22 ก.ย. เวลา 05:09 • ท่องเที่ยว

ถอดรหัส 3 บิ๊กธุรกิจทรานส์ฟอร์มท่องเที่ยวไทย มองไกลกว่าการฟื้นตัว

3 บิ๊กธุรกิจกูรูด้านการท่องเที่ยว ทั้ง ไมเนอร์ ,อโกด้า และการบินไทย ไขกลยุทธทรานส์ฟอร์มท่องเที่ยวไทย มองไกลกว่าการฟื้นตัว สร้างความแข็งแกร่งท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญต่อ GDP ของประเทศไทยมากกว่า 10% ทิศทางในการยกระดับการท่องเที่ยวไทย มองไกลกว่าการฟื้นตัว สู่การสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน เพื่อสร้างการเติบโตที่มีมูลค่าสูง และดึงโอกาสที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์สำหรับการท่องเที่ยวในประเทศไทย มาสร้างความแข็งแกร่งให้การท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน ต้องโฟกัสเรื่องใดบ้าง บิ๊ก 3 ธุรกิจกูรูด้านการท่องเที่ยว ทั้ง ไมเนอร์ ,อโกด้า และการบินไทย มีคำตอบ
ไมเนอร์ ชี้เทรนด์ท่องเที่ยวยั่งยืน-เวลเนส
นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากเกิดโควิด-19 และเริ่มฟื้นตัว เกิดแนวโน้มด้านการท่องเที่ยวใหม่ในประเทศไทย นั่นก็คือการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืนและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ sustainability และ wellness tourism
ในช่วงที่ผ่านมาทางกลุ่มไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เปิด ‘เวลเนส คลินิก ’ เพิ่มขึ้นหลายแห่ง ซึ่งแยกออกมาจากธุรกิจสปา และประสบความสำเร็จอย่างมาก จากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากเที่ยวบินระยะยาว รวมทั้งจากนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง
ทั้งยังได้พบอีกว่านอกจากการมาท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ปัจจัยด้านวัฒนธรรมก็ยังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นด้วย การอนุรักษ์ธรรมชาติให้คงไว้ซึ่งความสวยงาม ยังคงเป็นแรงดึงดูดใหญ่ให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศในเอเชียและตะวันออกกลาง เช่น การเที่ยวภูเขาและเที่ยวชมวัฒนธรรมเลี้ยงช้างในภาคเหนือ การเดินทางเพื่อเยี่ยมชมหาดในภูเก็ตหรือสมุย ธรรมชาติทางทะเลนี้อ่าวมาหยา สิ่งเหล่านี้ล้วนดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมหาศาล
ส่วนเรื่องความยั่งยืนก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มูลค่าการท่องเที่ยวสูงขึ้น แต่นักท่องเที่ยวมักจะต้องจ่ายในราคาสูงและรู้สึกว่าอาจจะถูกเอารัดเอาเปรียบ ทั้งยังต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในยุโรปอาจมีมาตรการที่เข้มงวดและปฏิบัติได้จริง แต่ในเอเชียหรือแม้แต่ตะวันออกกลางยังต้องหาวิธีนำกฎเหล่านั้นมาใช้โดยสมัครใจ
ยกตัวอย่าง ไมเนอร์ มีโปรแกรมที่เรียกว่า ‘Dollar for Deeds’ แขกจะถูกถามโดยสมัครใจ เพื่อเพิ่มเงิน 1 ดอลลาร์ต่อการเข้าพักหนึ่งคืน สำหรับสมทบทุนให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อม
“เรื่องนี้บริษัทเราใส่ใจสิ่งแวดล้อม เป็นอย่างมากและมุ่งมั่นที่จะบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050 ในกลุ่มลูกค้าที่ตอบสนองเรื่องสิ่งแวดล้อมและใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เริ่มมีมากขึ้น แน่นอนว่าผู้ประกอบการยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะภาคธุรกิจโรงแรมและภาคบริการ ที่ต้องสร้างความตระหนักรู้ความร่วมมือเพื่อผลักดันบริษัทไปสู่ความยั่งยืน”
ปัจจุบันบริษัทเติบโตขึ้นมากและกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเน้นสินทรัพย์เป็นหลักและถือกรรมสิทธิ์โรงแรมส่วนใหญ่ทั่วโลก เรียกว่า การขยายตัวแบบ asset light expansion (ขยายธุรกิจโรงแรม โดยเน้นการ รับจ้างบริหารโรงแรม แทนการลงทุนเป็นเจ้าของโรงแรมเอง) การบริหารโรงแรมและการให้สิทธิ์แฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก สิ่งนี้จะส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนและผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของให้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนหนึ่ง และโครงการเหล่านี้ไม่ใช่โครงการทำเอง แต่เป็นที่อยู่อาศัยที่มีแบรนด์ (branded residential) ที่ได้รับค่าสิทธิและค่าธรรมเนียมแบรนด์ มีส่วนช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจทั้งหมด
จี้แก้ปัญหากัมพูชา-เพิ่มบินตรงไทย-ยุโรป
สำหรับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทางผู้ประกอบในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังมีความกังวลเกี่ยวกับปริมาณของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทย และยังมีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก จากปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ (Geopolitics)
ไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียหรือสหภาพยุโรป รวมถึงปาเลสไตน์ เลบานอน เยรูซาเล็ม การปะทะกันระหว่างปากีสถานและอินเดีย และก็เกิดปัญหาขัดแย้งชายแดนกัมพูชามาซ้ำเติมอีก เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ กระทบภาคท่องเที่ยวของไทยและของโลกนักท่องเที่ยวที่เดินทางออกจากกัมพูชาเพื่อมาต่อเที่ยวบินที่ไทยไปยังประเทศต่างๆ ลดลง โดยหันไปใช้เวียดนามแทน
ทั้งนี้การลงทุนภาคเอกชนไทยที่มีมูลค่าสูงมากกำลังได้รับผลกระทบจากกระแสการต่อต้านสินค้าไทยอย่างบริษัท PTT ก็ได้รับผลกระทบ ซึ่งผลกระทบเต็มที่ต่อธุรกิจไทยจะเกิดขึ้นในไตรมาส 3 ปีนี้ หากความขัดแย้งยังไม่คลี่คลาย
อีกทั้งปัญหาหนึ่งของการท่องเที่ยวไทย คือ เที่ยวบินตรงไทย-ยุโรป มีไม่เพียงพอ นักท่องเที่ยวยุโรปต้องบินอ้อมไปต่อเครื่องที่ดูไบทำให้เสียเวลาในการเดินทาง และเมื่อไปถึงดูไบนักท่องเที่ยวก็อาจจะไปใช้เงินมากที่ตะวันออกกลางแทน ภาคธุรกิจโรงแรมจึงเฝ้ารอให้การบินไทยมีเครื่องบินเพิ่ม
อโกด้า เผย AI สร้างความได้เปรียบท่องเที่ยว
Mr. Damien Pfirsch, Chief Commercial Officer จาก Agoda Company กล่าวว่า ในข้อมูลเชิงลึกที่อ้างอิงจาก Agoda จะเห็นว่าประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในที่ 2 ของประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ตามข้อมูลของ Agoda มีอัตราการเติบโต 17% ต่อปี และส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนั้นมาจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และที่อื่น ๆ ในเอเชีย
กรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 2 บน Agoda มีผู้เข้าชมซ้ำมากที่สุดสองปีติดต่อกัน โดยนักท่องเที่ยวมักเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ มากกว่าหนึ่งหรือสองครั้งซึ่งสูงกว่าจุดหมายปลายทางอื่นๆ ในเอเชีย นอกเหนือจากนี้ยังมีภูเก็ตและสมุยที่มีอัตราการเติบโตต่อปีประมาณ 20%
“ปัจจุบันนักท่องเที่ยวอาจจะลดลงในบางแห่ง กลุ่มใหญ่คือนักท่องเที่ยวจีน คาดหวังว่าหากหลายหน่วยงานทำงานร่วมกันจะดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กลับมาได้ในไม่ช้าและสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้สิ้นปี ที่ถือว่าเป็นไฮซีซั่นหรือฤดูหนาวทำให้ประเทศไทยสามารถสร้างเม็ดเงินจากอัตราการเข้าพักที่สูงที่สุด”
ขณะเดียวกันคนที่เดินทางมาประเทศไทย มักมียอดค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ และเมื่อพูดถึงกรุงเทพฯ ในข้อมูลของ Agoda เป็นเมืองที่มีผู้มาเที่ยวซ้ำมากที่สุดมาถึง 7 ปี ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ก็มีด้านที่ลดลงของการท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะจากตลาดจีน ที่เราต้องช่วยกันโปรโมทตลาดจีนให้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในฐานะแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวบริษัทในเครือได้ศึกษาเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืน แต่สำหรับนักเดินทางกว่า 84% ยังไม่มีความสนใจในเรื่องนี้มากนัก และเรื่องนี้ยังเป็นความรับผิดชอบของผู้ประกอบการ ที่จะดำเนินการสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อธุรกิจและจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว
“เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว เราได้เปิดตัว Agoda Sustainability Academy ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ฟรีสำหรับโรงแรม สามารถเข้าสู่ระบบและเรียนรู้เกี่ยวกับแนวปฏิบัติปรับปรุงความยั่งยืน ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอการประหยัดเงินในการดำเนินการ สามารถมีส่วนร่วมในภารกิจที่สำคัญนี้ในการช่วยพัฒนาการเดินทาง พร้อมลดผลกระทบ และยังช่วยปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนและระบบนิเวศของประเทศนั้นๆ ได้ แน่นอนว่าหากลูกค้าเห็นป้ายรับรองในด้านความยั่งยืนน่าจะช่วยเพิ่มอัตราการจองหรือเพิ่มนักท่องเที่ยวได้สูงขึ้น”
สำหรับประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเดียวกันการท่องเที่ยวถือเป็นกุญแจสำคัญ โดยมีอาวุธคือนโยบายวีซ่าที่ถือว่ามีผลอย่างมาก ทำให้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวอินเดียเติบโตสูงขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และนโยบายนี้มาเลเซียก็ได้ใช้เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเช่นกัน รวมถึงเวียดนามที่กำลังเจาะกลุ่มประเทศที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและกำลังเติบโตสูงถึง 78% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ดังนั้นแอพพลิเคชั่นหรือชุดเครื่องมือที่สนับสนุนการเดินทางระหว่างประเทศของลูกค้าคือกลยุทธ์สำคัญ ทำให้บริษัทพัฒนาและเติบโต แน่นอนว่า ai ถือเป็นส่วนหนึ่งและเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่จะต้องนำมาใช้ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสามารถทำความเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้มากกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถือว่าการลงทุนทางด้านเทคโนโลยี AI ช่วยสร้างความได้เปรียบในธุรกิจและให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าในยุคปัจจุบันมีความหลากหลาย
นักเดินทางต่างกระหายข้อมูลและต้องการข้อมูลที่ตอบสนองได้ดี แพลตฟอร์มต่างๆ หรือ AI ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของคู่มือการท่องเที่ยว ภาษาก็ต้องมีความหลากหลายถูกต้อง สอดคล้องกับบริบทของผู้ใช้ เป็นผู้ช่วยในการพูดคุยและวางแผนการเดินทางตั้งแต่ต้นไปจนจบ
การบินไทย ขยาย connect flight เพิ่มฝูงบินใหม่
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา การบินไทยได้ทำแผนงานระยะยาวเพื่อลดแบบของเครื่องบินที่บริษัทใช้ โดยก่อนหน้านี้มีเครื่องบินถึง 8 แบบ แต่ตอนนี้จะลดลงไปเหลือเพียง 4 แบบ เพื่อลดต้นทุนการซ่อมบำรุง นอกจากนี้เรื่องสัดส่วนของการบินแบบ point to point กับการ connect ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เพราะในอนาคตการเดินทางในเอเชียแปซิฟิกจะเติบโตสูงที่สุดในโลก
ดังนั้นจึงออกแบบเที่ยวบินให้เป็นไปตามข้อมูล โดยเฉพาะในครึ่งแรกของปี 2568 สัดส่วนของ direct flight กับ connect flight มาเป็น 80 : 20 % จากที่ก่อนหน้านี้ direct flight สูงมากกว่า 90% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว
“เราสามารถดึงดูดผู้โดยสารจากทั่วทุกมุมโลกมายังกรุงเทพฯได้ และสามารถเชื่อมต่อ ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้เช่นกัน โดยมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารในปัจจุบันประมาณ 77% มากกว่าไตรมาส 2 ในอดีตที่ต่ำกว่า 70% และตอนนี้สามารถผสมผสานการเดินทางไฟลท์บินตรงและไฟลท์เชื่อมต่อได้เป็นอย่างดีสำหรับทุกเที่ยวบิน”
การวิเคราะห์ข้อมูลและนำมาจัดการทางธุรกิจเพื่อให้สามารถและได้รับผลตอบแทนมากขึ้น มีส่วนทำให้สามารถทำกำไรได้มากขึ้นด้วย ในปัจจุบันยังพัฒนาการใช้เครื่องบินที่ปล่อยคาร์บอนต่ำใช้เชื้อเพลิงน้อยลง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และยังปรับเพิ่มประสิทธิภาพทางเส้นทางการบินเหมาะกับการเดินทางในโลกยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
ปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบิน Airbus A320 จำนวน 20 ลำ และได้ปรับปรุงห้องโดยสาร เพิ่มความบันเทิงด้านภาพยนตร์ ฟังเพลง เพื่อให้การเดินทางสำหรับผู้โดยสารราบรื่นแบบไร้รอยต่อ หลังจากนี้จะปรับใช้กับเครื่องบินใหม่ Airbus A321 รวมถึงเครื่องบินโบอิ้งในปัจจุบัน
“ในระยะยาวเราจะได้รับเครื่องบินใหม่รุ่นโบอิ้งอย่างน้อย 45 - 50 กว่าลำ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องสำหรับการเดินทางระยะไกล สามารถแข่งขันกับสายการบินชั้นนำของโลกได้ ซึ่งผมยังไม่สามารถเปิดเผยได้ตอนนี้แต่ถือว่ามีความพร้อมประมาณ 95% แล้ว”
สำหรับความท้าทายของการบินไทยในระยะยาว 10 ปีข้างหน้า คือผลกระทบจากห่วงโซ่การผลิตชะงักงันที่ผ่านมา และเครื่องบินที่มีชิ้นส่วนประกอบนับแสนชิ้น ที่ต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน โรคระบาดโควิดที่ผ่านมา ทำให้ผู้ผลิตลดการผลิต ปลดคนงานออก เมื่อโลกฟื้นจากโควิด ต้องมีการจ้างงานใหม่ แต่คนงานที่ออกไปไม่ยอมกลับมาทำงานเดิม ต้องใช้เวลาในการเทรนคนใหม่
ทำให้บริษัทการบินต่าง ๆ รวมทั้งการบินไทยยังประสบปัญหาจากการขาดแคลนพนักงงาน ปัจจุบันการบินไทยต้องหันมาให้ทุนให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนฝึกนักบินเพื่อที่จะได้คนมาให้ทำงานให้การบินไทยในอนาคต ท่ามกลางการแย่งชิงตัวพนักงานระหว่างสายการบินต่าง ๆ
ขณะที่ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ เช่น การปิดน่านฟ้าของอิหร่านที่ผ่านมา หรือการปิดน่านฟ้ากัมพูชาทำให้ต้องปรับเส้นทางการบิน ต้องบินนานขึ้น ค่าใช้จ่ายน้ำมันมากขึ้น
ในขณะเดียวกันสงครามการค้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นภาษีศุลกากรสูงทั่วโลก ทำให้คนยุโรปและแคนาดาเดินทางไปสหรัฐน้อยลง แต่เดินทางมาแถบเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น ทำให้ การบินไทยได้ประโยชน์จึงถือเป็นโอกาสในวิกฤต
ในส่วนของการดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมา รัฐบาลไทยจะต้องเร่งสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย เพราะคนจีนยังออกท่องเที่ยวต่างประเทศมากแต่เดินทางไปประเทศอื่น มาไทยน้อยลง
ทั้งการบินไทยยังใช้ผลิตภัณฑ์ไทยจำนวนมากที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เริ่มต้นตั้งแต่ชุดพนักงานบนเครื่อง การขวดพลาสติก PET 70% จากขวดพลาสติก PET และ 30% จากผ้าไหม และนำมาผลิตเป็นชุดเครื่องแบบของพนักงาน
แม้กระทั่งเสื้อนักบิน ก็มาจากผ้าที่รีไซเคิลได้ 100% ทั้งหมดนี้เรียกว่า ผลิตภัณฑ์ปลอดขยะ (zerowaste living product) ซึ่งมาจากวัสดุที่ใช้แล้วในเครื่องบิน และอีกหลายอย่าง แม้กระทั่งผู้ขวดน้ำดื่มก็ไม่มีฉลาก นับเป็นการดำเนินการเกี่ยวกับ ESG แบบย่อ
ทั้งหมดล้วนเป็นข้อมูลจากเวทีเสวนา Thailand Focus 2025 Beyond The Challenges ในหัวข้อ “Beyond Recovery: Transforming Thailand’s Tourism for a Sustainable and High-Value Future” ยกระดับการท่องเที่ยวไทย: มองไกลกว่าการฟื้นตัว สู่การสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน ซึ่งฐานเศรษฐกิจ ได้จับประเด็นสำคัญมานำเสนอ
โฆษณา