Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สงคราม story
•
ติดตาม
22 ก.ย. เวลา 12:22 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
F-16 ยอดอากาศยานแห่งกองทัพอากาศไทย EP.1 เที่ยวบินปฐมฤกษ์
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ภาพที่ทุกท่านเห็นตอนเริ่มต้นบทความเป็น F-16BM eMLU กับแพนหางดิ่งสุดสวยงามที่จัดทำขึ้นในวาระครบรอบ 30 ปีที่ F-16 เข้าประจำการ ณ กองบิน 4 ตาคลี
เพจคนรักเครื่องบินรบโพสต์เกี่ยวกับ F-16 ลายนี้โดยระบุว่า ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของ F-16AM/BM eMLU ประจำการ ณ ฝูงบิน 403 กองบิน 4 ตาคลี ที่ครบรอบ 30 ปี แห่งการปกป้องน่านฟ้าไทย ในวาระพิเศษนี้ได้มีการทำลายหางพิเศษขึ้นมาใหม่ ซึ่งผสมผสานเอกลักษณ์ของฝูงบินเข้ากับความหมายของการครบรอบ 3 ทศวรรษได้อย่างลงตัว
ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา F-16 กองบิน 4 ได้ทำหน้าที่อย่างภาคภูมิ ทั้งในภารปกป้องน่านฟ้า การฝึกซ้อมรบ และการแสดงสมรรถนะต่าง ๆ เป็นหนึ่งในขุมพลังที่สำคัญของกองทัพอากาศ
ลายใหม่ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเครื่องหมายแห่งการครบรอง 30 ปี แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่น ความเสียสละ และเกียรติยศที่นักบินและเจ้าหน้าที่ทุกนายได้ร่วมสร้างมาตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
F-16BM eMLU กองทัพอากาศไทยกับแพนหางดิ่งสุดสวยงาม
ก่อนจะมีแพนหางดิ่งลายพิเศษนี้เกิดขึ้นย้อนกลับไปในอดีตเมื่อ 50 กว่าปีก่อน ในตอนต้นปีค.ศ.1972
กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาได้เริ่มโครงการ ที่จะสร้างเครื่องบินขับไล่ขนาดเบาขึ้นโดยเรียกว่าโครงการ LWF (Light Weight Fighter)
โดยทั่ว ๆ ไปเป็นที่ทราบกันดีในวงการธุรกิจ การบินว่าราคาของเครื่องบินจะเป็นไปตาม น้ำหนักของเครื่องบิน ซึ่งก็หมายถึงว่าการสร้างเครื่องบินที่มีน้ำหนักเบาจะทำให้มีราคาถูกลง
โดยบริษัทเจเนรัล ไดนามิคส์ ได้สร้างวายเอฟ- 16 ใช้เครื่องยนต์เดี่ยว ในขณะที่นอร์ทรอปสร้างวายเอฟ-17 ซึ่งใช้เครื่องยนต์คู่ แต่ทว่าวายเอฟ-17 ตกรอบจากกองทัพอากาศไปแจ้งเกิดใหม่กับกองทัพเรือเป็นเอฟ-18
หลังจากขึ้นบินเที่ยวบินแรกเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ค.ศ.1974 เอฟ-16 เป็นเครื่องบินขับไล่ที่สามารถหลบหลีกได้คล่องแคล่วและมีรัศมีทำการไกล
เป็น 2 เท่าของเครื่องบินรบที่สหรัฐมีอยู่ติด ขีปนาวุธ และลูกระเบิดขนาดหนักที่มีความ แม่นยำสูงมาก เครื่องบินเอฟ-16 ยาว 47 ฟุต 2 นิ้ว มีช่วงปีก กว้าง 31 ฟุต 10 นิ้ว เมื่อรวมจรวดที่ติดที่ ปลายปีกแล้ว มีความสูงจากพื้นถึงส่วนสูงสุดของแพนหาง 16 ฟุต 4 นิ้ว
มีน้ำหนักทั้งหมด21,500 ปอนด์และสามารถปฏิบัติการด้วย น้ำหนักสูงสุดถึง 33,000 ปอนด์ ถังเชื้อเพลิง ในตัวเครื่องจุได้ 6,600 ปอนด์ และสามารถติดถังบรรจุเชื้อเพลิงภายนอก ได้ถึง 15,000 ปอนด์
