28 ก.ย. เวลา 15:27 • กีฬา

🏆 Ferguson’s Formula

8 กฎเหล็กของ “เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” สู่การเป็นผู้นำตลอดกาล
ถอดบทเรียนจาก Harvard Business Review “ปรัชญาการสร้างทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่กลายเป็น “พิมพ์เขียว” สำหรับผู้บริหารทั่วโลก
หมายเหตุ : ที่มาของบทความนี้ เกิดจากผู้เขียนเป็นแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตั้งแต่ปี 1993 ผ่านทั้งยุครุ่งเรืองและยุคตกต่ำ จนได้ย้อนกลับไปอ่านบทความคลาสสิกของ HBR เรื่อง “Ferguson’s Formula” อีกครั้ง และพบว่าหลักคิดเหล่านี้ยังทรงพลังและร่วมสมัยสำหรับการบริหารองค์กรทุกประเภท ยิ่งเมื่อเห็นสโมสรในปัจจุบันหลงทางจากสูตรสำเร็จนี้ไป ก็ยิ่งอยากถ่ายทอดให้ผู้บริหารยุคใหม่ได้เรียนรู้และลงมือปรับใช้
====
💥 เมื่อศาสตร์แห่งฟุตบอล กลายเป็นตำราของผู้นำ
* คำถามสำคัญคือ "อะไรคือสิ่งที่ผู้บริหารระดับโลกสามารถเรียนรู้ได้จากผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ชื่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน?"
* คำตอบคือ “มากมายมหาศาล” โดยเฉพาะเมื่อผู้จัดการทีมนั้นคือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้สร้างอาณาจักรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตลอด 27 ปี เขาพาทีมคว้าแชมป์กว่า 38 รายการ  "สถิติที่ยากจะมีใครทำลายได้"
ความสำเร็จของเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสนามฟุตบอล แต่มันถูกถอดรหัสเป็นตำราภาวะผู้นำ โดย ศาสตราจารย์ Anita Elberse แห่ง Harvard Business School ผ่านบทความคลาสสิก “Ferguson’s Formula” ซึ่งกลายเป็นต้นแบบให้ผู้บริหารและผู้นำทั่วโลก
นี่คือ “8 กฎเหล็ก” ที่ไม่ใช่แค่สูตรการสร้างทีมฟุตบอล แต่คือกรอบคิดการสร้างองค์กรที่ยืนยาว แข็งแกร่ง และยืดหยุ่นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง
====
🧱 การสร้างรากฐาน “มองไกลเสมอ"
1. Start with the Foundation — เริ่มจากรากฐาน
เซอร์อเล็กซ์เชื่อมั่นว่าความสำเร็จยั่งยืนต้องเริ่มที่การปั้นเยาวชน เขาไม่ลังเลที่จะให้โอกาสเด็กหนุ่มลงสนาม แม้ในเกมใหญ่ เพราะนั่นคือการสร้างวงจรชีวิตทีมที่ยาวนาน และยังปลูกฝัง “ความภักดี” ที่อยู่กับนักเตะไปตลอดชีวิต
“When you give young people a chance, you not only create a longer life span for the team, you also create loyalty. They will always remember that you were the manager who gave them their first opportunity.”
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Class of ’92  เช่น เบ็คแฮม, กิ๊กส์, สโคลส์, เนวิลล์  ที่เติบโตจากอคาเดมีมาเป็นกำลังหลักของทีม และช่วยสร้างตำนานที่ยังคงถูกเล่าขานถึงวันนี้ หลักการนี้ไม่ใช่เรื่องฟุตบอลอย่างเดียว แต่องค์กรธุรกิจก็ต้องลงทุนกับ “คนรุ่นใหม่” เพื่อสร้างทั้งความสามารถและความผูกพันในระยะยาว
2. Dare to Rebuild Your Team — กล้าสร้างทีมใหม่
หนึ่งในบทเรียนที่โหดร้ายที่สุดของผู้นำคือการ “ปล่อยมือ” จากคนที่เคยยิ่งใหญ่  แต่ "เซอร์อเล็กซ์ไม่ปล่อยให้ความทรงจำบดบังการตัดสินใจ” เขามองที่ “สิ่งที่เห็นในสนาม” มากกว่าความผูกพันในอดีต
“The hardest thing is to let go of a player who has been a great guy -- but all the evidence is on the field. If you see the change, the deterioration, you have to ask yourself what things are going to be like two years ahead.”
นั่นคือการเลือกอนาคตเหนือปัจจุบัน และการสร้างทีมที่สามารถหมุนเวียนได้ตลอดเวลา องค์กรธุรกิจเองก็ต้องกล้า “Rebuild team” เมื่อถึงเวลา แม้จะต้องตัดสินใจที่เจ็บปวดเพื่อรักษาพลังในระยะยาว
====
🔥 การสร้างวัฒนธรรมด้วย "มาตรฐานที่ไม่มีข้อยกเว้น"
3. Set High Standards — ตั้งมาตรฐานสูง และบังคับใช้กับทุกคน
เซอร์อเล็กซ์สร้างวัฒนธรรมที่ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อมาตรฐานเดียวกัน เขาย้ำเสมอว่า “การทำงานหนักคือพรสวรรค์” และยิ่งกับผู้เล่นดาวดัง เขายิ่งคาดหวังมากกว่าใคร เพราะพวกเขาคือ “ตัวอย่าง” ของทีม
“I constantly told my squad that working hard all your life is a talent. But I expected even more from the star players. I expected them to work even harder.”
นี่คือการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถอยู่เหนือกติกาได้ วัฒนธรรมการทำงานที่เข้มแข็งนี้คือตัวเร่งให้ทีมสามารถรักษามาตรฐานสูงสุดได้เสมอ
4. Never, Ever Cede Control — ห้ามเสียการควบคุม
ไม่มีใครใหญ่กว่าสโมสร แม้ผู้เล่นจะเก่งแค่ไหน หากบ่อนทำลายบรรยากาศในห้องแต่งตัวหรือท้าทายอำนาจ เฟอร์กูสันจะตัดสินใจเด็ดขาดทันที
“There are occasions when you have to ask yourself whether certain players are affecting the dressing-room atmosphere, the performance of the team, and your control of the players and the staff. If they are, you have to cut the cord.”
บทเรียนนี้สะท้อนว่าเสถียรภาพขององค์กรสำคัญกว่าผลงานส่วนบุคคล ผู้นำต้องมีความเด็ดขาดพอที่จะรักษาโครงสร้างอำนาจ เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งของคนไม่กี่คนทำลายทั้งระบบ
====
♟️ กลยุทธ์ในสนาม "ศิลปะแห่งการจัดการสถานการณ์"
5. Match the Message to the Moment — สื่อสารให้เหมาะกับจังหวะ
เซอร์อเล็กซ์คือกุนซือที่เข้าใจ “ศิลปะแห่งคำพูด” เขารู้ว่าเมื่อไหร่ควรตำหนิอย่างเข้มงวด และเมื่อไหร่ควรปลอบใจเพื่อสร้างกำลังใจ
“For a player -- for any human being -- there is nothing better than hearing 'Well done.' Those are the two best words ever invented.”
เพียงสองคำ “Well done” ก็มีพลังมหาศาลพอจะยกระดับขวัญกำลังใจของทั้งทีมได้ การรู้จัก “เลือกคำให้ตรงเวลา” คือศิลปะของการเป็นผู้นำที่แท้จริง
6. Prepare to Win — เตรียมพร้อมที่จะชนะ
เซอร์อเล็กซ์เป็น "นักเสี่ยงโชคที่มีการคำนวณ” โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมที่กลายเป็นตำนาน “Fergie Time” เขาไม่กลัวที่จะเสี่ยงเพื่อโอกาสชนะที่ยิ่งใหญ่กว่า
“I am a gambler—a risk taker—and you can see that in how we played in the late stages of matches. ... If we were still down—say, 1–2—with 15 minutes to go, I was ready to take more risks. I was perfectly happy to lose 1–3 if it meant we’d given ourselves a good chance to draw or to win.”
