สรุปใจความสำคัญด้วยภาษาของตัวเอง เป็นการจบอัลบั้มฮิปฮอปที่เงียบเหงาที่สุดเท่าที่เคยฟังมา ไม่ได้สัมผัสถึงความมีคลาสเรียบหรูอะไรมากมาย
-SPEEDIN’ THROUGH THE RAIN บีทมาแนวหมาจ๋อย แต่เป็น pure rap ที่เล่านิทานการฝ่าห่าฝนด้วยความรู้สึกร้อนรุ่มราวกับตกนรกทั้งเป็น เปรียบเปรยได้เพลิดเพลินยิ่งกว่าการที่เขาเอาสมัครพรรคพวกคนบ้านบรู๊คลินในเพลง BK’S FINEST เสียอีก การทดลองบอสซ่าอย่าง UNDERWATER ก็ดูดีมีมิติที่แปลกใหม่ น่าสนใจยิ่งกว่าโหมด Pop Rap ธรรมดาอย่าง READY TO LOVE และ 3 FEET AWAY ที่ออกแนวเพลย์เซฟวกวนเหมือน Drake ยุคปัจจุบัน