26 ก.ย. เวลา 10:18 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

Artificial sweeteners may speed up brain ageing, study claims

ผลการวิจัยพบว่าน้ำตาลเทียมอาจเร่งการเสื่อมของสมอง
น้ำตาลเทียมเหล่านี้ ส่วนใหญ่อยู่ในน้ำอัดลมไดเอท
การวิจัยใหม่พบว่า น้ำตาลเทียม อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพสมองอย่างไม่คาดคิด
สารทดแทนความหวาน หรือ น้ำตาลเทียม artificial sweeteners เป็นสารที่นักวิทยาศาสตร์สังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อเพิ่มรสชาติหวานให้กับอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อทดแทนน้ำตาลธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่น้ำตาลเทียม จะให้พลังงานต่ำหรือไม่ให้พลังงานเลยก็ได้ ทำให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร ประสาทวิทยา Neurology ได้ทำวิจัยอาหารลดน้ำหนักในผู้ใหญ่กว่า 12,700 คน ในประเทศบราซิล และพบว่า ผู้ที่บริโภคน้ำตาลเทียม ในปริมาณที่สูงที่สุด จะมีความจำ และทักษะการคิดเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงระยะเวลาเพียงแปดปี
ความจำและทักษะการคิดที่เสื่อมลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้ จะเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษ ในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน และในกลุ่มผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี
นักวิทยาศาสตร์ทีมนี้ ได้ทำวิจัยน้ำตาลเทียมทั้งหมด 7 ชนิด ซึ่งเป็นน้ำตาลเทียมยอดนิยม ที่เราสามารถจะพบได้ทั่วไปใน น้ำอัดลมไดเอท น้ำปรุงแต่งรส โยเกิร์ต และของหวานแคลอรีต่ำ น้ำตาลเทียมทั้งหมด 7 ชนิด ได้แก่ สารแอสปาร์แตม สารแซคคาริน สารอะซีซัลเฟม-เค สารอิริทริทอล สารไซลิทอล สารซอร์บิทอล และสารทากาโตส
ในจำนวนน้ำตาลเทียมที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ผลพบว่า ล้วนแต่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้ทั้งหมด ยกเว้นเพียงสารทากาโตสเท่านั้น น้ำตาลเทียมเหล่านี้ ทำให้เกิดสมองเสื่อมทางด้านความจำ และด้านความคล่องแคล่วในการพูด
นักวิจัย แบ่งผู้ที่เข้าร่วมการวิจัยออกเป็นทั้งหมด 3 กลุ่ม โดยจัดแบ่งกลุ่มตามปริมาณน้ำตาลเทียมที่ผู้ที่เข้าร่วมการวิจัยเหล่านี้บริโภค โดยในกลุ่มผู้ที่บริโภคน้ำตาลเทียมมากที่สุด จะบริโภคน้ำตาลเทียมประมาณ 191 มิลลิกรัมต่อวัน เทียบเท่าได้กับน้ำอัดลมไดเอท 1 กระป๋องที่เป็นน้ำตาลเทียมแอสปาร์แตม
จากผลการทดลองพบว่า ในกลุ่มผู้ที่บริโภคน้ำตาลเทียมมากที่สุด เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ที่บริโภคน้ำตาลเทียมน้อยที่สุด พบว่า กลุ่มผู้ที่บริโภคน้ำตาลเทียมมากที่สุด เป็นโรคสมองเสื่อมเร็วกว่าถึงร้อยละ 62 หรือ ซึ่งเทียบเท่ากับสมองได้เสื่อมไปถึงประมาณ 1.6 ปี
ซูเอโมโตะ Claudia Kimie Suemoto ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จากมหาวิทยาลัยเซาเปาโล ประเทศบราซิล หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า “น้ำตาลเทียม ซึ่งมีแคลอรีต่ำหรือไม่มีแคลอรี มักถูกมองว่า เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพแทนการบริโภคน้ำตาล อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยของเราชี้ให้เห็นว่า น้ำตาลเทียม อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพสมองในระยะยาว”
“ในงานวิจัยก่อนหน้านี้ เป็นการวิจัยน้ำตาลเทียม ที่ไปทำให้เกิดเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคซึมเศร้า แต่ยังไม่มีการวิจัยผลกระทบน้ำตาลเทียม ที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพสมองในระยะยาว”
หนึ่งในผลลัพธ์จากการวิจัยนี้ที่น่าประหลาดใจที่สุดคือ น้ำตาลเทียม ที่ได้ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพสมองในระยะยาวนั้น พบปรากฏเฉพาะ ในผู้ใหญ่ที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี
ซูเอโมโตะ กล่าวว่า “ฉันคาดว่า น้ำตาลเทียม ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพสมองนี้ ส่งผลเสียได้อย่างชัดเจนในกลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากในผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงสูงต่อโรคสมองเสื่อมและความบกพร่องทางสติปัญญา” “แต่ว่าผลการวิจัยของเรากลับชี้ให้เห็นว่า ในกลุ่มคนวัยกลางคน เมื่อบริโภคน้ำตาลเทียม กลับเป็นอันตรายต่อสมองของคนวัยนี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วงวัยกลางคน จะถือว่าเป็นช่วงสำคัญในการกำหนดทิศทางของสุขภาพสมอง”
ผลการวิจัยนี้ไม่ได้พิสูจน์ว่า น้ำตาลเทียม เป็นสาเหตุโดยตรงของโรคสมองเสื่อม สำหรับในการวิจัยนี้ อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น การรายงานตนเองของผู้เข้าร่วมการวิจัยเกี่ยวกับอาหารที่ดื่มกิน และการไม่มีน้ำตาลเทียมครบทุกชนิดในการวิจัยนี้ เป็นต้น
ถึงกระนั้น ซูเอโมโตะ กล่าวว่า ผลของการวิจัยนี้ ควรแปลผลด้วยความระมัดระวัง และควรมีการวิจัยเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึง การถ่ายภาพสมอง และการวิจัยในเชิงกลไกของสุขภาพลำไส้และการอักเสบ
ทีมวิจัยของเธอ กำลังดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับการถ่ายภาพทางประสาทวิทยา เพื่อจะทำความเข้าใจถึงสาเหตุของความเชื่อมโยงนี้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีผลของการวิจัยในส่วนนี้
ซูเอโมโตะ กล่าวว่า “จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อยืนยันการค้นพบของเรา และเพื่อตรวจสอบว่า ทางเลือกที่เป็นน้ำตาลชนิดอื่นๆ เช่น น้ำแอปเปิล น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมเมเปิล หรือน้ำตาลมะพร้าว อาจเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิผลหรือไม่”
ผู้เขียน : Tom Howarth
แปลไทยโดย : Wichai Purisa (senior scientist)
โฆษณา