ดังนั้นเครื่องบินเอฟ-16 จึงเป็นเครื่องบินรบที่มีขีดความสามารถสูง ทั้งการทิ้งระเบิด ขีปนาวุธ และความจุของน้ำมันสำรอง ประกอบกับ เอฟ-16 เป็นเครื่องบินที่มีขนาดเล็กทำให้ ยากต่อการมองเห็นและค้นพบด้วยเรดาร์ ถึงแม้จะถูกค้นพบได้แต่ก็ยากต่อการโจมตี
ภาพ 3 วิวเครื่องบินเอฟ-16
เอฟ-16 ใช้เครื่องยนต์กังหันไอพ่น
แพรทแอนด์วิทท์นี่ย์ F-100-ของ PW-100 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบที่ไป ใช้กับเครื่องบิน เอฟ-15 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯซึ่งสิ่งนี้ได้ ช่วยประหยัดเงินให้กับอเมริกาที่ไม่ต้องเสียค่าทำการทดสอบเครื่องยนต์ การฝึกคนบำรุงรักษาซ่อมแซมและอะไหล่เป็นอันมาก
แม้ว่าเอฟ-100 จะเป็นเครื่องยนต์ที่นำหน้าในทางวิทยาการ แต่ก็ทำงานได้เรียบร้อยในการบินครั้งแรกของเอฟ-16 ในเดือนตุลาคมค.ศ. 1973 เอฟ-16 ก็ประสพความสำเร็จจากการบินทดสอบเป็นเวลา 150 ชั่วโมงแห่งประวัติศาสตร์การบินที่เข้มงวด โดยในการบินทดสอบจะต้องทำการบินด้วยความเร็ว 1,500 ไมล์ ต่อชั่วโมงเป็นเวลามากกว่า 30 ชั่วโมงและด้วยความเร็ว 1,100 ไมล์ต่อชั่วโมงเป็นเวลาอีก 38 ชั่วโมง
เอฟ-16 มีระบบทางออกฉุกเฉินที่ให้ความปลอดภัยถึง 3 ขั้น โดยนักบินจะสามารถที่จะดีดตัวออกจากเครื่องบินได้อย่างปลอดภัยที่สุด ตามปกติเมื่อนักบินจะดีดตัวออกขั้นแรก
ฝาครอบจะเลื่อนไปข้างหลังและเปิดออกนักบินก็พร้อมที่จะใช้ที่นั่งดีดตัวออกไปได้ แต่ถ้าระบบนี้ขัดข้องฝาครอบก็สามารถที่จะสลัดทิ้งไปได้โดยหมุดพิเศษที่ระเบิดได้
เมื่อระบบอัตโนมัติเหล่านี้ใช้ไม่ได้
นักบินก็สามารถที่จะถอดสลักฝาครอบออกด้วยมือและผลักให้เผยอปะทะลม ก็จะทำให้หลุดออกไปและนักบินก็สามารถจะดีดตัวเองออกได้
แม้ว่าเอฟ-16 จะจัดอยู่ในประเภทเครื่องบินขับไล่ที่มีน้ำหนักเบา แต่ก็เต็มไปด้วยพิษสงอย่างร้ายกาจเมื่อมีศัตรูเข้ามาอยู่ในระยะทำการ และสามารถติดอาวุธได้รอบตัว โดยที่ลำตัวตอนหลังของนักบินด้านซ้ายจะติดปืนแบบ M61A1 วัลแค็น ขนาด 20 มม. ที่สามารถยิงได้ 4,000 ถึง 6,000 นัดต่อนาที
ปลายปีกทั้งสองข้างด้านล่างติด ขีปนาวุธทำการยิงระยะไกลกับติดจรวดแบบไซด์ไวน์เดอร์ที่นำวิถีโดยแสงอินฟาเรด มันสามารถยิงจากปลายปีกได้ นอกจากถังน้ำมันเชื้อเพลิงภายในตัวแล้ว เอฟ-16 ยังสามารถติดถังน้ำมันที่ใต้ปีกได้อีกถึง 11,500 ปอนด์ แต่ทั้งนี้จะต้องมีน้ำหนักรวมไม่เกิน 33,000 ปอนด์ ที่จะบินขึ้นได้การติดถังน้ำมันภายนอกไม่ได้ทำให้ความเร็วและความคล่องตัวของเอฟ-16 ลดลง
เอฟ-16 กองทัพอากาศไทยกับแพนหางดิ่งครบรอบ 30 ปี Cope Tiger
เครื่องบินเอฟ-16 ถึงแม้จะมีขนาดเบาแต่ก็ยัง รัศมีทำการได้ไกลมีเชื้อเพลิงที่มากพอที่จะทำ การรบติดพันได้ เอฟ-16 นั้นมีรัศมีทำการไกล กว่าเครื่องบินรบที่ติดอาวุธในการต่อสู้ทางอากาศในสมัยนั้นถึง 2-3 เท่า มีอัตราส่วนของแรงผลักต่อน้ำหนักในอัตราที่สูงมาก และยังมีการออกแบบทางด้านพลศาสตร์ดีกว่าเครื่องบินอื่น ๆ ของข้าศึกเท่าที่รู้จักกัน
