28 ก.ย. เวลา 09:00 • ธุรกิจ

ร้านอาหาร&เครื่องดื่มระอุ เชนดังแห่ผุดแบรนด์ใหม่ เพิ่มรายได้ - ทางเลือกนิวเจน

  • ผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ต่างเร่งเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เพื่อเป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างการเติบโตและเพิ่มรายได้ ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงและยอดขายสาขาเดิมที่ทรงตัว
  • การสร้างแบรนด์ใหม่มีเป้าหมายเพื่อขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
  • (New Gen) ที่มองหาความหลากหลายและประสบการณ์ที่แปลกใหม่ตามเทรนด์
  • บริษัทชั้นนำหลายแห่งต่างเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เช่น คชา บราเธอร์ส เปิดตัว "KAO-NOM" คาเฟ่ขนมไทย, สุกี้ตี๋น้อยแตกไลน์สู่ "Teenoi Gold", และกลุ่ม MAGURO เปิดร้านย่างถ่าน "BINCHO"
  • ผู้ประกอบการจำนวนมากเลือกเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน เพื่อกระตุ้นและรองรับกำลังซื้อที่สูงขึ้นในช่วงเทศกาล
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าธุรกิจร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มในไทยในปี 2568 ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 6.46 แสนล้านบาทจะเติบโตราว 2.8% โดยธุรกิจร้านอาหารมีมูลค่า 5.62 แสนล้านบาท เติบโต 3% และธุรกิจร้านเครื่องดื่ม (รวมร้านเบเกอรี่และไอศกรีม) มีมูลค่า 8.42 หมื่นล้านบาท เติบโต 1.9% ซึ่งเป็นผลมาจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ภาพรวมเศรษฐ
กิจที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
ขณะที่ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ พบว่า การจดทะเบียนเลิกกิจการในครึ่งปีแรก (ม.ค. - มิ.ย. 2568) มีจำนวน 6,244 ราย เพิ่มขึ้น 205 ราย (3.39%) มีธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จดทะเบียนเลิกกิจการจำนวน 276 ราย คิดเป็นสัดส่วน 4.42% จากจำนวนการจดทะเบียนเลิกธุรกิจในครึ่งปีแรกของปี 2568
ขณะที่ใน 3 เดือนแรกของปี มีธุรกิจร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มจดทะเบียนจัดตั้งกิจการใหม่ 973 รายลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มยังคงมีการแข่งขันที่สูง ซึ่งการเปิดให้บริการสาขาใหม่ รวมไปถึงการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ถือเป็นการขยายฐานลูกค้าและเป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง
นายฤทธิ์ คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คชา บราเธอร์ส จำกัด ผู้บริหารร้าน Kyo Roll En, Jérôme Cheesecake, Oyatsu no Jikan และ Teraoka Gyoza เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “KAO-NOM” (ข้าวนม) คาเฟ่ขนมไทยร่วมสมัย ซึ่งเป็นแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นเอง และมีแผนนำเข้าแบรนด์ใหม่อีก 2 แบรนด์ภายใน 1 ปีนับจากนี้ควบคู่ไปกับการขยายสาขาแบรนด์อื่นๆ ที่มีอยู่ ซึ่งการเปิดแบรนด์ใหม่ ช่วยให้บริษัทมีการเติบโตจากกลุ่มลูกค้าใหม่ ขณะที่ยอดขายสาขาเดิมส่วนใหญ่จะทรงตัว
โดยแบรนด์ KAO-NOM ใช้เวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ออกแบบและดีไซน์มากว่า 2 ปี จนที่สุดเมื่อได้ทำเลที่ดี ก็พร้อมเปิดให้บริการสาขาแรกในดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ย่านสีลม ด้วยจุดขาย Dessert ขนมไทยร่วมสมัย ที่มีแนวคิด “Rediscovering Thai Desserts” ขนมไทย…วัตถุดิบไทย…โดยเชฟไทย เช่น ชุดโคโค่ไรซ์ โรล : โรลเค้กซิกเนเจอร์ ทำมาจากข้าวสังข์หยด จากทะเลน้อย จ.พัทลุง, มะ “กู๊ด” : ช็อกโกแลต “กานาซ” ที่บ่มในลูกมะกรูดโรยด้วยผงลาบอบแห้งรสเผ็ด, ชาน้ำข้าว : เครื่องดื่มซิกเนเจอร์จากใบชาซีลอน ภาคใต้ ท็อปด้วยฟอง “นมข้าว” เป็นต้น
“ร้านสาขาเดิมถือว่าทรงตัว โชคดีว่าเรามีการบริหารจัดการหลังบ้านที่ดี ทำให้ลดต้นทุนได้ ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อเช่นนี้ แต่การเติบโตของบริษัทจะมาจากการเปิดร้านใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสในการทำธุรกิจ การขยายฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก”
ด้านนางสาวชุติมา เปรื่องเมธางกูร ประธานบริหาร บริษัท รวยไม่หยุด จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่ต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายให้ครบ 8 แบรนด์ภายในปีนี้ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันได้เปิดตัวไปแล้ว 6 แบรนด์ ได้แก่ เกศเตี๋ยวป๊อก & ป๊อก ต้มยำ, ข้าวแกง & ปลาทู, Chago, Standard Bun, แจ่วฮ้อน So Hot ตราหมูดำ และ Juicy Baby
ส่วนในไตรมาสที่ 4 จะเปิดตัวแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 4 แบรนด์ ได้แก่ ร้านอาหารญี่ปุ่น Rollishi ที่สยามสแควร์, ร้านก๋วยเตี๋ยวเกาหลี Daelim Korean Noodle ที่สยามสแควร์, ร้านปิ้งย่างเกาหลีพรีเมี่ยม Cheong Dam ที่ Dusit Central Park และร้านอาหารไทยที่สยามสแควร์ซึ่งอยู่ระหว่างการคิดชื่อ โดยมีงบลงทุนราว 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีแผนปรับปรุงร้านเดิม เช่น การรีโนเวตพื้นที่ร้าน Fire Tiger ที่สยามสแควร์วัน ให้กลายเป็นพื้นที่รวมร้านอาหารหลายแบรนด์ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและเสริมสร้างประสบการณ์การเลือกซื้อที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าและยังมีแผนขยายสาขาร้านเกศเตี๋ยวอีก 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลชิดลม, ไอคอนสยาม และแฟชั่นไอส์แลนด์ ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้า ขณะเดียวกันจะขยายร้าน Happy Pig เพิ่มอีก 1 สาขาที่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
สอดรับกับนางสาวนัทธมน พิศาลกิจวนิช ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านสุกี้ตี๋น้อย ที่กล่าวว่า ธุรกิจของสุกี้ตี๋น้อยไม่ได้จำกัดเพียงแค่แบรนด์เดิม แต่ยังมีการขยายไปยังแบรนด์ใหม่ๆ เช่น ตี๋น้อยบาร์บีคิว และ ข้าวแกงตี๋น้อยวันศุกร์ และมีแผนเปิดตัว ‘ตี๋น้อยเอ็กซ์เพรส’ ในอนาคต เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอและสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า
ล่าสุดเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘Teenoi Gold’ ซึ่งเน้นการนำเสนอเมนูพรีเมียม เช่น ติ่มซำ เป็ดย่าง และเครื่องดื่มสูตรพิเศษ เช่น มัทฉะมะพร้าวน้ำหอมและชาไทยมะพร้าวน้ำหอม สาขาแรกที่เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน พร้อมกันนี้ยังลงทุน 1,000 ล้านบาทในการก่อสร้างครัวกลางขนาดใหญ่ที่คลอง 3 ถนนรังสิต จังหวัดปทุมธานี
ซึ่งเปิดใช้งานตั้งแต่ต้นปี 2568 เพื่อรองรับการขยายสาขาและควบคุมคุณภาพการผลิตวัตถุดิบ โดยครัวกลางนี้สามารถรองรับสาขาได้ถึง 200 แห่ง และมีแผนขยายสาขาอีก 40 แห่งในปี 2569
ขณะที่ นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO ล่าสุดเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นย่างถ่านแบบดั้งเดิม ‘BINCHO’ (บินโช) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ 6 โดยมีแผนจะเปิดสาขา 2 ในต้นปี 2569 และขยายสาขา 10-20 สาขาภายใน 2-3 ปีข้างหน้า
ขณะที่ iBerry Group ซึ่งมีแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ได้แก่ บุรามาลี ร้านอาหารไทย, All Day Western ร้านอาหารสไตล์ All Day Dining และ สเลญวน ร้านอาหารอีสาน-เวียดนาม โดยนางสาวอัจฉรา บุรารักษ์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ไอเบอรี่ โฮมเมด จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีแผนขยายแบรนด์ในเครือจาก 18 แบรนด์เป็น 20 แบรนด์ภายในปี 2568 โดยมุ่งเน้นการเปิดร้านในทำเลสำคัญ เช่น สยามพารากอน และขยายตลาดต่างประเทศในจีนและฮ่องกง
ด้วยกลยุทธ์ขยายร้านในห้างและคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการลงทุนและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น เมื่อเดือนเดือนสิงคมที่ผ่านมาได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘บุรามาลี’ ซึ่งเกิดจากแนวคิดการยกระดับอาหารไทยในรูปแบบ Tea Room เพื่อสร้างเสน่ห์และดึงดูดทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมตั้งเป้าราย 10,000 ล้านบาทในอนาคต
อีกหนึ่งแบรนด์ที่ล่าสุดประกาศลงทุนร้านอาหารในไทยคือ บริษัท โอชา เวลธ์ จำกัด ซึ่งเปิดร้านติ่มซ่ำ BaoBao เปา เปา ร้านอาหารจีนสไตล์เซี่ยงไฮ้ โดยเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาและได้รีบการตอบรับเป็นอย่างดี และมีแผนขยายสาขาทั้งในนนทบุรี ภูเก็ตและจังหวัดอื่นๆ ด้วย
อย่างไรก็ดี ยังมีแบรนด์ร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มอีกที่รอเปิดตัวในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน ที่เต็มไปด้วยเทศกาล และเป็นช่วงเวลาที่มีการจับจ่ายใช้สอยสูง จึงเป็นโอกาสอันดีที่ธุรกิจจะได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่นิยมชื่นชอบการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆ ที่ทันสมัยและเข้ากับเทรนด์
โฆษณา