22 ก.ย. เวลา 09:15 • ข่าวรอบโลก

โดนคว่ำบาตรมากสุดในโลก แต่ยังไปรอด

‘รัสเซีย’ เศรษฐกิจของประเทศที่ก่อสงคราม
“เศรษฐกิจรัสเซียจะล่มสลาย”
‘สก็อตต์ เบสเซนต์’ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่าแม้สงครามรัสเซีย-ยูเครน จะยังเดินหน้าต่อ แต่ในท้ายที่สุดจากมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มข้นจากชาติตะวันตก รวมถึงการเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียจะทำให้เศรษฐกิจรัซเซียถึงคราว ‘ล่มสลาย’
เป็นการคาดการณ์อนาคตที่สุดโต่งมาก แต่จะเกิดขึ้นจริงหรือเปล่าเป็นอีกเรื่อง
ผ่านมาแล้วกว่า 3 ปีที่บนโลกนี้เกิด สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน แม้ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ที่สถานปนาตัวเองเป็นคนกลางที่จะหยุดสงคราม แต่แนวโน้มที่สงครามจะหยุดจริง ๆ นั้นยังดูห่างไกล (เอาแค่หยุดยิงยังเป็นเรื่องที่ยากเลย) มาตรการคว่ำบาตรที่คว่ำแล้วคว่ำอีกก็ดูจะไม่ได้สะทกสะท้านรัสเซียซักเท่าไหร่
จนเกิดเป็นคำถามที่น่าสนใจ ประเทศที่ทำสงครามมาอย่างยาวนานอย่างรัสเซีย เศรษฐกิจประเทศเขาเป็นอย่างไรบ้าง ? ใกล้เคียงกับคำว่า ‘ล่มสลาย’ อย่างที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ บอกหรือเปล่า
สถานการณ์เศรษฐกิจรัสเซีย
ปัจจุบัน ‘รัซเซีย’ ถูกสหภาพยุโรปใช้มาตรการคว่ำบาตรไปแล้ว 19 มาตรการ ถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรชนิดพุ่งเป้าไปที่บุคคลและนิติบุคคลราว 5,000 ราย (ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัสเซียถูกคว่ำบาตร ครั้งแรกเกิดในปี 2014) คือเป็นประเทศเดียวในโลกที่ถูกมาตรการคว่ำบาตรเยอะขนาดนี้ท่ามกลางโลกที่ supply chain เชื่อมต่อกัน ไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่งอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวอย่างแท้จริง ถ้าเป็นประเทศอื่นล่มสลายไปแล้วจริง ๆ แต่ไม่ใช่กับรัซเซีย
The Economist รายงานว่า ปี 2022 เศรษฐกิจรัซเซียเผชิญภาวะถดถอยเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่ในปี 2024 เศรษฐกิจก็ค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2025 GDP ของรัสเซียเติบโตเพียง 0.4% (เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว) ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีดัชนีที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศหดตัวมาหลายเดือน การเติบโตของกำไรจากบริษัทต่าง ๆ ก็อ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น ค่าจ้างแรงงานในประเทศก็หดตัวลง
เรื่องนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลปูตินยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตัวหนึ่ง ที่เคยเป็นเหมือนยาแรงออกฤทธ์กระตุ้นเศรษฐกิจมาแล้วถึง 5% ของ GDP ในปี 2023 มาปีนี้มาตรการนี้ถูกปรับใหม่ให้เบาบางลงเหมือนแอลกอฮอร์ที่เจือด้วยน้ำเปล่า เช่น การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จะไม่ถูกอัดฉีดอย่างก้าวกระโดด, ธนาคารกลางรัสเซียขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว
การส่งออกน้ำมันของรัสเซียก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จากเดิมที่เคยส่งออกน้ำมันมูลค่าสูงถึง 155,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นปี 2022 พอมาช่วงต้นปี 2025 มูลค่าการส่งออกนี้กลับเหลือเพียง 96,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซ้ำร้ายราคาน้ำมันโลกตอนนี้ก็อยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับการที่รัซเซียจะเจอต้นตุนการกู้ยืมเงินที่สูง
โฆษณา