28 ก.ย. เวลา 03:48 • ธุรกิจ

เมื่อก้างปลาไม่ได้มีไว้ตำคอ แต่มีไว้หาทางรอด

โดย ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์
ก้างปลา… ชื่อที่หลายคนได้ยินแล้วนึกถึงความเจ็บปวดตอนกินปลา แต่ในโลกวิชาการการจัดการปัญหา ก้างปลาไม่ได้ทำให้เราทุกข์ใจ ตรงกันข้าม ก้างปลากลับเป็นเครื่องมือที่ช่วย “คลี่” ปัญหาที่พันกันยุ่งออกมาให้เป็นภาพที่เรามองเห็นได้ชัด
Fishbone Diagram หรือผังก้างปลา เกิดจากแนวคิดของศาสตราจารย์ Kaoru Ishikawa ชาวญี่ปุ่น ผู้มองว่าปัญหาใด ๆ ที่เราพบ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะสาเหตุเดียว แต่เป็นเพราะ “เส้นก้าง” หลายเส้นที่เชื่อมโยงเข้ามารวมกัน
ลองจินตนาการภาพปลา 1 ตัว
• หัวปลา = ปัญหาหลักที่เรากำลังเผชิญ
• ก้างซี่ใหญ่ = ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดปัญหา (เช่น คน, กระบวนการ, วัสดุ, เครื่องจักร, สิ่งแวดล้อม, การวัดผล)
• ก้างซี่เล็ก = สาเหตุย่อยที่แฝงอยู่ลึก ๆ
เมื่อเราเขียนออกมา ปัญหาที่เคยเป็น “เมฆหมอก” ก็ถูกแยกเป็น “เส้นก้าง” ทำให้เรามองเห็นว่า จริง ๆ แล้ว ต้นเหตุของปัญหาไม่ได้อยู่ที่โชคชะตา แต่คือระบบที่เราสร้างเอง
ทำก้างปลาให้ปัง ต้องทำอย่างไร?
1. นิยามหัวปลาให้ชัด – ถ้าเราไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร ก้างทั้งหมดก็จะไร้ทิศทาง
2. ชวนทีมระดมสมอง – ก้างปลาไม่ใช่การคิดคนเดียว ยิ่งมีคนจากหลายมุมมอง ยิ่งได้ก้างที่ครบถ้วน
3. ถามคำถามว่า “ทำไม?” ซ้ำ ๆ – อย่าหยุดที่คำอธิบายแรก เพราะความจริงมักซ่อนอยู่ในชั้นที่สองหรือสาม
4. จัดกลุ่มก้างให้เป็นระบบ – แยกหมวดหมู่ เช่น คน–เครื่องจักร–วัตถุดิบ จะทำให้เห็นความสัมพันธ์ที่ซ่อนอยู่
5. เปลี่ยนก้างเป็นแผนปฏิบัติ – ผังก้างปลาที่ดีไม่ใช่แค่สวย แต่นำไปสู่การแก้ไขที่วัดผลได้
ท้ายที่สุด ก้างปลาที่ปังจริง ๆ ไม่ใช่ก้างที่ซับซ้อนอลังการ แต่คือก้างที่ช่วยให้ทีมมองเห็น “ทางออก” พร้อมกัน และเดินไปข้างหน้าได้โดยไม่เสียเวลาเถียงกันในความมืด
เพราะในโลกที่เต็มไปด้วยปัญหา ความสามารถในการ “คลี่ก้าง” ออกมาให้เห็น คือความกล้าที่จะเผชิญ และความหวังที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง
โฆษณา