Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
J
Jiratouch Ueasiriwatthanachai
•
ติดตาม
21 ก.ย. เวลา 06:23 • การศึกษา
กฎหมายอาญาน่ารู้ : โทษทางอาญากับผู้กระทำความผิดที่เป็นเด็กและเยาวชน
เด็กหรือเยาวชน เป็นกลุ่มบุคคลที่อยู่ในวัยของการเรียนรู้ การเจริญเติบโต ซึ่งเป็นไปได้ว่า บุคคลในช่วงวัยดังกล่าวยังอาจขาดรู้สึกผิดชอบชั่วดี การใช้อารมณ์ หรือการกระทำใดๆที่ยังขาดการคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบหากเทียบกับวัยผู้ใหญ่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย อาทิ การเลี้ยงดู สภาพครอบครัว การอบรมสั่งสอน เป็นต้น
กฎหมายจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการกำหนดสภาพสังคมให้บุคคลทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข โดยกฎหมายจะเข้ามาเป็นเครื่องมือหนึ่งในการควบคุม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้มาตรการลงโทษทางอาญาแก่ผู้กระทำความผิด
ปัญหาคือ หากผู้กระทำความผิดเป็นเด็กหรือเยาวชน กฎหมายจะกำหนดโทษทางอาญาอย่างไร
เพื่อเข้าใจมากขึ้น อยากให้จินตนาการภาพไว้ว่า เด็กกับผู้ใหญ่ ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถ สิทธิและหน้าที่ รวมถึง ความรับผิดทงกฎหมายด้วย ดังนั้น แม้จะเป็นการกระทำผิดแบบเดียวกัน หากความผิดนั้น คดีหนึ่งผู้ใหญ่เป็นผู้กระทำ แต่อีกคดีหนึ่ง เด็กหรือเยาวชนเป็นผู้กระทำ ให้เข้าใจในเบื้องต้นว่า กำหนดระวางโทษย่อมไม่เหมือนกัน ซึ่งประมวลกฎหมายอาญาได้ระวางโทษไว้เป็นการเฉพาะสำหรับเด็กและเยาวชน โดยสามารถจำแนกออกได้เป็น 4 กรณี โดยพิจารณาตามช่วงอายุของผู้กระทำความผิดดังนี้
1.
ผู้กระทำความผิดเป็นเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี กรณีนี้กฎหมายบัญญัติไว้ว่า เด็กอายุไม่เกิน 12 ปีกระทำความผิด ให้ถือว่า เด็กนั้นไม่ต้องรับโทษ เช่น เด็กอายุ 10 ปีเข้าไปขโมยของในร้านสะดวกซื้อ แม้ว่าจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์มีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ แต่เด็กนั้นจะไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานลักทรัพย์ แต่เด็กคนนั้นอาจต้องได้เข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 แทน (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 73)
2. ผู้กระทำผิดเป็นเด็กอายุกว่า 12 ปี แต่ยังไม่เกิน 15 ปี กรณีนี้กฎหมายยังคงบัญญัติว่า เด็กนั้นไม่ต้องรับโทษอยู่เช่นกัน หากศาลอาจใช้วิธีการอื่นแทนการลงโทษ เช่น การว่ากล่าวตักเตือนเด็ก บิดามารดา หรือผู้ปกครองเด็ก เป็นต้น (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74)
3. ผู้กระทำความผิดเป็นบุคคลที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี กรณีนี้บุคคลในช่วงอายุดังกล่าวเป็นบุคคลในช่วงความเป็น "เยาวชน" โดยผู้กระทำผิดจะต้องรับโทษทางอาญาตามฐานความผิดนั้นๆ แต่ศาลต้องพิจารณาถึงความรู้ผิดชอบและปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย อาทิ สิ่งหรือปัจจัยที่กระตุ้นให้บุคคลนั้นกระทำผิด โดยศาลมีทางเลือก 2 กรณีคือ ศาลสามารถไม่ลงโทษผู้นั้นได้แต่ใช้มาตรการอื่นแทนการลงโทษตามมาตรา 74 หรือ ศาลลงโทษบุคคลนั้นแต่ให้ศาลลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75)
4. ผู้กระทำความผิดเป็นบุคคลที่มีอายุ 18 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี มีข้อสังเกตว่า บุคคลในช่วงนี้ได้พ้นสภายวัยเยาวชนแล้ว หากแต่ยังอยู่ในช่วงความเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎฆมายแพ่งและณิชย์อยู่ กล่าวคือ อายุยังไม่เกิน 20 ปี ทั้งนี้หากบุคคลดังกล่าวได้กระทำความผิด ศาลสามารถกำหนดโทษโดยลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นลง 1 ใน 3 ส่วน หรือลดโทษครึ่งหนึ่งก็ได้ (มาตรา 76)
จะเห็นได้ว่า ด้วยเพราะความเป็นเด็ก ความอ่อนต่อโลก อ่อนต่อประสบการณ์ ทุกๆการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นอาจมิได้เกิดจากความชั่วร้ายของเด็กหรือเยาวชนนั้นๆโดยตรง หากแต่เกิดจากปัจจัยภายนอกหรือปัจจัยแทรกซ้อนซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นเด็กหรือเยาวชนให้กระทำผิดได้ ดังนั้น กฎหมายจึงควรเป็นสิ่งที่ใช้สำหรับการป้องกันปัญหามากกว่าการลงโทษให้หลาบจำ เพราะเชื่อว่า เด็กหรือเยาวชนย่อมจะสามารถปรับปรุงและพัมนาตนเองและกลับเข้ามาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติเฉกเช่นคนทั่วไป
บันทึก
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย