Seahawk แห่งกองการบินทหารเรือ
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ช่วงนี้หลายท่านอาจคุ้นเคยกับภาพเฮลิคอปเตอร์สังกัดกองการบินทหารเรือ กองทัพเรือไทย ขึ้นบินจากสนามบินอู่ตะเภาพร้อมเพรียงกันเพื่อทำการบินหมู่ในโอกาสเกษียณอายุราชการของข้าราชการทหารเรือทุกท่าน
แม้เฮลิคอปเตอร์ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้จะไม่ได้บินเร็วเมื่อเทียบกับเครื่องบิน F-16 ของกองทัพอากาศที่บินไปหย่อนไข่เหล็กใส่ทหารกัมพูชา แต่มันก็เป็นสุดยอดอากาศยานที่กองทัพเรือใช้งานอย่างคุ้มค่าและใช้งานได้ดีในทุกภารกิจ นี่คือเรื่องราวของ Seahawk เจ้าเหยี่ยวทะเลแห่งกองทัพเรือไทย เรื่องนี้จะน่าสนใจมากน้อยเพียงใดไปติดตามกันได้ครับ
เฮลิคอปเตอร์ S-70B ซีฮอว์ก เป็นอากาศยานปีกหมุนปราบเรือดำน้ำแห่งกองทัพเรือไทยที่มีสมรรถนะสูงผลิตโดยบริษัท Sikorsky สหรัฐอเมริกา
Seahawk เป็นหนึ่งในอาวุธที่มีความทันสมัยของกองทัพเรือ เฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้ถูกจัดหามาตั้งแต่ปีค.ศ. 1997 และมีจำนวนมากกว่า 6 ลำ ปัจจุบันมีอายุการใช้งานเกือบ 30 ปีแล้ว ซีฮอว์กถือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อปฏิบัติภารกิจทางทะเลโดยเฉพาะ
ซีฮอว์กถูกออกแบบมาเพื่อปฏิบัติภารกิจหลักในการไล่ล่าเรือดำน้ำ และการปราบปรามเรือรบที่อยู่บนผิวน้ำ รวมทั้งสามารถติดตั้งอาวุธสำหรับการปราบเรือดำน้ำได้
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้มีศักยภาพสูงและถือเป็นเฮลิคอปเตอร์ตอบโต้เร็วของกองทัพเรือไทย จุดประสงค์หลักในการจัดหาคือเพื่อใช้งานบนเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อย่าง "เรือหลวงจักรีนฤเบศร" เพื่อให้สามารถปฏิบัติการบนเรือหรือเครื่องบิน ตัวเครื่องจึงสามารถพับหางได้ โดยเมื่อพับหางแล้วความยาวจะเหลือเพียง 12.48 เมตร จากความยาวลำตัวปกติ 15.26 เมตร
นอกจากภารกิจปราบเรือดำน้ำแล้ว ซีฮอว์กยังสามารถสนับสนุนกำลังรบทางเรือและนาวิกโยธิน รวมถึงภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล (Search and Rescue : SAR) ได้ด้วย ในภารกิจการลำเลียงพล ซีฮอว์กสามารถบรรทุกทหารได้มากถึง 11 นาย สำหรับการยกพลขึ้นบกหรือการปฏิบัติการรบ
มันใช้เครื่องยนต์ T700-GE-701C จำนวน 2 เครื่อง โดยแต่ละเครื่องให้กำลัง 1,662 แรงม้า
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางโรเตอร์หลักอยู่ที่ 16.36 เมตร และมีความสูง 5.18 เมตร
ในส่วนของความเร็ว มันทำความเร็วได้สูงสุด 180 น็อต และความเร็วเดินทางที่ 130 น็อต มีพิสัยบินไกลสุดที่ 480 ไมล์ทะเล โดยมีรัศมีปฏิบัติการ 200 ไมล์ทะเล
สามารถบินได้นานสูงสุด 4.3 ชั่วโมง มีเพดานบินสูงสุดถึง 13,000 ฟุต และมีอัตราการไต่ระดับ 2,000 ฟุตต่อนาที น้ำหนักที่สามารถทำการขึ้นบินได้สูงสุดคือ 21,884 ปอนด์
เนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อภารกิจปราบเรือดำน้ำโดยเฉพาะ S-70B จึงมีชุดอุปกรณ์การค้นหาเรือดำน้ำที่จัดเต็ม สำหรับระบบตรวจจับเรือดำน้ำนั้น เฮลิคอปเตอร์ซีฮอว์กมีความสามารถในการติดตั้งระบบตรวจจับต่างๆ ได้อย่างมาก
เช่น Dipping Sonar (โซนาร์ชักหย่อน) ใช้ในการตรวจจับหาเรือดำน้ำ
ระบบโซนาร์แบบปล่อยจากอากาศ (Sonobuoy) ระบบตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MAD) ใช้ในการค้นหาเรือดำน้ำที่อยู่ใต้ผิวน้ำ สามารถติดตั้งระบบเรดาร์ค้นหาเพิ่มเติมบนผิวน้ำได้ สามารถติดตั้งระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ซึ่งรวมถึงระบบท็อปสุดจากค่ายสหรัฐฯ
กองทัพเรือไทยได้มีการทดสอบใช้ตอร์ปิโดมาอย่างต่อเนื่องร่วมกับ Seahawk อาวุธที่ใช้ในการปราบเรือดำน้ำ ได้แก่
▶️ตอร์ปิโด Mk. 46 รวมถึงการทดสอบ Mk. 46 Mod 5 พร้อมหัวรบระเบิดจริง
▶️ตอร์ปิโด Mark 50
▶️ตอร์ปิโด Mark 54
▶️อาวุธต่อต้านเรือรบและอาวุธเบา
นอกจากการปราบเรือดำน้ำเเล้ว S-70B ยังมีความสามารถในการติดตั้งอาวุธต่อสู้เพิ่มเติมสำหรับการโจมตีเรือรบ โดยมีอาวุธดังนี้เช่น
▶️จรวดต่อต้านเรือรบ AGM-119B Penguin เวอร์ชันใหม่มีระยะโจมตีไกลกว่า 55 กิโลเมตร และเป็นเทคโนโลยีจากนอร์เวย์
▶️ ขีปนาวุธ AGM-114 HF (รุ่นที่ใช้ระบบเรดาร์ในการค้นหา) สำหรับโจมตีเรือรบที่มีเกราะหนา
▶️ ปืนกล สามารถติดตั้งปืนกลบริเวณข้างลำตัวเครื่องบิน เช่น M60, M240, หรือ GAU-16 โดยปืนกลขนาด 7.62 มม. ที่ประตูใช้สำหรับภารกิจป้องกันตนเองหรือการโจมตีภาคพื้นแบบเบา
แบบถัดมาเป็น MH-60S ไนท์ฮอว์ก (Knighthawk) นอกจาก S-70B แล้วนะฮะ ยังมีรุ่น MH-60S ฉายา Knighthawk ซึ่งเป็นรุ่นที่ต่อยอดแยกย่อยของเฮลิคอปเตอร์ตระะกูลฮอว์ก กองทัพเรือไทยซื้อรุ่นนี้เข้ามาเพื่อใช้ในภารกิจการค้นหาและกู้ภัยเป็นหลัก (Search and Rescue : SAR)
ปัจจุบันมีประจำการอยู่ 2 ลำ จัดซื้อมาในช่วงปีค.ศ.2011 รุ่นนี้คาดว่ามีการติดตั้งระบบตรวจจับโดยละเอียด
เช่น เรดาร์ค้นหาแบบพื้นผิว และระบบแจ้งเตือนภัยรอบตัวเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากขีปนาวุธ อาวุธที่ติดตั้งได้ใช้ตามสไตล์สหรัฐฯ ได้แก่ ปืนกล M60, M240, และ GAU-17 (ขนาด 7.62 มม.) รวมถึงจรวดนำวิถี Hydra 70 หรือปืนใหญ่เจาะเกราะขนาด 20 มม. ก็สามารถติดตั้งได้
สำหรับซีฮอว์ก เป็นอากาศยานปีกหมุนที่มีสมรรถนะและความทันสมัยในระดับต้นๆ ของกองทัพเรือไทย หากจะจัดหาเฮลิคอปเตอร์แบบอื่นมาแทนคงจะต้อใช้เวลาอีกหลายปีเนื่องจากมันยังมีสมรรถนะและมีประโยชน์ต่อกองทัพเรือไทยในหลายๆด้าน
รวมไปถึงการช่วยเหลือภัยพิบัติ เวลาที่ท่านรับชมข่าวผ่านทางทีวีอาจมีบางครั้งที่ท่านเห็นเจ้าเหยี่ยวทะเล Knighthawk และ Seahawk บินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเรือประสบอุบัติเหตุในท้องทะเล นี่สะท้อนให้เห็นว่ากองทัพไทยไม่ได้มีหน้าที่แค่รบเพียงอย่างเดียว เรายังมีหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชนในยามปกติเมื่อไร้สงครามด้วยเช่นกัน
ข้อมูลจำเพาะ Seahawk กองทัพเรือไทย
ลูกเรือ : 3-4 นาย
ความจุ : ผู้โดยสาร 5 คนหรือขนย้ายด้วยสลิงในน้ำหนัก 6 พันปอนด์หรือบรรทุกน้ำหนักภายในได้ 4,100 ปอนด์สำหรับรุ่นบี เอฟ และเอช ส่วนรุ่นเอสบรรทุกผู้โดยสารได้ 11 คนหรือสลิงบรรทุกได้ 9 พันปอนด์
ความยาว : 19.75 เมตร
เส้นผ่าศูนย์กลางใบพัด : 16.35 เมตร
ความสูง : 5.2 เมตร
พื้นที่ในการหมุน : 210 ตารางเมตร
น้ำหนักเปล่า : 6,895 กิโลกรัม
น้ำหนักบรรทุก : 8,055 กิโลกรัม
น้ำหนักของจำเป็น : 3,031 กิโลกรัม
น้ำหนักบินขึ้นสูงสุด : 9,927 กิโลกรัม
ขุมกำลัง : เครื่องยนต์เทอร์โบชาฟท์เจเนรัล อิเลคทริก ที700-จีอี-401ซี สองเครื่องยนต์ โดยให้กำลังเครื่องละ 1,890 แรงม้า
ความเร็วสูงสุด : 333 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ความเร็วประหยัด : 146 นอท
พิสัย : 834 กิโลเมตรที่ความเร็วประหยัด
เพดานบินทำการ : 13,000 ฟุต
อัตราการไต่ระดับ : 2,000 ฟุตต่อนาที
อาวุธ :
ตอร์ปิโด มาร์ก 46 หรือ มาร์ก 50 3 ลูก
ขีปนาวุธเอจีเอ็ม-114 เฮลไฟร์ 4 ลูกสำหรับเอสเอช-60 บีและเอช 8 ลูกสำหรับเอ็มเอช-60เอส บล็อก 3
ขีปนาวุธเอจีเอ็ม-119 เพนกวิน
ปืนกลเอ็ม60 , เอ็ม240
, จีเอยู-16/เอ หรือ จีเอยู-17/เอ
ระบบกวาดทุ่นระเบิดทางอากาศอย่างรวดเร็ว (Rapid Airborne Mine Clearance System) ด้วยการใช้ปืนใหญ่มาร์ก 44 ม็อด 0 ขนาด 30 ม.ม.
ในภูมิภาคอาเซียนจะมีสักกี่ประเทศที่มีประจำการด้วยเฮลิคอปเตอร์ Seahawk บนเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เรียกได้ว่าเป็นของหายากในภูมิภาคนี้ เมื่อเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์แบบแรกและแบบเดียวออกสู่ท้องทะเลเมื่อใด
ทั้ง Seahawk และ Knighthawk พร้อมขึ้นบินเมื่อนั้น แม้ความเร็วจะหาเทียบ F-16 กับ Gripen ได้ไม่ แต่เรื่องภารกิจมันสามารถทำได้ดีทั้งยามศึกและยามสงบ การที่มีเฮลิคอปเตอร์แบบนี้ใช้งานมันไม่ได้สื่อถึงว่าเราซื้อมาแล้วไร้ประโยชน์ เราซื้อมาใช้เพราะเพื่อต้องการให้กองทัพเรือมีขีดความสามารถในทุกมิติและรับมือสถานการณ์ใหม่ๆในยุคนี้ได้ หากไม่มีการจัดหา Seahawk ก็คงจะเป็นไปได้ยากที่จะเห็นกองทัพเรือพัฒนามาถึงจุดๆนี้
สุดท้ายนี้ผู้เขียนขอปิดท้ายด้วยภาพ S-70B Seahawk และ MH-60S Knighthawk จากกองทัพเรือไทยสำหรับ FC ทหารไทยทุกท่าน ขณะนี้ผู้เขียนขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
WHUTCHANUNT PUTCHARINYA
Kittidej Sanguantongkham
MILITIA-WOLRD
Blue Phoenix
วิกิพีเดีย
กองทัพเรือไทย
Piyachat Kik Kaelong
เรียบเรียงโดย : เบิ้ล ตาควาย
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
