F-16 ยอดอากาศยานแห่งกองทัพอากาศไทย EP.3 F-16 เหินเวหาครั้งแรกในไทย
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ความเดิมจากตอนที่แล้วโครงการ PEACE NARESUAN ได้เริ่มขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณเตือนถึงประเทศผู้รุกรานว่านับตั้งแต่บัดนี้ไป F-16 จะมาประจำการ ณ ดินแดนที่เรียกว่าสยามประเทศ สำหรับการขับไล่ศัตรูผู้รุกรานที่มาทั้งทางบก ทางเรือและทางอากาศ วันนี้จะเป็นเรื่องราวของการมาเยือนไทยครั้งแรกของ F-16 และจุดเริ่มต้นของ F-16 ฝูงบิน 103 กองบิน 1 โคราช เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปติดตามกันครับ
วันที่ 6 สิงหาคมระหว่างการฝึก "คอบราโกลด์" ในปีค.ศ.1986 ซึ่งการฝึกนี้พิเศษสุดกว่าทุกปีก็ตรงที่มีเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 มาร่วมฝึกด้วยเป็นปีแรก โอกาสนี้กองทัพอากาศสหรัฐฯจึงได้จัดบินโชว์เจ้าเหยี่ยวประจัญบานครั้งแรกให้ทหารหาญและประชาชนชาวไทยได้ชมกันทั่วหน้า อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการโชว์ให้เห็นสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของมัน
ที่คุ้มแสนคุ้มกับการที่เราจ่ายเงิน หลายร้อยล้านบาทไปเพื่อซื้อเอฟ-16 หนึ่งฝูงเข้าประจำการในกองทัพอากาศไทย
เอฟ-16 ที่มาบินโชว์ในวันนั้นมีทั้งหมด 3 เครื่องด้วยกันเป็นแบบเอที่นั่งเดี่ยว 2 เครื่อง และแบบ บีสองที่นั่งหนึ่งเครื่อง ทั้งหมดนี้ก็บินมาจากอู่ตะเภา และเป็นเครื่องบินเอฟ-16 สามในแปดเครื่องที่บินมาจากฝูงบินขับไล่ทางยุทธวิธีที่ 35 เสือดำ "PANTHER'' สังกัดกองบินขับไล่ทางยุทธวิธีที่ 8 ฐานทัพอากาศคุนซาน
เอฟ-16 ฝูงบิน 103 กองบิน 1 โคราช (ลายใหม่)
หลังจากเครื่องบินเอฟ-16 1 เครื่องบินโชว์จบเป็นที่เรียบร้อยเหนือน่านฟ้าสนามบินดอนเมืองฝั่งกองทัพอากาศ ทีนี้พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ขึ้นไปนั่งเอฟ-16บีในที่นั่งหลังโดยมีนาวาอากาศตรีสคิป ฮาร์ดิง นักบินเอฟ-16 จากฝูงบินขับไล่ทางยุทธวิธีที่ 35 เป็นนักบินที่ 1
จากนั้นเวลา 10.55 น. เครื่องบินเอฟ-16 ก็เริ่มแท็กซี่ออก จากที่จอด แล้วในที่สุดก็บินขึ้น เมื่อเวลา 11.05 น. ด้วยเสียงดังสนั่นสั่นสะท้านแดนดอนถิ่นนภา และบินไต่ขึ้นในมุมชันขึ้นไป แล้วตีวงเลี้ยวหงายท้อง ด้วยแรงหน่วงประมาณ 3 จี และ ไต่ขึ้นที่ระดับ 5,000-8,000 ฟุต
และแล้วเอฟ-16 เครื่องนั้นก็กลับเข้าสนามบิน อีกครั้งบินวนอยู่หลายรอบก่อน ที่จะลงจอดเวลาประมาณ 12 น. รวมเวลาบินกว่า 30 นาที.
หลังเสร็จสิ้นการบินท่าน (พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์) ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สมรรถนะของเอฟ-16 ดีเยี่ยมมากและท่านก็ได้ลองนั่งเองดูด้วย สำหรับของไทยที่ซื้อไว้ 12 เครื่อง จะได้รับมอบในราวๆปีค.ศ.1988 (พ.ศ.2531) ส่วนเครื่องยนต์ที่ติดตั้งนั้นจะไม่ใช่แบบนี้ จะเป็นแบบใหม่ที่มีสมรรถนะสูงกว่าและมีแรงขับมากกว่า และก่อนที่เราจะได้รับมอบ 8 เดือนนั้น ทอ.ไทยได้มีการส่งนักบินทั้ง 6 ท่านไปฝึกขับเอฟ-16 ที่สหรัฐฯเพื่อให้เกิดความชำนาญก่อนที่จะกลับมาสอนนักบินไทยให้เอฟ-16 เป็นตามรุ่นพี่ไป
2 ปีผ่านไปการรอคอยสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนค.ศ.1988 เวลา 13 นาฬิกา ที่สนามบินทหารกองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา พลอากาศเอก กันต์ พิมานทิพย์ เสนาธิการทหารอากาศ ได้เป็นผู้แทน พลอากาศเอก วรนาถ อภิจารี ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็น ประธานรอรับการเดินทางมาถึงของเครื่องบินเอฟ-16 จำนวน 3 เครื่องแรก ที่กองทัพอากาศสั่งซื้อจากบริษัทเจนเนอรัล ไดนามิกส์แห่งสหรัฐอเมริกา
F-16A ฝูงบิน 103 กองบิน 1 โคราช (ลายเก่า)
เวลา 13 นาฬิกาตรงหมู่บิน เอฟ-16 จำนวน 3 เครื่อง ได้บินผ่านบริเวณหน้าพิธีซึ่งเตรียมไว้ จากนั้นได้แยกหมู่บินลงทีละเครื่อง และได้แท็กซี่เข้ามาจอดหน้าบริเวณพิธี เมื่อเครื่องจอดเรียบร้อยแล้ว นักบินได้ลงจากเครื่องมายืนหน้าเครื่อง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่บริการอื่น ๆ
พลอากาศเอก กันต์ พิมานทิพย์ เสนาธิการทหารอากาศ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้เดินขึ้นแท่นรับความเคารพ โดยมี นาวาอากาศโท อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บังคับฝูงบิน 103 (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) ซึ่งเป็นฝูงบินที่ทันสมัยที่สุดในกองทัพอากาศไทยเพราะมีเอฟ-16 ประจำการ รวมทั้งนักบิน และเจ้าหน้าที่ภาคพื้นในกองบิน 1 แสดงความเคารพ
นาวาอากาศตรี ศรีเชาวน์ จันทร์เรือง (ยศ ณ ขณะนั้น) เป็นหนึ่งในนักบินเอฟ-16 ที่พึ่งบินมาถึงไทยกล่าวว่า "เครื่องบินจำนวน 3 เครื่องนี่ เริ่มเดินทางออกจาก ฟอร์ตเวิร์ธ มลรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นโรงงานผลิต เอฟ-16 ของบริษัทเจนเนอรัล ไดนามิกส์ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมพ.ศ. 2531 มายังมลรัฐฮาวาย"
"ใช้เวลาเดินทาง 8 ชั่วโมง เติมเชื้อเพลิงในอากาศจำนวน 6 ครั้ง และพักค้างคืน 2 คืน เพื่อให้นักบินได้มีโอกาส พักผ่อน จากนั้นได้บินจากฮาวายมายังเกาะ กวมใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 7 ชั่วโมง 30 นาที
เติมเชื้อเพลิงในอากาศจำนวน 4 ครั้ง ค้างคืนที่เกาะกวม 3 คืน จึงบินขึ้นจากเกาะกวม วันที่ 13 มิถุนายน 2531 เวลาท้องถิ่น 9 นาฬิกา ซึ่งตรงกับเวลาในประเทศไทย 6 นาฬิกา และมาถึงโคราชเวลา 13 นาฬิกาโดยปลอดภัย"
F-16A ลายพรางยุคแรกๆ
วันที่ 2 กรกฎาคมพ.ศ. 2531 นี้นับเป็นวันสำคัญ “วันประวัติศาสตร์" อีกวันหนึ่งของกองทัพอากาศไทยเพราะเป็นวันพิธีรับเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ที่ทันสมัยที่สุดในโลกเข้าประจำการ
ณ บริเวณลานจอดอากาศยาน ท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง ได้จัดพิธีรับเครื่องบินขับไล่เอฟ-16เอ/บี จำนวน 6 เครื่องแยกเป็นเอฟ-16เอ 3 เครื่อง และ เอฟ-16บี 3 เครื่อง พร้อมกับเครื่องบินตรวจการณ์ลำเลียงแบบ “ LEARJET" อีกจำนวน 2 เครื่องเข้าประจำการ
พลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์ ขณะนั้นเป็นนักบินเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ยศนาวาอากาศโท ท่านได้นำนักบินทั้ง 8 ท่านขึ้นเครื่องบินขับไล่สุดทันสมัย
และแล้วเอฟ-16 จำนวน 5 เครื่องแท็กซี่ออกจากลานจอดในพิธีสู่รันเวย์วิ่งขึ้น เสียงเร่งเครื่องยนต์ดังกระหึ่มอีกครั้งเป็นอันว่าเครื่อง บินทั้งหมดได้ขึ้นสู่ท้องฟ้าเรียบร้อยแล้ว นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นฝีมือนักบินของไทยบินเอฟ-16 เอง
เครื่องบินลับตาหายไปในท้องฟ้าเพียง 1 นาที ต่อมาประชาชนเบื้องล่างก็มองเห็นเครื่องบินเอฟ-16 เกาะหมู่ 3 รุ่น B ทั้งหมดบินผ่านมาให้ชมเหนือบริเวณ ลานพิธีติดตามด้วยหมู่ 2 F-16A ติดตามมาให้ชมในระยะความสูงประมาณ 2,000 ฟุต จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่กองบิน 1 โคราช ใช้เวลาเพียง 14 นาที ส่วนอีกเครื่องนั่นต้องจอดเช็คเนื่องจากมีปัญหาทางเทคนิคจึงบินไม่ได้
บรรยากาศในห้องนักบิน F-16
เมื่อได้เครื่องมาแล้วก็เลยขอนำมาโชว์ให้พี่น้องประชาชนได้เห็นก่อนจะมีผลงานจริง สนามฝึกการใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จ.ลพบุรี วันที่ 26 ธันวาคมพ.ศ.2532 กองทัพอากาศไทยได้จัดให้มีการสาธิตการใช้กำลังทางอากาศอย่างยิ่งใหญ่ เอฟ-16 เพียงเครื่องเดียวจากฝูงบิน 103 กองบิน 1 โคราชก็บินผ่านจากทิศเหนือไปทางทิศใต้ในระยะความสูงประมาณ 700 ฟุตด้วยความเร็วเหนือเสียง เสียงหวีดหวิวและคำรามของเครื่องยนต์เดี่ยวเอฟ-100 พีดับบลิว220 ที่ให้แรงขับสูงสุดถึง 25,000 ปอนด์ ดังกระหึ่มผ่านไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นนักบินท่านนี้ก็ดึงเครื่องขึ้นสูงเลี้ยวซ้ายกลับรังที่กองบิน 1 อย่างปลอดภัย นี่คือครั้งแรกที่เอฟ-16 โชว์เทพก่อนที่จะมีบทบาทในสมรภูมิไทยVSกัมพูชาอีก 37 ปีต่อมา
ยังไม่หายไปไหน คราวนี้กลับมาอีกรอบ
เสียงเครื่องบินเอฟ-16 จากฝูงบิน 103 กองบิน 1 โคราชที่บินผ่านไปก่อนหน้านี้ วนมาทำการโชว์สมรรถนะการบินในท่วงท่าต่าง ๆ ด้วยความแคล่วคล่องว่องไว
โดยเฉพาะการพลิกเลี้ยวด้วยแรงจีสูง การไต่ระดับ การบินตีลังกา การบินทางยุทธวิธีการรบทางอากาศ และการบินช้า ๆ ให้พวกเราได้เห็นกันถนัด ๆ คือการบินกางฐานล้อเหมือนกับจะลงจอด จากนั้นนักบินวนกลับมาแล้วจึงเร่งเครื่องบินจากไปอย่างรวดเร็ว สำหรับเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 นี้จัดเป็นบ.ที่ทันสมัยที่สุดแบบหนึ่งของโลกในสมัยนั้น นักบินที่จะมาบินกับเอฟ-16 จะต้องมีชั่วโมงบินจากเอฟ-5 มาแล้วราวๆ 150-200 ชม.บิน
นอกจากบินโชว์สมรรถนะแล้วเอฟ-16 มาทำการบินสาธิตการรบทางอากาศกับเอฟ-5 ตามมาด้วย 2 เครื่องเอฟ-16 สาธิตการโจมตีเป้าหมายด้วยระเบิด 500 ปอนด์ (MK -82) เครื่องละ 6 ลูก โดยปลดในความสูงต่ำใส่เป้าหมายจำลองบนเนิน
และแล้วเมื่อเสร็จสิ้นการแสดงเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ทุกเครื่องที่บินสาธิตก็บินหมู่ร่วมกับเอฟ-5 ก่อนจะแยกไปลงโคราช
F-16A กองทัพอากาศไทย
การบินโชว์ของเอฟ-16 ทั้งของกองทัพอากาศไทยหรือกองทัพอากาศสหรัฐฯนั้นไม่ได้มีแค่อวดสมรรถนะ แต่ยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเครื่องบินรบแบบนี้มีความพร้อมรบสูง สามารถใช้อาวุธจริงได้เมื่อมีภัยมาเยือนถึงดินแดนไทย ตอนหน้าจะเป็นบทความเกี่ยวกับชีวิตนักบินเอฟ-16 และการจะได้คนๆหนึ่งมาเป็นนักบินเอฟ-16 นั้นมีอะไรบ้าง โปรดติดตามได้ในตอน "ชีวิตจริงนักบินเอฟ-16" สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
ข่าวทหารอากาศ
RTAF
Pathr Poosiri
Kittidej Sanguantongkham
นิตยสารสมรภูมิ
นิตยสารสงคราม
เรียบเรียงโดย : เบิ้ล ตาควาย
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
