Blockdit Logo (Mobile)
Jerami Nakin Zyriuz
•
เมื่อวาน เวลา 07:33 • ปรัชญา

นิยายสั้น The Jerami Project EP:1

คำชี้แจงจากผู้เขียน
เรื่องราวที่ท่านกำลังจะได้อ่าน เป็นเพียงจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ที่ร้อยเรียงขึ้นจากความสนใจใคร่รู้ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ โดยเล่าผ่านมุมมองของผู้เขียนที่อาจอยู่เหนือขอบเขตความเข้าใจและกฎฟิสิกส์ที่เราคุ้นเคย
ตัวละครและเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องสมมติ มิได้มีเจตนาพาดพิงถึงบุคคล สถานที่ หรือดูหมิ่นหลักความเชื่อใดๆ ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพื่อรับชมเรื่องราวนี้ในฐานะผลงานที่สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
The Jerami Project
EP 1: "ความเชื่อมโยงที่ถูกซ่อนไว้: การเต้นรำของแรงโน้มถ่วงละเอียด"
Jerami นั่งอยู่หน้าจอ ฮอโลแกรม ที่ส่องแสงสีฟ้าอ่อนในห้องปฏิบัติการลอยฟ้าของเขา ซึ่งลอยอยู่เหนือเมฆของนคร Aethel ข้อมูลที่ไหลผ่านหน้าจอไม่ได้เป็นแค่ตัวเลขหรือกราฟทั่วไป แต่มันคือการเต้นของ คลื่นชีวพลังงาน ที่ละเอียดอ่อนของมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งสัมพันธ์กับการโคจรของดวงจันทร์อย่างแม่นยำ
“ดูนี่สิ Arius” Jerami พูดขึ้นโดยไม่ละสายตา “คืนเดือนเพ็ญที่แล้ว อะดรีนาลีน ในร่างกายของผู้ป่วยรายนี้พุ่งสูงขึ้น 30% ในขณะที่การหลั่ง เมลาโทนิน ลดลงอย่างน่าตกใจ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
Arius หญิงสาวผู้เป็นนักฟิสิกส์เพื่อนร่วมงานของเขา เดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าไม่เชื่อถือ ห้องปฏิบัติการที่หรูหราแห่งนี้ไม่ได้ทำให้เธอเลิกยึดติดกับหลักการทางสถิติแบบดั้งเดิมได้เลย “Jerami เราคุยเรื่องนี้กันกี่ครั้งแล้ว? ปัจจัยมันมีนับไม่ถ้วน อาหาร ความเครียด การนอนหลับ หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ การโยงมันเข้ากับดวงจันทร์ดูจะเป็นการ ข้ามขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ ที่สำคัญไปไหม?” เธอกล่าวอย่างตรงไปตรงมา โดยที่มือยังกอดอกอย่างมั่นคง
“แน่นอนว่ามีปัจจัยเหล่านั้น” Jerami ตอบอย่างหนักแน่น เขาไม่ได้หงุดหงิดกับความสงสัยของ Arius เพราะนั่นคือเชื้อเพลิงของวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง เขาแตะที่หน้าจอ ฮอโลแกรมจึงซูมเข้าไปที่ส่วนของเหลวในร่างกาย “แต่ฉันมีเครื่องมือที่สามารถคัดแยกตัวแปรได้แล้ว และมันชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ที่ ละเอียดอ่อนจนน่าประหลาดใจ”
Jerami พิงเก้าอี้พลางเล่าต่อด้วยน้ำเสียงชวนคิด “วิทยาศาสตร์กระแสหลักของเราเชื่อเรื่อง แรงดึงดูดของดวงจันทร์ที่มีต่อมหาสมุทร แต่กลับมองข้ามมันในระดับ โมเลกุลน้ำในร่างกายมนุษย์ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบเดียวกัน ทำไมน่ะหรือ? อาจเป็นเพราะเครื่องมือของเรามันหยาบเกินไปที่จะวัดการจัดเรียงตัวของโมเลกุลที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ หรืออาจเป็นเพราะเราถูกสอนให้ แยกเราออกจากจักรวาล มานานเกินไป”
“คุณกำลังบอกว่าร่างกายเราเหมือนแท่งน้ำแข็งที่กำลังละลายและถูกดวงจันทร์ดึงไปมาอย่างนั้นหรือ?” Arius ถามพร้อมกับเลิกคิ้ว ในน้ำเสียงของเธอมีทั้งความประชดประชันและความสนใจที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“ไม่เชิง” Jerami หัวเราะเบาๆ ดวงตาของเขาเป็นประกายราวกับเห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ “แต่ ลองนึกภาพ เราเป็นเหมือน เครื่องรับวิทยุ FM ที่บางเครื่องก็ไวต่อการจับคลื่นมากกว่าเครื่องอื่น นี่คือความไวในการรับรู้ส่วนบุคคลที่ต่างกัน บางคนอยู่ในสมดุล พวกเขาก็จะไหลไปกับพลังงานเหล่านั้นได้อย่างกลมกลืน แต่บางคนที่มีความไม่สมดุลภายในอยู่แล้ว พลังงานที่ละเอียดอ่อนจากดวงจันทร์ก็จะเข้ามาขยายความปั่นป่วนนั้นให้ชัดเจนขึ้น เหมือนการปรับจูนคลื่นที่ผิดเพี้ยน”
เขาเข้าใกล้เพื่ออธิบายให้ Arius เห็นภาพชัดเจนขึ้น “นี่คือสิ่งที่วิทยาศาสตร์แบบลดทอนมองข้าม เราพยายามแยกทุกส่วนออกจากกันเพื่อทำความเข้าใจ แต่ในความเป็นจริง ทุกสรรพสิ่งในจักรวาลล้วนเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก การศึกษาอารมณ์และฮอร์โมนโดยไม่คำนึงถึงแรงดึงดูดและพลังงานภายนอกก็เหมือนกับการพยายามทำความเข้าใจสมการครึ่งหนึ่ง เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าปัจจัยที่เราไม่ได้วัดนั้นไม่มีผล?”
Arius เงียบไปชั่วครู่ ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่กราฟคลื่นที่ Jerami แสดงให้ดูอย่างตั้งใจ เธอเห็นการเต้นของชีพจรที่สอดคล้องกับจังหวะของดวงจันทร์อย่างน่าประหลาดใจ การปฏิเสธความจริงตรงหน้าเริ่มเป็นเรื่องยากสำหรับนักวิทยาศาสตร์อย่างเธอ
“แล้วถ้าคุณพิสูจน์เรื่องนี้ได้จริง จะเป็นอย่างไรต่อ?” Arius ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิมมาก แสดงให้เห็นว่าเธอเริ่มคล้อยตามแนวคิดนี้แล้ว
Jerami ยิ้มและหันกลับมามองเธอ “นั่นคือจุดเริ่มต้นของการแพทย์รูปแบบใหม่ เราสามารถออกแบบการบำบัดที่สัมพันธ์กับรอบของดวงจันทร์ 🌙 เพื่อปรับสมดุลทางฮอร์โมนและอารมณ์ของผู้คน ลองจินตนาการ ว่า การให้ยาหรือการบำบัดทางจิตอาจมีประสิทธิภาพสูงสุดในบางช่วงของเฟสดวงจันทร์ หรือแม้กระทั่งการเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงกับจังหวะของธรรมชาติเพื่อนำไปสู่การควบคุมตัวเองอย่างสมบูรณ์”
เขาแตะหน้าจออีกครั้ง เผยให้เห็นโปรแกรมฝึกฝนสำหรับผู้ป่วย “เราจะสอนให้พวกเขาสังเกตตัวเอง จดบันทึกอารมณ์ในช่วงคืนเดือนขึ้นและคืนเดือนดับ เพื่อที่พวกเขาจะได้เรียนรู้โครงสร้างทางพลังงานของตัวเอง และปรับตัวให้เข้ากับมันได้ แทนที่จะต้องทนทุกข์กับความแปรปรวนที่อธิบายไม่ได้”
“ฟังดูเหมือนโหราศาสตร์มากกว่าวิทยาศาสตร์” Arius พูด แต่ในใจเธอเริ่มยอมรับถึงความเป็นไปได้ที่ว่า บางทีวิทยาศาสตร์ก็อาจเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่เพิ่งเริ่มเข้าใจตัวเอง
“มันอาจเป็นเส้นทางเดียวกัน” Jerami กล่าว “แค่เราใช้เครื่องมือที่แม่นยำกว่าเท่านั้นเอง สิ่งที่วันนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่จริง วิทยาศาสตร์คือการเดินทางไปสู่ความจริงที่กว้างใหญ่ และนี่อาจเป็นประตูบานแรกสู่ความจริงที่ว่า เราคือส่วนหนึ่งของเครื่องจักรกลจักรวาล”
Jerami ก้มลงมองหน้าจออีกครั้ง และกล่าวอย่างแผ่วเบาเหมือนพูดกับตัวเอง “ลองสังเกตตัวเองอย่างใจเย็น... เพราะสุดท้ายแล้วเราก็คือส่วนหนึ่งของจักรวาลที่กำลังรับรู้ตัวเอง” คำพูดนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับ Arius เท่านั้น แต่เป็นความจริงที่เขายึดมั่นและจะนำมาเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติในที่สุด
เกร็ดบันทึกจากห้องวิจัย: 'แรงดึงดูดที่ซ่อนอยู่'
คุณอาจคิดว่าดวงจันทร์มีอิทธิพลแค่กับมหาสมุทร แต่ความจริงแล้วมันอาจส่งผลกับทุกสิ่งที่มีน้ำ...รวมถึงตัวเราเอง
ร่างกายคือมหาสมุทรขนาดเล็ก: ลองจินตนาการว่าร่างกายของคุณเป็นมหาสมุทรขนาดเล็ก ดวงจันทร์ที่เปลี่ยนเฟสไปมา (ข้างขึ้น ข้างแรม) ไม่ได้แค่สร้างน้ำขึ้น-น้ำลงในมหาสมุทรโลก แต่ยังสร้าง แรงดึงดูดอันละเอียดอ่อน ที่อาจส่งผลต่อการจัดเรียงตัวของโมเลกุลน้ำในเซลล์ของเราด้วย
จังหวะชีวิตกับฮอร์โมน: ดวงจันทร์อาจเชื่อมโยงกับจังหวะชีวิตของเรา ฮอร์โมนที่ควบคุมอารมณ์และการนอนหลับอย่าง เมลาโทนิน และ ซีโรโทนิน ต่างก็อ่อนไหวต่อพลังงานเหล่านี้ นั่นคือเหตุผลที่บางคนอาจรู้สึกตื่นตัวเป็นพิเศษในคืนเดือนเพ็ญ หรือรู้สึกหงุดหงิดในคืนเดือนดับ คุณเคยสังเกตตัวเองในช่วงเวลาเหล่านั้นบ้างไหม?
ความไวส่วนบุคคล: การตอบสนองที่แตกต่างกัน อาจขึ้นอยู่กับ 'ความไว' ของแต่ละคน ลองนึกถึงเครื่องรับวิทยุ บางเครื่องจับคลื่นได้ชัดเจนกว่าเครื่องอื่น นั่นคือความแตกต่างระหว่างคนที่มีความอ่อนไหวต่อพลังงานธรรมชาติ และคนที่ไม่ใช่ คุณรู้หรือไม่ว่าตัวคุณมีความไวต่อคลื่นจักรวาลในระดับใด?
บทเรียนจาก Jerami
อย่ามองว่าคุณแยกขาดจากจักรวาล ในทางตรงกันข้าม คุณคือจักรวาลที่กำลังรับรู้ตัวเอง การสังเกตและเรียนรู้ จังหวะของดวงจันทร์ร่วมกับร่างกายและอารมณ์ของคุณ อาจจะช่วยให้คุณเข้าใจร่างกายและจิตใจของคุณเองได้ดีขึ้น มันอาจไม่ใช่เรื่องลึกลับ แต่อาจเป็น ความจริงที่ยังไม่ถูกค้นพบและได้รับการยืนยันของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าทฤษฎีใดๆ จะอธิบายได้ทั้งหมด
ลองรับฟังเสียงจากข้างใน และคุณจะพบว่าตัวคุณนั้นเชื่อมโยงกับดวงดาวเสมอความไวส่วนบุคคล: การตอบสนองที่แตกต่างกัน อาจขึ้นอยู่กับ 'ความไว' ของแต่ละคน ลองนึกถึงเครื่องรับวิทยุ บางเครื่องจับคลื่นได้ชัดเจนกว่าเครื่องอื่น นั่นคือความแตกต่างระหว่างคนที่มีความอ่อนไหวต่อพลังงานธรรมชาติ และคนที่ไม่ใช่ คุณรู้หรือไม่ว่าตัวคุณมีความไวต่อคลื่นจักรวาลในระดับใด?
โฆษณา