นี่คือบทเรียนสำหรับผู้นำ คือ อย่ามัวแต่เล่นเพื่อ “ไม่แพ้” แต่ต้องกล้าเสี่ยงอย่างมีเหตุผลเพื่อโอกาสในการคว้าชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่า (หันมาดูอโมริมแล้วก็อยากเห้ออออ ดังๆ!! 😂)
7. Rely on the Power of Observation — ใช้พลังของการสังเกต
เฟอร์กูสันถือว่าการสังเกตคือ “อาวุธลับ” ของผู้นำ เขาเฝ้ามองนักเตะทั้งในและนอกสนาม เพื่อจับสัญญาณเล็กๆ ที่หลายคนมองไม่เห็น
“I came to see observation as a critical part of my management skills. The ability to see things is key -- or, more specifically, the ability to see things you don't expect to see.”
การสังเกตทำให้เขาสามารถเข้าใจผู้เล่นในมิติที่ลึกกว่าที่พวกเขาเข้าใจตัวเอง หลักคิดนี้คือบทเรียนสากลว่า ผู้นำที่เก่งไม่ใช่แค่คนที่ “พูดดี” แต่ต้องเป็นคนที่ “มองเห็น” สิ่งที่คนอื่นมองข้าม
====
🔄 ปรัชญาระยะยาวที่แท้จริง เกิดจาก "ผู้นำที่ไม่เคยหยุดนิ่ง"
8. Never Stop Adapting — ปรับตัวอย่างไม่หยุดยั้ง
แม้ประสบความสำเร็จยาวนาน เฟอร์กูสันไม่เคยยึดติดกับความสำเร็จในอดีต เขาเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา และปรับวิธีการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์เสมอ
“Most people with my kind of track record don't look to change. But I always felt I couldn't afford not to change.”
นี่คือกฎเหล็กที่ทรงพลังที่สุด เพราะผู้นำที่แท้จริงคือคนที่ไม่เคยหยุดพัฒนา ความสำเร็จในอดีตไม่ใช่หลักประกันของอนาคต แต่คือแรงผลักดันให้คุณต้องก้าวต่อไป
====
✨ "มากกว่าแค่เรื่องของถ้วยรางวัล?"
* มรดกของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ได้ถูกจารึกไว้แค่ในตู้ถ้วยรางวัล แต่คือปรัชญาภาวะผู้นำที่ใช้ได้ข้ามยุคสมัย
* เขาไม่ได้สร้างแค่ทีมฟุตบอล แต่สร้าง “สถาบัน” ที่สามารถปรับตัว ฟื้นตัว และยืนหยัดได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน
กฎเหล็กทั้ง 8 ข้อพิสูจน์ว่า "หลักการสร้างทีมฟุตบอลระดับตำนานและการสร้างองค์กรธุรกิจระดับโลกมีจุดร่วมเดียวกันทั้ง วินัย, การไล่ตามความเป็นเลิศอย่างไม่ลดละ, และการมองเกมระยะยาว"
“การเป็นผู้นำไม่ใช่การอยู่กับถ้วยรางวัล แต่คือการสร้างระบบที่ทำให้ทีมพร้อมชนะได้ครั้งแล้วครั้งเล่า”
====
หมายเหตุ : ช่วยเอา Article นี้ไปให้เซอร์จิม, เบราด้า, วิลคอกซ์ หรือแม้กระทั่งอโมริมทำความเข้าใจที 😂😂😂😂😂
====
📚 ต้นฉบับ
Elberse, A. (2013). Ferguson’s Formula. Harvard Business Review. (https://hbr.org/2013/10/fergusons-formula)
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#Leadership
#Management
#SirAlexFerguson
#HBR
#ภาวะผู้นำ
#สร้างทีม
#วัฒนธรรมองค์กร
#manchesterunited
#ManUtd
โฆษณา