24 ก.ย. เวลา 08:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

หวั่นลดสเปกเช่ารถเมล์อีวี 'ขสมก.' สูญรายได้ 2.7 พันล้าน

  • ขสมก. ถูกวิจารณ์เรื่องการปรับลดสเปกรถเมล์ EV ที่จะเช่าใหม่ 1,520 คัน โดยลดความยาวตัวรถจาก 12 เมตร เหลือ 10.5 เมตร ซึ่งทำให้จำนวนที่นั่งผู้โดยสารลดลง
  • การลดขนาดรถเมล์คาดว่าจะทำให้ ขสมก. สูญเสียรายได้จากการเก็บค่าโดยสาร เนื่องจากรองรับผู้โดยสารได้น้อยลง โดยประเมินว่าอาจสูญเสียรายได้รวมกว่า 2,700 ล้านบาทตลอดสัญญาเช่า 7 ปี
  • ผอ. ขสมก. ชี้แจงว่ารถขนาด 10.5 เมตรมีความคล่องตัวกว่า และยืนยันว่าความจุผู้โดยสารจะไม่ลดลง เนื่องจากรถ EV ไม่มีห้องเครื่องยนต์ ทำให้มีพื้นที่สำหรับที่นั่งเพิ่มขึ้น
  • องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ACT) แสดงความกังวลและจับตาโครงการนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากในอดีตโครงการของ ขสมก. มักมีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใสและการล็อกสเปก
การผ่านร่าง ทีโออาร์ (TOR) ของคณะกรรมการทีโออาร์ เพื่อให้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดประมูล เช่ารถเมล์ไฟฟ้า (EV) ล็อตใหญ่ จำนวน1,520 คัน มูลค่า15,355ล้านบาท ในช่วงสุญญากาศทางการเมือง
ก่อนหน้าที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล เข้ามาบริหารประเทศเพียงไม่นาน
กลับถูกจับตามองเป็นวงกว้างจากภาคเอกชน และนักวิชาการ โดยเฉพาะความยาวของตัวรถเมล์จากเดิม12 เมตร ยืดหยุ่นเป็น ไม่เกิน 10.5 เมตร ส่งผลให้จำนวนที่นั่งผู้โดยสารลดลงจาก34 ที่นั่ง ไม่รวมวีลแชร์เหลือ 31 ที่นั่ง
โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าในที่สุดแล้วขสมก. อาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบและสูญเสียรายได้ วันละกว่า700ล้านบาท ปีละกว่าพันล้านบาท และหากครบสัญญาเช่า 7 ปี จะสูญเสียรายได้รวมมากถึง 2,796 ล้านบาท
ขสมก.โต้ลดสเปคทีโออาร์
นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การจัดหาเพื่อเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (รถเมล์ EV) 1,520 คัน วงเงิน 15,355 ล้านบาท ระยะเวลาการเช่า 7 ปี
ขณะนี้คณะกรรมการพิจารณาและอนุมัติหลักเกณฑ์การประกวดราคา (TOR) ของโครงการนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีระยะเวลา 5 วัน เพื่อให้ผู้สนใจได้แสดงความคิดเห็นหรือข้อวิจารณ์หากไม่มีการคัดค้านใด ๆ คาดว่าจะสามารถหาตัวผู้รับจ้างได้ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้ตามขั้นตอนหลังการประกาศ TOR หากไม่มีการวิจารณ์จากผู้ที่สนใจ จะสามารถเข้าสู่ขั้นตอนการสรรหาผู้รับจ้างได้ทันที แต่หากมีผู้แสดงความคิดเห็นหรือข้อวิจารณ์
ทางคณะกรรมการฯ จะต้องกลับมาประชุมเพื่อพิจารณาข้อเสนอแนะอีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้กระบวนการล่าช้าออกไปเป็นเดือนได้ อย่างไรก็ดีตามแผนหลังเปิดประมูลจัดหารถอีวีแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ก่อนลงนามสัญญากับผู้ชนะการประมูลโครงการฯ และทยอยส่งมอบรถประมาณปลายปี 2569 โดยมีเป้าหมายรวม 3,000 คัน
ส่วนการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ในช่วงนี้ไม่มีผลกระทบต่อการประมูลของโครงการฯครั้งนี้ เนื่องจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ชุดเดิม มีมติอนุมัติโครงการไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นกระบวนการภายในของ ขสมก. ที่สามารถเดินหน้าต่อได้
สำหรับรายละเอียดใน TOR ระบุสเปคความยาวของรถเมล์ EV อยู่ที่ 10.5 เมตร ซึ่งแตกต่างจากรถเมล์ที่ ขสมก. ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งมีความยาว 12 เมตร นั้น มองว่ารถเมล์ขนาด 10.5 เมตร มีความเหมาะสมกับสภาพการจราจรในเมืองที่ขยายตัวมากขึ้น ทำให้มีความคล่องตัวสูงขึ้น
“ขสมก.ยืนยันว่าถึงแม้ขนาดรถสั้นลง แต่ปริมาณความจุผู้โดยสารจะไม่ลดลง โดยตามหลักเกณฑ์กำหนดจำนวนที่นั่งไม่ต่ำกว่า 35 ที่นั่ง ซึ่งเทียบเท่ากับขนาดรถเมล์ความยาว 12 เมตร ซึ่งมี 35 ที่นั่งเท่าเดิม โดยพื้นที่รถโดยสารใหม่สำหรับผู้โดยสารจะมากขึ้น เนื่องจากรถเมล์ไฟฟ้าไม่มีห้องเครื่องด้านหน้าเหมือนรถโดยสารที่ใช้น้ำมัน” นายกิตติกานต์ กล่าว
ส่วนความคุ้มค่าของการจัดซื้อรถเมล์อีวีตามผลการศึกษาไม่ได้มีการระบุว่าต้องใช้ความยาวรถโดยสาร 12 เมตร แต่ผลการศึกษาความคุ้มค่าของโครงการระบุว่า การจัดหารถเมล์อีวีมีความคุ้มค่าสูง
โดยเฉพาะการใช้ในรูปแบบในการเช่าคิดตามระยะทางมากกว่า ทำให้สามารถตัดปัญหาเรื่องค่าซ่อมบำรุงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตออกไปได้ อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการเดินรถได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะต้นทุนด้านเชื้อเพลิง
เปิดหลักฐานลดสเปกทำขสมก.สูญรายได้
จากการตรวจสอบร่าง TOR พบว่าขสมก.ระบุว่า รถโดยสารจะต้องมีลักษณะของตัวรถ โครงสร้างตัวถังรถโดยสารต้องเป็นโลหะ ภายในรถโดยสารมี ที่นั่งผู้โดยสาร ที่นั่งสำหรับผู้พิการ และที่นั่งพับเก็บได้ ไม่รวมที่นั่งคนขับรถ รวมกันไม่น้อยกว่า 31 ที่นั่ง โดยการจัดวางที่นั่งจะจัดวางตามความกว้างของตัวรถหันหน้าไปทิศทางเดียวกัน
โดยกระจาย อย่างสม่ำเสมอตามความยาวพื้นที่โดยสาร เว้นแต่ที่นั่งสำรองสำหรับบุคคลพิเศษหรือที่นั่งสำหรับผู้พิการ และเว้นให้มีช่องทางเดินตามความยาวของตัวรถ มีความกว้างพอสมควร ระยะห่างที่นั่งไม่น้อยกว่า 75 เซนติเมตร
แหล่งข่าวจากขสมก. เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า ร่างทีโออาร์ประมูลรถเมล์ไฟฟ้าของขสมก.ที่กำหนดความยาวรถไม่ต่ำกว่า 10.5 เมตร ขัดแย้งกับแผนที่แจ้งไว้ใน “โครงการจัดหารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV)” เมื่อ 24 พ.ค. 2567 ว่าต้องเป็นรถ 12 เมตร มีที่นั่งโดยสารอย่างน้อย 34 ที่นั่ง และสำหรับรถวีลแชร์คนพิการ 2 คัน
การปรับลดความยาวรถเหลือไม่ต่ำกว่า 10.5 เมตร จะทำให้ผู้โดยสารทั้งนั่งและยืน ลดลง 12 คนต่อเที่ยวต่อวัน บางสายวิ่ง 3 เที่ยว ก็จะหายไป 36 คน/คัน/วัน คำนวณจากค่าโดยสารขั้นต่ำ 20 บาท /เที่ยว รายได้หายไป 720 ต่อคันต่อวัน จำนวนรถ 1,520 คันต่อวัน รายได้หายไป 1,094,400 บาทต่อวัน หรือ 2,796.192 ล้านบาทตลอดระยะเวลาโครงการ
สำหรับโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 1,520 คัน มีรายละเอียดดังนี้
1.วงเงินโครงการ 15,301 ล้านบาท ประกอบไปด้วย ค่าเช่าตัวรถ 10,134.70 ล้านบาท ค่าซ่อมบำรุงรถ 3,240.03 ล้านบาท ค่าเช่าสถานีอัดประจุไฟฟ้า 967.40 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากงบฯ ปี 68 ที่ได้รับอนุมัติไว้แล้วจำนวน 368.40 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจำนวน 14,987.20 ล้านบาท ผูกพันงบฯ ปี 69-74
2.ระยะเวลาโครงการ 7 ปี
3.ประมาณการรายได้ 52,654.19 ล้านบาท เช่น รายได้ค่าโดยสาร รายได้โฆษณา
4.ประมาณการค่าใช้จ่าย 32,798.54 ล้านบาท เช่น ค่าเช่ารถโดยสารปรับอากาศพลังงานสะอาด ค่าเช่าตู้ชาร์จพลังงานไฟฟ้า เช่น ค่าเช่าพื้นที่จอดและชาร์จไฟรถโดยสารบางแห่ง
5.โครงการมีกำไรสุทธิตลอดระยะเวลาโครงการเท่ากับ 19,855.64 ล้านบาท
ACT จับตา จัดหารถเมล์ EV 1.5 หมื่นล้าน
ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) (ACT) ได้ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” เกี่ยวกับการเกาะติดโครงการจัดหาเพื่อเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (รถเมล์ EV) จำนวน 1,520 คัน วงเงิน 15,355 ล้านบาท ระยะเวลาการเช่า 7 ปี
โดยเน้นย้ำถึงประสบการณ์ข้อร้องเรียนในอดีตของการดำเนินโครงการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มักประสบปัญหาความไม่โปร่งใสจนทำให้โครงการล่าช้า ทุกครั้งที่มีการจัดหารถ
ไม่ว่าจะด้วยวิธีการเช่าหรือซื้อ ก็มักจะมีเรื่องของคอร์รัปชันเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้โครงการยืดเยื้อหรือไม่สามารถจัดการได้สำเร็จ
การทุจริตเหล่านี้บางครั้งเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับเอกชน หรือบางครั้งก็เป็นพฤติกรรมของเอกชนโดยตรงที่สร้างปัญหา
จากการศึกษาข้อมูลและข้อร้องเรียนที่ ACT ได้รับมา ดร.มานะ ระบุว่า พบปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตหลายรูปแบบ
1. การหลีกเลี่ยงภาษีและการแสดงข้อมูลเท็จ เมื่อประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว เคยมีกรณีที่จะมีจัดหารถเมล์ โดยแสดงรายการว่าเป็นรถที่ผลิตในประเทศมาเลเซีย แต่แท้จริงแล้วเป็นการสวมสิทธิ์นำรถจากประเทศจีนไปพักที่มาเลเซียแล้วนำเข้าประเทศไทยเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
2. การเขียนเพื่อเอื้อประโยชน์ ที่มีการร้องเรียนอยู่บ่อยครั้งในการเขียนข้อกำหนดที่เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่ง
3. ปัญหา Local Content และการจำกัดหน่วยงานรับรอง ในกรณีการซื้อหรือเช่ารถ ยังมีการร้องเรียนบ่อยครั้งเกี่ยวกับชิ้นส่วนประกอบภายในประเทศ (Local Content) โดยมีการกำหนดให้การรับรองต้องมาจากหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นการเฉพาะ
ทั้งที่หน่วยงานที่สามารถรับรองเรื่อง Local Content มีหลายแห่ง เช่น สถาบันยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมฯ การจำกัดให้รับรองแค่รายเดียวอาจทำให้เกิดการล็อคสเปคได้
4. สิทธิผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ เช่น ป้ายโฆษณาที่อยู่ข้างรถและภายในรถ จะต้องมีการเขียนให้ชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าเป็นสิทธิผลประโยชน์ของใคร
และหากจะเป็นสิทธิของเอกชนผู้ให้เช่า ก็ต้องมีการบอกตั้งแต่แรกและลดราคากันลงไป จะมาเจรจาต่อรองกันภายหลังไม่ได้ เนื่องจาก ขสมก. เป็นผู้จ่ายค่าเช่ารถไปแล้ว
5. การซ่อมบำรุงและระยะเวลาการให้บริการ ในกรณีรถเช่าที่มีสัญญาซ่อมบำรุง ต้องมีความชัดเจนว่า หากรถเสีย เอกชนจะกู้รถหรือนำรถไปซ่อมและส่งมอบคืนให้กับ ขสมก. ภายในระยะเวลากี่วัน
เพราะเรื่องนี้มีผลโดยตรงต่อปริมาณรถที่ใช้บริการประชาชน รวมถึงการกำหนดที่ตั้งของศูนย์ซ่อมว่าอยู่ในกรุงเทพฯ หรือชานเมือง ก็มีผลต่อระยะเวลาด้วยเช่นกัน
ดร.มานะ ยืนยันว่า หากรัฐบาล กระทรวงคมนาคม และขสมก. ต้องการหยุดปัญหาในลักษณะนี้ได้ จะต้องมีการเปิดให้สาธารณชนสามารถตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ และควรเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเฉพาะผู้ผลิตรถโดยสาร แสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่
“ผลประโยชน์ของหน่วยงานและผลประโยชน์ของผู้โดยสารจะต้องมีความชัดเจน ผู้บริหาร ขสมก. ควรรับฟังและตอบทุกข้อสงสัยอย่างตรงไปตรงมา เพื่อนำมาซึ่งความรับผิดชอบในอนาคต”
สำหรับประชาชนหรือผู้ที่มีข้อมูลที่สงสัยในโครงการนี้ สามารถแจ้งเบาะแสมาทางแอปพลิเคชัน Corruption Watch ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ซึ่งทำร่วมกับทางจุฬาฯ ได้ โดยจะมีการศึกษาและเก็บข้อมูลประเด็นคอร์รัปชันอย่างต่อเนื่อง
โฆษณา