นอกจากนี้ เอฟ 16 ยังสามารถบินเลี้ยวกลับ
ได้ดีด้วยโดยสามารถบินวนไปอยู่ข้างหลังเครื่องบินของฝ่ายตรงข้ามได้โดยที่ข้าศึกตามไม่ทัน ไม่แต่เท่านั้นในด้านน้ำหนักและราคา เอฟ-16 ยังมีน้ำหนักเพียงครึ่งหนึ่งของเครื่องบินขับไล่แบบอื่น ๆ และมีราคาถูกกว่าครึ่งหนึ่งด้วย
เมื่อเอฟ-16 ได้เข้าประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐฯหรือชาติพันธมิตรจะทำให้ช่วยประหยัดน้ำมันไปได้ถึง 100 ล้านแกลลอนต่อปีซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่จะช่วยลดวิกฤติการน้ำมันที่เกิดขึ้นในขณะนี้รวมทั้งปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องบินที่สูงขึ้นด้วย
จุดเด่นพิเศษของเอฟ-16 คือมันมีเครื่องอิเลกโทรนิคส์ที่มีความเที่ยงตรงและแม่นยำที่ใช้สำหรับปฏิบัติการโจมตี ระบบควบคุมการยิงจะประกอบด้วย เรดาร์ แผงหน้าปัทม์ควบคุมต่าง ๆ ได้รับการออกแบบคล้ายกับเป็นดวงตาพิเศษนี้อยู่นอกเหนือจากห้องนักบิน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือนักบินสามารถที่จะทำการบินและเล็งเป้าได้โดยไม่ต้องมองออกไป ภายนอกกระจกห้องนักบินเลยเพียงแต่ดูที่แผงหน้าปัทม์ก็จะสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา
เคล็ดลับของการควบคุมการปฏิบัติการยิงก็คือการรวมการเตรียมการของนักบินไว้ด้วยปฏิกริยาโต้ตอบที่รวดเร็ว จากการควบคุมด้วยระบบนิ้วสัมผัสของอุปกรณ์ และอาวุธต่าง ๆ ขณะที่ทำการบินอยู่ในระดับสูงนักบินก็สามารถที่จะหลบหลีก ได้โดยไม่ต้องละสายตาไปจากเป้าหมายคือเครื่องบินข้าศึก หรือเป้าหมายบนพื้นดิน
เอฟ-16 ฝูงบิน 103 กองบิน 1 โคราช
ระบบควบคุมการยิงสามารถใช้ได้ทุกสภาพกาลอากาศทั้งเป้าหมายที่มองเห็น และที่มองไม่เห็น เรดาร์เป็นแบบที่สามารถมองลงข้างล่างและแสดงข่าวสารให้กับนักบินได้ทราบถึงลักษณะต่าง ๆ ระหว่างเป้าหมาย และข้อมูลทางภาคพื้นดินได้ นอกเหนือจากเครื่องควบคุมการยิงแล้วเอฟ-16 ยิงติดตั้งอุปกรณ์น้ำร่องที่ทันสมัย ประกอบกับระบบที่ใช้นำร่องนี้มีความ แม่นยำอย่างสูง และนอกจากจะมีเครื่องมือวิทยุ สื่อสารแบบธรรมดาแล้ว เอฟ 16 ยังมีระ บบสื่อสารแบบ "แบคอัพ วอยซ์" อีกด้วย
เนื่องจากการมีระบบต่าง ๆ ที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนามาอย่างดี และเหมาะสม จึงทำให้สามารถลดเวลาและแรงงานในการบำรุงรักษาและซ่อมลง คาดกันว่าการบำรุงรักษา เอฟ-16 จะต้องการเพียง 60 เปอร์เซนต์น้อยกว่าของเครื่องบินรบในปัจจุบัน
นี่คือตอนแรกของเอฟ-16 ในกองทัพอากาศไทย วันนี้หากเล่าไม่หมดก็ขออภัยอย่างยิ่ง ส่วนในตอนหน้าจะเป็นจุดเริ่มต้นของเอฟ-16 ในกองทัพอากาศไทยส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น ผู้เขียนขอให้ทุกท่านรอติดตามกันต่อไป สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
นิตยสารสมรภูมิ
fire_arff
ANDREI SHMATKO
กองทัพอากาศไทย
เรียบเรียงโดย : เบิ้ล ตาควาย
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย