Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พระราชเมธีวชิรดิลก,ดร.
•
ติดตาม
25 ก.ย. เวลา 00:14 • การศึกษา
#ถ้าพระรัตนตรัยไม่หยั่งลงสู่ใจ_ไม่แนบจิต
จะกล้าพูดได้เต็มปากหรือว่า “นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าขอมอบตนถวายแด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม และแด่พระสงฆ์“ (อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ)
จะกล้าพูดได้เต็มปากหรือว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอท่านทั้งหลายจงจำข้าพเจ้าไว้ว่า ข้าพเจ้าขอมีพระพุทธเจ้าเป็นผู้นำทาง, ขอมีพระธรรมเป็นผู้นำทาง, ขอมีพระสงฆ์เป็นผู้นำทาง“ (ตปฺปรายนตา)
จะกล้าพูดได้เต็มปากหรือว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอท่านทั้งหลายจงจำข้าพเจ้าไว้ว่า ข้าพเจ้าเป็นอันเตวาสิกของพระพุทธเจ้า ของพระธรรม ของพระสงฆ์“ (สิสฺสภาวูปคมนํ)
จะกล้าพูดได้เต็มปากหรือว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอท่านทั้งหลายจงจำข้าพเจ้าไว้ว่า ข้าพเจ้าขอทำการกราบไหว้ การลุกรับ การประนมมือ การทำสามีจิกรรม แด่พระรัตนตรัยมีพระพุทธเจ้าเป็นต้นนั่นแล“ (ปณิปาโต)
จะกล้าพูดได้เต็มปากหรือว่า “ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นนาย มีอิสระเหนือข้าพเจ้า” (พุทฺธสฺสาหสฺมิ ทาโส ว พุทฺโธ เม สามิกิสฺสโร)
จะกล้าพูดได้เต็มปากหรือว่า “ข้าพเจ้ามอบกายถวายชีวิตนี้ แด่พระพุทธเจ้า“ (พุทฺธสฺสาหํ นิยฺยาเทมิ สรีรญฺชีวิตญฺจิทํ)
ถ้าพระรัตนตรัยไม่หยั่งลงสู่ใจแล้วกล้าพูดคำนั้นออกมา ก็เท่ากับว่าเป็นคนโกหกนั่นเอง เหมือนกับการ “บอกรัก ทั้งที่ไม่ได้รัก” นั่นก็คือการโกหก
จะบอกว่า “กล่าวคำเหล่านี้แล้ว ก็คือถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะแล้ว” ถ้าอย่างนั้น ผู้ที่เคยกล่าวคำนี้ทั้งหมด ไม่ว่าฆราวาสหรือบรรพชิต จะต้องไม่ตกไปในอบายภูมิ ๔ หลังจากตายเป็นแน่ เพราะพระตถาคตพร้อมทั้งเทวดาต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ถึง
พระพุทธเจ้าว่าเป็นสรณะ ชนเหล่านั้นจักไม่ไปสู่อบายภูมิ ครั้นละร่างกายที่เป็นมนุษย์แล้ว จักยังหมู่เทวดาให้บริบูรณ์” (เยเกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส, น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ, ปหาย มานุสํ เทหํ, เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺติ.)
ถ้าฆราวาสที่เคยกล่าวคำเหล่านี้ยังสามารถตกนรกได้อยู่ ถ้าบรรพชิตที่เคยกล่าวคำเหล่านี้ยังสามารถประพฤติตนให้ต้องปาราชิกได้อยู่ ก็บ่งบอกให้เห็นได้ชัดว่า แค่กล่าวคำเหล่านี้เช้า-เย็น ยังไม่ได้เข้าถึงพระรัตนตรัยจริง ๆ
เพราะอาการทั้งหมดนี้ ที่กล้ากล่าวประกาศคำเหล่านี้ เป็นอาการของผู้มีพระรัตนตรัยหยั่งลงสู่ใจแล้วกล้าประกาศคำนั้นออกมาอย่างเต็มหัวใจ
แต่ว่า...ในยุคนี้ไม่ทันได้เห็นพระตถาคตเสียแล้ว ไม่ได้อยู่ในบรรยากาศที่มีพระตถาคตอยู่ เราจะใช้วิธีการใด ? ที่จะช่วยให้เราได้มีพระรัตนตรัยหยั่งลงสู่ใจ
ก็การระลึกถึงอย่างย้ำ ๆ ซ๊ำ ๆ นี่แหละ จะช่วยให้จิตหน่วงเหนี่ยวเอาพระรัตนตรัยมาพึ่ง ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ ว่า “อย่างเราจะรักใครสักคนมาก ๆ มันก็ต้องผ่านการคิดถึงเขาคนนั้นมาก ๆ ย้ำ ๆ ซ๊ำ ๆ คิดแล้วคิดเล่า เลยเกิดการหน่วงเหนี่ยวบุคคลนั้นไว้ สุดท้าย ความรู้สึกรักก็มาปรากฏที่หัวใจ” จะเข้าถึงพระรัตนตรัยก็จะใช้วิธีนั้นเหมือนกัน
นี่เป็นวิธีอย่างง่าย ที่ธรรมนาวา “วัง” ได้นำเสนอเพื่อให้ง่ายต่อการปฏิบัติ และเข้าถึงผลอันเป็นที่พอใจได้เหมือนกัน ก็คือ การระลึกถึงพระรัตนตรัย ด้วยการใช้ใจของตนเองนั่นแหละระลึกว่า
พุทฺโธ เม นาโถ
พระพุทธ เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
ธมฺโม เม นาโถ
พระธรรม เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
สงฺโฆ เม นาโถ
พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
ระลึกอยู่อย่างต่อเนื่อง ย้ำ ๆ ซ๊ำ ๆ ใจจะหน่วงเหนี่ยวเอาพระรัตนตรัยมาเป็นที่พึ่ง เมื่อจิตเข้าถึงพระรัตนตรัยแล้ว ผู้นั้นจะรู้ได้ด้วยตนเอง เหมือนกับเมื่อความรักเกิดขึ้นที่หัวใจผู้ใด คนผู้นั้นก็จะรู้ได้ด้วยตนเอง.
_______________________________
🪷พระเขมจิตตะ🪷
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย