ทำไมรู้สึกภาพแตกต่าง ? ถอดเบื้องหลัง 'One Battle After Another' กับการถ่ายทอดความงดงามบนผืนฟิล์ม 🎞
ในโลกภาพยนตร์ที่ผู้กำกับอย่าง 'Paul Thomas Anderson' ท้าทายผู้ชมด้วยการเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและภาพที่ทรงพลัง One Battle After Another คือผลงานใหม่ที่ยกระดับการใช้ฟิล์มแบบคลาสสิกให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
One Battle After Another เป็นหนังที่โดดเด่นมากเรื่องมู้ดของภาพ ไม่ใช่แค่หนังสงครามการต่อสู้ตลกร้ายแบบทั่วไป แต่ความรู้สึกของภาพที่แตกต่างนั้นดึงเราให้ใกล้ชิด และอินไปกับหนังมากขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ก็ยังมีหลายผู้กำกับรุ่นใหม่ที่หยิบ VistaVision มาใช้ในงานของตัวเอง เช่นในบางฉากของ Christopher Nolan หรือแม้แต่ Quentin Tarantino ก็เคยหยิบมาใช้ในงานเบื้องหลังเช่นกัน
โดยผู้กำกับ Paul Thomas Anderson ถึงกับบอกว่า VistaVision สามารถให้ความรู้สึก Immersive คล้าย 3 มิติ โดยไม่ต้องใช้แว่น 3D และมองว่าเป็นฟอร์แมตคลาสสิก ที่ถือเป็นมรดกทางภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ และอยากเห็นมันถูกกลับมาใช้อยู่เรื่อยๆ
ตั้งแต่ปี 2000s เป็นต้นมา Hollywood หันไปถ่ายทำและฉายด้วยดิจิทัลเกือบหมด เพราะถูกกว่าและสะดวกกว่า แต่ก็ยังมีผู้กำกับหลายคนที่เชื่อว่าฟิล์มมี Texture, Grain และ Dynamic Range ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่อาจแทนได้ด้วยดิจิทัล กลายเป็นแนวคิด 'Cinema is Film'
ผู้กำกับหลายคนจึงแสดงออกถึงความเชื่อที่ว่า ศิลปะการทำหนังแท้จริงควรสร้างและฉายด้วยฟิล์ม เช่น Christopher Nolan, Quentin Tarantino, Paul Thomas Anderson หรือแม้แต่ผู้กำกับชั้นครูอย่าง Martin Scorsese ก็แสดงออกอย่างเชื่อมั่นในการใช้ฟิล์ม ซึ่งแต่ละคนก็มีจุดประสงค์ในการใช้ที่แตกต่างกันไป
ใครที่อยากสัมผัสหนังที่สมบูรณ์ครบรอบด้าน (ที่นานๆ จะมีมาสักที) ทั้งด้านภาพและเนื้อเรื่อง One Battle After Another คือบทพิสูจน์ว่าการเลือกใช้ฟิล์มสามารถเปลี่ยนอารมณ์ทั้งเรื่องได้จริงๆ !